วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563

The Best Offer (2013)

The Best Offer (2013) ปริศนาคฤหาสน์มรณะ

#ปีนรั้วรีวิว #Crime #Drama #Mystery Director: Giuseppe Tornatore
      เวอร์จิล โอลด์แมน (Geoffrey Rush) นายหน้าและนักจัดประมูลงานศิลปะโบราณ เขาเป็นคนสมบูรณ์แบบและเคร่งไปเสียทุกเรื่อง แต่ว่าเบื้องหลังของเขาเองก็ไม่ได้เป็นนักจัดประมูล ที่ซื่อตรงกับลูกค้ามากสักเท่าไหร่ แต่ในวงการศิลปะโบราณแล้ว ชื่อของโอลด์แมนก็ถือว่าเป็นมือหนึ่งที่ผู้คนเชื่อใจให้การยอมรับ เหมือนกับ แคลร์ อิบเบตสัน (Sylvia Hoeks) หญิงสาวที่ติดต่อเข้ามา เพื่อให้เขาประเมินราคาทรัพย์สมบัติ ที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ในคฤหาสน์หลังจากทั้งคู่เสียชีวิต

แต่ระหว่าง โอลด์แมนและแคลร์ กลับมีปัญหาในการติดต่อสื่อสารกันโดยตลอด ซึ่งมันทำให้เขาหงุดหงิดกับเธอมากจนไม่อยากร่วมงานด้วย กระทั่งเขาได้รู้ว่าที่ แคลร์ ผิดนัดเขาบ่อยครั้ง นั่นก็เป็นเพราะเธอป่วยด้วยโรคกลัวชุมชน (Agoraphobia) จึงทำให้เธอไม่สามารถออกมาพบเขาได้สักที หลังจากที่ทั้งสองเข้าใจกันดีแล้วและที่มากกว่าการเข้าใจก็คือ สิ่งที่ โอลด์แมน ได้พบในบ้านของเธอ มันอาจะทำเงินให้เขาได้มหาศาล

แต่ทว่ายิ่ง โอลด์แมน ได้รู้จัก แคลร์ มากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนเขาจะตกอยู่ในกับดักเสน่หาของเธอมากเท่านั้น แม้เขาจะไม่เคยเห็นใบหน้าของเธอมาก่อน จนกลายเป็นว่างานศิลปะล้ำค่าที่สุดที่ โอลด์แมน ได้พบในบ้านของ แคลร์ ในครั้งนี้ อาจจะเป็นงานศิลปะที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาอย่าง “ความรัก” ก็เป็นไปได้

***เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน***
 
      หนังดราม่า ลึกลับ จากอิตาลีที่ก่อนจะดู ผมไม่ได้ทั้งอ่านเรื่องย่อและดูตัวอย่างมาก่อน ในทีแรกเลยไม่รู้ว่าเนื้อหามันเกี่ยวกับเรื่องอะไร พอได้ดูในทีแรกก็ เอ้…เกี่ยวกับงานศิลปะมันจะไหวไหมนะ ด้วยชื่อไทยของหนังออกจะหลอกคนดูด้วยล่ะ นึกว่าเป็นหนังแนวสืบสวน ฆาตกรรม แต่เอาเข้าจริงเป็นหนัง ดราม่า โรแมนติก ลึกลับ ที่ต้องดูไปเรื่อย ๆ จนจบ เมื่อถึงบทสรุปของหนังแล้วจะรู้สึกว่า เฮ้ย…ดีว่ะ

หากให้พูดตรงๆแล้วหนังไม่ได้ซับซ้อนหรือลึกลับอย่างที่คาดหวังไว้ คือดูผ่านไปสัก 20 นาทีก็พอเดาได้แล้วว่าตัวละคร โอลด์แมน กำลังเจอกับสถานการณ์อะไรอยู่ แล้วตัวละครไหนที่กำลังปั่นหัวเขาอยู่บ้าง แทบจะเรียกว่ามีป้ายแปะบนหน้าผากเลยทีเดียว แต่ถึงหนังจะไม่ได้ปกปิดความลับของตัวเองมิดชิดอะไร คนดูอย่างเรา ๆ พอจะเดาออกได้

