วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Fight For My Way (2017)

#ปีนรั้วรีวิว #Comedy #Romance
      โกดงมัน (พัคซอจุน) ชเวแอรา (คิมจีวอน) เบคชอลฮี (ซงฮอยุน) คิมจูมัน (อันแจฮง) เพื่อนซี้ 4 คนที่อาศัยอยู่ใน นัมอิลวิลล่า อพาร์ทเม้นท์เล็ก ๆ ในโซล ดงมัน แอรา และชอลฮี นั้นเป็นเพื่อนซี้ร่วมกันมาตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อ ดงมัน ที่เป็นนักกีฬาเทควอนโดย้ายมายังโรงเรียนในเมือง เขาจึงได้รู้จักและกลายเป็นเพื่อนซี้กับ จูมัน ความฝันการเป็นนักกีฬาเทควันโดของ ดงมัน ต้องจบลงด้วยเหตุผลบ้างอย่าง หลังจากเรียนจบเขาจึงเป็นได้เพียงแค่พนักงานบริษัทรับกำจัดแมลง

ส่วน แอรา ความฝันของเธอก็คือการที่ในมือถือไมค์ไฟส่องหน้า การเป็นพิธีกรหรือผู้ประกาศข่าวคือความใฝ่ฝันของเธอ ทว่าในความจริงเธอได้ทำงานประจำเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ในห้างสรรพสินค้าเพียงเท่านั้น แถมยังต้องทำงานงกๆเพื่อส่งแฟนหนุ่มเรียนกฎหมาย แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งแฟนของเธอก็ไม่เคยสอบผ่านสำเร็จสมดั่งตั้งใจ

ชอลฮีกับจูมัน คู่รักที่ดูเหมือนจะมีความสุขกับสิ่งที่ทำ แม้จะไม่แน่ใจว่าสิ่งนั้นจะใช่ความใฝ่ฝันหรือเปล่า ความสัมพันธ์ก็เริ่มสั่นคลอนหลังจากคบกันมานานถึง 6 ปี แต่เป็น 6 ปีที่คนในบริษัทไม่รู้เลยว่าทั้งสองคนคือคู่รัก นั่นเลยทำให้ จางเยจิน (พโยเยจิน) น้องใหม่แสนน่ารักในที่ทำงานตกหลุมรัก จูมัน รุ่นพี่ใจดีที่คอยให้ความช่วยเหลือเธอในยามลำบากทุกครั้ง
      ซีรีส์เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องราวของตัวแทนกลุ่มคนวัยทำงาน ที่บางคนอาจจะหลงลืมตัวตน ละทิ้งสิ่งที่รักและถนัด ที่สามารถทำได้ดีไป ไม่ว่าจะจากเหตุผลอะไรก็ตาม พวกเขาจึงต้องพยายามดึงตัวเองให้กลับมาอยู่ในร่องในรอยอีกครั้งหนึ่ง

ในทีแรกที่อ่านเรื่องย่อกับดูไปสักตอนสองตอนแรก เหมือนว่าซีรี่ส์จะยกระดับตัวเองขึ้นไปจากซีรี่ส์เกาหลี โรแมนติก คอมเมดี้ พิมพ์นิยมได้ อาจไม่ใช่ว่ามีดราม่าความใฝ่ฝันจัดเต็มอะไร แต่ขณะนั้นคิดว่าน้ำหนักของเนื้อหาส่วนนี้น่าจะเยอะ แต่พอได้ดูไปเรื่อย ๆ ก็ได้รู้ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้ก็ยังเป็นซีรีส์ รักโรแมนติก คอมเมดี้ ตามสไตล์เกาหลีเช่นเดิม ที่เน้นความฟิน ฉากชวนจิ้น เซอร์วิสคนดู

คือมีอะไรแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหรือว่าผิดนะ ฉากเหล่านี้มันก็ได้ผลที่สร้างความสนุก บันเทิง ได้หัวเราะได้อมยิ้ม เนื้อหาในซีรีส์เองก็มีพูดถึงเรื่องความใฝ่ฝันอะไรต่างๆแทรกมาตลอด เพียงแต่เมื่อน้ำหนักการเล่าเรื่องไปอยู่ที่ความรักซะเยอะ พอถึงจุดที่เป็นดราม่าความใฝ่ฝันของตัวละคร มันเลยไม่สัมผัสความรู้สึกคนดูได้เท่าไหร่

ดราม่าของตัวละครอื่นดูไม่มีแผลอะไรใหญ่ แต่ดราม่าความใฝ่ฝันของ โกดงมัน นี่แหละที่แผลเยอะ คือตัวละครนี้มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักกีฬาศิลปะการต่อสู้ แต่ตลอด 16 EP แทบนับฉากได้เลยที่เราจะได้เห็นตัวละครนี้ซ้อม ในตัวละครหลัก 4 คน ดราม่าของพระเอกอย่าง โกดงมัน จึงดูจะไม่สัมผัสถึงความรู้สึกคนดู เป็นพาทที่อินน้อยที่สุดแล้

