One Week Friends (2022) เธอกับฉันเพื่อนกันหนึ่งสัปดาห์
รับชมได้ทาง WeTV, iQIYI
สวีโย่วซู่ พยายามหลายต่อหลายครั้งในการเข้าไปทำความรู้จักกับ หลินเซียงจือ แต่ดูเหมือนจะไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่เรียก จนที่สุดแล้วเขาก็ได้รู้ความลับของ เซียงจือ ว่าเธอป่วยเป็นเป็นโรคพีทีเอสดี (โรคที่เกิดจากความเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ) ทำให้เธอไม่สามารถจดจำเรื่องราวที่ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ได้ แต่ สวีโยว่ซู ก็ยังไม่ลดละความพยายาม กระทั่ง เจี่ยงอู๋ (วังเจียฮุย) เพื่อนซี้แนะนำให้เขาแลกไดอารี่กับเธอในทุกสัปดาห์ เพื่อที่เธอจะได้รู้ว่าในแต่ละสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งดูเหมือนว่า หลินเซียงจือ จะยอมใจอ่อน เพียงแต่มันจะดีแน่หรือเปล่าที่ทั้งสองคนตัดสินใจแบบนี้ เมื่อมันอาจเปิดบาดแผลที่สมองพยายามปกปิดเอาไว้
อย่างแรกเลยมันสร้างความประหลาดใจได้ อย่างที่สองมันติดดินกลายเป็นเหตุผลรองรับ เพราะตอนแรกผมแอบขัดใจเล็ก ๆ กับการที่พระเอก พยายามอะไรขนาดนั้นกับการอยากทำความรู้จัก เลยคิดว่าครึ่งแรกของหนังเล่าเรื่องเบาบางไปหรือเปล่า แต่พอเรื่องราวเปิดเผยออกมามันเลยมีเหตุผลรองรับการกระทำตัวละครได้ ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่าพอบิดเรื่องราวออกมาจากเดิม เสน่ห์จากความหน่วงของต้นฉบับมันก็เลยหายไปด้วย พูดง่าย ๆ ว่าที่ต้นฉบับมันเป็นที่จดจำ ก็เพราะความหน่วงและบทสรุปในแบบของตัวเองนั่นแหละ แต่เรื่องราวฉบับรีเมคบิดไปทางไหนผมของไม่เปิดเผยก็แล้วกันครับ
แล้วพอมาเป็นฉบับรีเมคจีนอีกอย่างหนึ่งที่ใส่เข้ามาค่อนข้างเด่นชัด เห็นจะเป็นแนวคิด คติ แบบจีนนี่แหละครับ ที่พอเป็นหนังในวัยเรียนมัธยม ย่อมต้องใส่เนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนเข้ามาด้วย เรียกว่าจะมีความรักหรือเรื่องทุกข์ใจมากมายแค่ไหน การเรียนต้องมาก่อน กับเรื่องนี้ถือว่ายังแทรกเข้ามาได้กลมกลืนนะครับ เพราะเป็นเรื่องของตัวละครที่ต้องก้าวข้ามความทุกข์เติบโตไปอีกขั้น พอเอาไปผูกกับการจบการศึกษา การเข้ามหาลัย ก็เลยดูเข้ากันไม่ขัดเขิน
ส่วนที่ผมเสียดายในฉบับรีเมคเห็นจะเป็นฉากเปิดการพบกันครั้งแรกของพระนาง ที่ฉบับญี่ปุ่นเกิดขึ้นในห้องสมุดกับบนรถไฟฟ้า แล้วมันมีสถานการณ์ที่สร้างความทรงจำด้วยกัน ถึงจะแบบเล็กน้อยก็เถอะ (ประมาณว่าเราปิ๊งคนแปลกหน้า แล้วก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง) แต่ในฉบับจีนเลือกให้ตัวละครมาพบกันครั้งแรกในห้องเรียน ช่วงต้นเรื่องการสร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างตัวละคร ที่น้อยอยู่แล้วให้สัมผัสความรู้สึกคนดูเลยยิ่งน้อยลงไปอีก จะมาตีตื้นความรู้สึกร่วมคนดูได้หลังจากผ่านครึ่งเรื่องมาแล้ว
ในแง่ของการแสดงอาจไม่ได้มีอะไรให้พูดถึงมากนัก ด้วยความที่เป็นหนังรักวัยรุ่นแนวมาตรฐานทั่วไป พาทของบทดราม่าจะมาอยู่ที่ตัวละคร หลินเซียงจือ ของ จ้าวจินม่าย ที่ต้องแบกรับความรู้สึกอะไรไว้หลายอย่าง บทเซอร์วิสขายความร่าเริง น่ารักเลยอาจจะน้อยไปนิด ส่วนตัวละครที่สร้างสีสันเห็นจะเป็น ซ่งเสี่ยวหนาน ที่รับบทโดย เสิ่นเยว่ กับบทแก่นเซี้ยวขี้โวยวาย เป็นพระนางคู่รองกับ เจี่ยงอู๋ ที่รับบทโดย วังเจียฮุย แต่ก็เป็นคู่รองที่จะว่ายังไงดีล่ะครับ ด้วยความสัมพันธ์ของตัวละครถูกเปลี่ยนไปจากเดิม พาทดราม่าที่ช่วยเพิ่มมิติให้เรื่องราวและตัวละครของต้นฉบับเลยขาดหายไปในเวอร์ชั่นนี้ ส่วนพระเอกอย่าง สวีโย่วซู่ ที่รับบทโดย หลินอี คาแรคเตอร์จะมีความเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไป (ถ้าไม่นับความหล่อน่ะนะ) ต่างจากบทดั่งเดิมของ เคนโตะ ยามาซากิ ที่บุคลิกภายนอกจะมีความ alert มากกว่าตามแบบฉบับหนังญี่ปุ่น
ในภาพรวมผมว่าเป็นฉบับรีเมคที่ยังทำออกมาได้โอเคเลยนะครับ ไม่เสียของ ความเบาบางในช่วงครึ่งแรกถูกให้เหตุผลรองรับได้ในครึ่งหลัง เนื้อเรื่องที่บิดไปให้ความรู้สึกต่างจากเดิม ซึ่งผมว่าคนดูยังซื้อแล้วก็อินกันมันได้อยู่ นักแสดงน่ารัก มีเสน่ห์ ยิ่งส่วนตัวผมชอบทั้ง จ้าวจินม่ายกับเสิ่นเยว่ เลยบวกคะแนวความพิศวาสเพิ่มขึ้นให้อีกนิด ฮ่าฮ่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น