แต่การดำเนินเรื่องของหนังมันมีเสน่ห์บางอย่าง เหมือนกับตัวละคร แคลร์ ที่มีแรงดึงดูต่อ โอลด์แมน นั่นแหละ ที่เธอมีความลึกลับน่าค้นหา บางทีก็ผลักเราออกมา บางทีก็ดึงกลับเข้าไป ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ชายสูงวัยอย่างโอลด์แมน ไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อน โอลด์แมน ที่ใช้ชีวิตอย่างมีกรอบมาโดยตลอด เขาไม่ใช้จานชามร่วมกับใคร เขาใส่ถุงมือทุกครั้งยามที่สัมผัสกับผู้คน มีระเบียบกฎเกณฑ์แทบทุกอย่างในชีวิต แต่เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดกลับพังทลายลง ด้วยสิ่งที่เรียกว่า "ความรัก" เมื่อเขาตกหลุมรัก ทุกสิ่งอย่างที่เคยตั้งข้อแม้เอาไว้ ได้ถูกลืมไปทั้งหมด

เรียกว่าเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ตอกย้ำคำที่ว่า “ความรักทำให้คนตาบอด” เพราะในหลายครั้ง เราจะได้เห็น โอลด์แมน ตั้งคำถามกับความรักของเขา และเปรียบเทียบมันกับงานศิลปะ ว่าถ้าหากงานศิลปะสามารถปลอมแปลงได้ แล้วความรักล่ะสามารถปลอมได้หรือไม่

หนังดำเนินเรื่องไปโดยที่ในช่วงแรก เราจะได้ยินเพียงแค่เสียงของ แคลร์ แต่ไม่ได้เห็นตัวเธอเลยสักครั้ง กระทั่ง โอลด์แมน ที่อดรนทนไม่ไหวทำตัวเหมือนวัยรุ่น ตัดสินใจแอบอยู่ในบ้านเพื่อแอบดู แคลร์ นั่นแหละเราจึงได้เห็นเธอพร้อม ๆ กับเขา หลังจากนั้นเป็นต้นมาเราจึงได้เห็นเลยว่า โอลด์แมน ไม่สามารถหลุดออกจากภวังค์ความรักได้อีกแล้ว

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าถึงแม้เราจะรู้ว่า โอลด์แมน โดนปั่นหัวแน่ ๆ แต่ที่เราไม่รู้(และแอดก็คงไม่สปอย)ก็คือ พวกเขาเหล่านั้นทำไปเพื่ออะไร เพราะว่าในตอนต้นเราได้รู้ว่า โอลด์แมน เองก็ไม่ใช่คนซื่อสัตย์อะไรต่อลูกค้า ฉะนั้นคงมีเหตุผลและคนมากมายหลากหลาย ที่อยากจะเอาคืนเขาเช่นกัน ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ประคอง ความอยากรู้อยากเห็นของคนดูให้ติดตามหนังได้

ส่วนตัวผมชอบภาพรวมของหนังและบทสรุปสุดท้าย ที่มันสื่อสารข้อความของหนังได้ชัดเจนมาก The Best Offer “ข้อเสนอที่ดีที่สุด” มันไม่ใช่งานศิลปะล้ำค่าที่ไหน แต่เป็นงานศิลปะจากพระเจ้าอย่าง "ความรัก" ที่ชายแก่อย่าง โอลด์แมน ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อนต่างหาก ที่เป็นงานศิลปะล้ำค่า ที่ไม่ว่างานชิ้นไหน ๆ ก็ไม่อาจะเทียบได้อีกแล้วเมื่อเขาได้ค้นพบมัน
      สรุปแล้ว The Best Offer (2013) ปริศนาคฤหาสน์มรณะ ส่วนตัวมองว่าเป็นหนังรัก ลึกลับ ที่ขอใช้คำว่าน่าสนใจก็แล้วกัน เมื่อหนังไม่ได้บันเทิงในแง่มุม ตื่นเต้น ระทึกใจ หรือมีอะไรเซอร์ไพส์จนหงายเงิบ หนังออกจะคาดเดาง่ายด้วยซ้ำไป แต่การเล่าเรื่องมีเสน่ห์ในตัวเอง ที่แม้จะพอเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ดึงคนดูเอาไว้ได้จนหนังจบและได้เอามาตกตะกอนความคิด ตามข้อความที่หนังสื่อสารกับคนดู
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์ : The Best Offer (2013)
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...