แต่ดราม่าที่ได้ผลดีที่สุดกลับเป็นเรื่องราวของคู่รอง ชอลฮีกับจูมัน อาจจะเพราะมันเป็นเรื่องราวใกล้ตัวผู้คนในยุคนี้ด้วย เมื่อคู่รักพนักงานบริษัทที่คบกันอย่างลับ ๆ มานานถึง 6 ปี ดันมีคนอื่นพยายามแทรกกลาง แล้วไม่ใช่แค่เรื่องมือที่สาม ปัญหาบางอย่างมันก็มาจากความไม่เข้ากันใจเองของทั้งสองคน เมื่อ ชอลฮี เป็นคนที่ประหยัดทุกอย่าง และมักจะทำสิ่งต่าง ๆ ให้คนรอบข้างเสมอ แล้วความที่เธอเสียสละมากเกินไปมันเลยทำให้ จูมัน รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้

เพราะมันทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนเห็นแก่ตัว จูมัน ที่ขยันทำงานทุกอย่างเพื่อหวังก้าวหน้าในการงาน ไม่อยากพูดถึงเรื่องการแต่งงานหากเขายังไม่สามารถดูแล ชอลฮี ได้ดี แต่ฝ่ายหญิงกลับคิดอีกอย่าง เมื่อเธอต้องการเพียงความสุขเล็ก ๆ ไม่ต้องมีเงินทองมากมาย ไม่ต้องมีบ้านหลังใหญ่ ปัญหาของคู่นี้มันเลยกลายเป็นว่า เพราะรักกันมากเกินไปต่างฝ่ายก็ต่างอยากทำให้คนที่รักมีความสุข เลยทำสองคนให้ไม่เข้าใจกัน

คู่พระนางหลักของเรื่องอย่าง ดงมันกับแอรา ดราม่าความฝันอาจจะดูเบาบาง แต่ในแง่ ความฟิน เซอร์วิสคนดู ต้องบอกว่ามาดี น่ารัก ใช้ได้เลย เมื่อซีรีส์เลือกให้ทั้งสองคนเริ่มต้นความสัมพันธ์จากคำว่าเพื่อน ช่วงแรกของซีรี่ย์มันจึงมีฉากแนวเพื่อนรักกั๊กเพื่อน ทำตัวเป็นสุนัขหวงก้าง คอยตามปกป้องและแยกเขี้ยวใส ่ใครก็ตามที่เข้ามาทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย ก่อนที่จะค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์เปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง หลังจากช่วงนี้ไปซีรีส์ก็จัดความฟินแบบมาเต็มล่ะ เดี๋ยวจุ๊บ เดี๋ยวกอด กันตลอด ฮ่าฮ่า

ดราม่าของคู่ ดงมันกับแอรา ที่ดูจะชวนให้เอาใจชวนหน่อยเห็นจะเป็นช่วงท้ายเรื่อง เนื้อหาเป็นเรื่องราวที่หากใครเป็นแฟนกีฬาหมัดมวย น่าจะเคยเห็นหรือได้สัมผัสความรู้สึกของคนรัก ที่ต้องนั่งอยู่ข้างเวทีเพื่อดูการแข่งขัน ถ้าหากคนรักเป็นฝ่ายชนะก็คงแล้วไป แต่หากเขาเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อน มีเลือดตกยางออกแล้วล่ะก็ แม้ผู้ชายที่ถนัดเรื่องต่อยตีจะแมนแลดูปกป้องผู้หญิงได้ก็ตาม แต่เชื่อว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหน(หรือมี)อยากเห็นคนรักต้องเจ็บตัวแน่นอน ช่วงท้ายซีรีส์จึงตั้งคำถามกับ แอรา ว่าเธอจะทนนั่งดู ดงมัน ขึ้นเป็นยืนบนเวทีเพื่อต่อสู้ได้หรือไม่
      สรุปแล้ว Fight For My Way (2017) เป็นซีรีส์ที่หากเน้นความจิ้นชวนฟินแล้ว ก็ทำได้ตามมาตรฐานซีรี่ย์เกาหลีเขาล่ะ แต่หากพูดถึงความกลมกล่อมก็อาจจะยังไม่ถึงกับลงตัวมากนัก พาทดราม่าความใฝ่ฝันของตัวละครเอกอย่าง โกดงมัน ส่วนตัวมองว่าตกหล่นไปพอสมควร กลับกลายเป็นดราม่าของคู่รอง ที่ได้ผลจับความรู้สึกของคนดูได้แทน หากมองภาพรวมแล้วก็ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ดี เบาสมอง แม้จะมีอะไรมาให้ชวนลุ้นบ้างพอให้ตื่นเต้น แต่ก็คลี่คลายได้เร็วไม่หน่วงความรู้สึกคนดูไว้นาน สายฟินน่าจะถูกใจครับ
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณภาพประกอบจากซีรีส์ : Fight For My Way (2017)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...