วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561

I Give My First Love to You (film) (2009)

I Give My First Love to You (film) (2009) เพราะหัวใจบอกรักได้ครั้งเดียว
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance

      หากเรารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน…..เราจะเลือกมีความรักหรือเปล่า เพราะเมื่อเราตายจากไปแล้วคนรักเราที่อยู่ข้างหลังเขาจะต้องทนมีชีวิตอยู่ต่อไปพร้อมกับความเสียใจ ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะสิ้นสุด ทาคุมะ (มาซิกิ โอกาดะ) เด็กหนุ่มที่ป่วยเป็นโรคหัวใจต้องเทียวเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ ทาคุมะ มีความสนิทสนมกับ มายุ (มาโอะ อิโนอุเอะ) ลูกสาวของหมอ ทากาฮิโต ที่ดูแลอาการป่วยของเขา 

      และทั้งสองคนก็ให้คำสัญญากันไว้ตามประสาเด็กๆว่าจะแต่งงานกันเมื่อสองคนโตขึ้น แต่ความโชคร้ายของ ทาคุมะ คือเขาอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงอายุ 20 ปีด้วยซ้ำ หากเขาไม่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายหัวใจซะก่อน แต่ว่า มายุ ก็ไม่ได้สนใจกับสิ่งที่จะตามมาในอนาคต เมื่อเธอเลือกที่จะรักเขาและจะอยู่ข้างๆแบบนี้เสมอไป


      แต่ ทาคุมะ เองที่เป็นฝ่ายต้องการถอยห่างออกจาก มายุ เพราะไม่ต้องการให้เธอต้องเสียใจหากเขาจะต้องจากไปจริงๆ เมื่อเรียนจบมัธยมต้น ทาคุมะ จึงตัดสินใจย้ายไปโรงเรียนประจำต่างเมืองเพื่อที่ มายุ จะไม่สามารถตามมาได้ แต่เรื่องกลับตาลปัตรเมื่อ มายุ รู้เรื่องที่ ทาคุมะ วางแผนไว้ว่าจะหนีไปยังโรงเรียนใหม่  ที่คะแนนสอบสูงๆซึ่ง มายุ ที่ไม่ค่อยจะตั้งใจเรียนก็ไม่น่าจะเข้าได้

      ก็เลยทำให้ มายุ หันกลับมาตั้งใจเรียนเพื่อที่จะสอบเข้าโรงเรียนเดียวกับ ทาคุมะ ให้ได้ ซึ่งเธอก็ทำได้สำเร็จแต่ถึงยังไง ทาคุมะ ก็ยังพยายามหนีเธออยู่ดี จนถึงวันที่ ทากาชิ เด็กหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียนเข้ามาตามจีบ มายุ  ทาคุมะ เองเลยต้องกลับมาทบทวนการตัดสินใจของตัวเองอีกครั้ง ว่าจะเลือกสูญเสีย มายุ ไปตอนนี้ หรือจะรอให้ถึงวันสุดท้ายของชีวิตจริงๆ

      หนังเรื่องนี้เองแม้จะเล่าเรื่องดราม่า และพูดถึงความรักและการสูญเสีย แต่การที่เรารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ทาคุม่า ป่วยและคงจะไม่รอดแน่ๆ จุดนี้เองมันเลยกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เรา “ทำใจ” ล่วงหน้าไปในตัวอยู่แล้วกับชะตากรรมที่มันจะต้องเป็นไป  ทำให้เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ อิมแพ็คของหนังที่มีต่อความรู้สึกเรามันก็ลดลงไปพอสมควร

      หากไม่นับเรื่องราวความรักของหนังแล้ว หากมันเกิดขึ้นจริงๆกับเรามันคงหาคำตอบให้ตัวเองได้ยากนะ ใจหนึ่งเราคงคิดแบบเดียวกับ ทาคุมะ ที่ไม่ต้องการให้ มายุ เสียใจจากการจากไปของเขา และต้องจมอยู่กับความรู้สึกนั้นไปนานเท่าไหร่ก็คงไม่มีใครตอบได้  แต่ว่าเราจะยอมหันหลังจากคนรักมาได้จริงๆหรือ

      อีกด้านนึง ทาคุมะ ก็ถือว่าเป็นคนที่โชคดี ที่ได้รักกับ มายุ ผู้หญิงที่ไม่ได้มองถึงอนาคต(แม้หนังเองจะไม่ได้ขยายออกมาว่าเป็นความรักแบบเด็กๆที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคต) แต่ยอมที่จะอยู่กับความสุขในปัจจุบัน โดยที่ไม่ได้สนใจว่าอนาคตข้างหน้าตัวเองจะต้องเจอกับอะไรบ้างหาก ทาคุมะ จากไป เพราะหากจะพูดกันถึงความเป็นจริง 

      ยิ่งกับในยุคนี้แล้วล่ะก็จะหาได้สักกี่คน ไม่ต้องเลือกว่าเพศหญิงหรือชายหรือเพศไหนหรอก ที่เมื่อจะคบกับใครสักคนแล้วจะไม่มองถึงอนาคตถึงความมั่นคงของชีวิต  ยิ่งแล้วใหญ่หากจะต้องคบกับคนที่ในอีกไม่กี่ปีก็ต้องตายจากไปแล้ว ใครจะเอาช่วงเวลาในชีวิตไปฝากไว้ ทั้งที่รู้ว่าอีกไม่นานทุกอย่างมันก็จะสูญเปล่าแล้ว

      ตัวละคร ทากาชิ เองแม้จะไม่ถึงกับมาบทบาทอะไรมาก แต่ตัวละครนี้ก็ถือว่าขาดไม่ได้และมีผลกับหนังพอสมควร เพราะ ทากาชิ เองเป็นตัวกระตุ้นความรู้สึกของ ทาคุมะ ทั้งสองด้าน ไม่ว่าจะความต้องการเสียสละ หรือกระทั่งความเห็นแก่ตัว ความกลัวที่จะเสียความรักไป แถมในตอนท้ายก็ยังมีบทบาทสำคัญในการชี้เป็นชี้ตายชีวิตของ ทาคุม่า อีกด้วย
      สรุปแล้ว เป็นหนังที่มีทั้งส่วนชอบและเฉยๆ ส่วนที่เฉยๆนะ ส่วนที่ชอบก็คงจะเป็นคาแรคเตอร์ มายุ นางเอกของเรื่องที่ชัดเจนในความรู้สึกของตัวเองเสมอ ส่วนที่ดูจะลำไยที่สุดคงจะเป็น บุคลิกของตัวละคร ทากาชิ ที่ท่ามากท่าเยอะ วอแวว ดูน่ารำคาญมากกว่าน่าจะให้สาวๆมากรี๊ดได้เลย 555

#MovieReview #รีวิวหนัง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...