วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Blue Spring Ride (2014)

Blue Spring Ride (2014) บันทึกใสจากวัยฝัน
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance

      “บางครั้งความอ่อนแอก็เป็นเครื่องมือสำคัญในการเอาชนะ” คำที่น่าจะใช้แทนการบอกเรื่องราวหลังจากหนังเรื่องนี้ผ่านไปครึ่งทาง เพราะเมื่อบางครั้งการถูกมองเป็นคนเก่ง เอาตัวรอดได้กลับกลายเป็นการถูกละเลย…หรือไม่ใส่ใจ แต่ความอ่อนแอกลับกลายเป็นเครื่องมือสำหรับบางคนที่ใช้เพื่อเรียกร้องความสนใจ และไขว่คว้าสิ่งที่ต้องการครอบครอง

      ฟูตาบะ (
เด็กสาวมัธยมที่ไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่กับเพื่อน นั่นก็เพราะเธอกลัวการไม่มีเพื่อน กลัวที่จะถูกเพื่อนหันหลังใส่ และในวันนึง ฟุตาบะ ก็ได้พบกับ ทานากะ คนคุ้นเคยที่จากไปเมื่อนานมาแล้ว แต่เด็กหนุ่มที่เธอเข้าใจว่าคือ ทานากะ เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมต้น กลับแนะนำว่าตัวเองชื่อ มาบูชิ (นั่นก็ยิ่งทำให้ ฟูตาบะ แปลกใจมากเพราะเธอมั่นใจว่าเขาคือ ทานากะ แน่นอน และสุดท้ายแล้ว มาบูชิ ก็ยอมรับว่าเขาคือคนเดียวกันกับ ทานากะ แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่คนเดิมกับที่ ฟูตาบะ เคยรู้จักมาก่อนอีกต่อไปแล้

      และในวันที่ ฟูตาบะ ได้เปลี่ยนความคิดของตัวเองก็มาถึง เมื่อต้องผิดใจกับเพื่อนในกลุ่มเพราะเธอออกตัวปกป้อง ยูริ (เด็กสาวที่ไม่มีใครคบแม้แต่คนเดียว จึงเป็นสาเหตุให้เธอเองต้องถูกเพื่อนๆแบนไม่ให้เข้ากลุ่ม ฟูตาบะ ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจึงตัดสินใจเสนอตัวเป็น 1 ใน 5 คนที่จะได้เข้าร่วมอบรมผู้นำที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น ซึ่งอีก 4 คนที่เหลือก็ยังมี ยูริ , ชูโกะ () , อายะ () , และคนที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ มาบูชิ แต่ละคนก็มีเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไปในการมาอบรมครั้งนี้  ที่จะทำให้ทั้ง 5 คนได้เรียนรู้เรื่องที่ผ่านเข้ามาและกลายมาเป็นเพื่อนแท้ที่เข้าใจความรู้สึกของกันและกัน

****เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน****
**

      Live-Action จากอนิเมะเรื่อง Ao haru ride ของอาจารย์ Io Sakisaka ซึ่งผมไม่เคยดูอนิมะคงได้แต่เขียนในแง่มุมของความเป็นหนังนะครับ  ส่วนตัวแล้วเฉยๆกับครึ่งแรกของหนังนะ  เนื้อหาจะไปเข้มข้นเอาจนช่วงที่หนังผ่านครึ่งเรื่องไปแล้ว ซึ่งหนังเองเน้นที่ปมในใจของ มาบูชิ พระเอกของเรื่องล้วนๆ จนดูจะทิ้งประเด็นความไม่เป็นตัวของตัวเองของ ฟูตาบะ ที่ปูเนื้อหามาในช่วงแรกไปซะหมดเลย ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดายนะสำหรับความคิดของผมเอง น่าจะยกมาขยายเพิ่มอีกสักหน่อยเพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่เพื่อน  เพราะสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นคนแบบนี้ มาบูชิ พระเอกของเรื่องก็มีส่วนไม่น้อยเหมือนกันจากเหตุการณ์ในอดีต

      ส่วนเรื่องราวปมในใจของ มาบูชิ เองที่หนังเล่าค่อนข้างเยอะแทบจะเรียกว่าแบ่งได้เป็นสามส่วนเลย ส่วนแรกคือปมที่มันเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ร้ายๆ  ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนไม่รักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับ ฟูตาบะ ส่วนที่สองก็คือ การที่ มาบูชิ ต้องพยายามลุกขึ้นเผชิญหน้ากับเรื่องราวความสูญเสียในอดีตที่ทำให้ตัวเองรู้สึกผิด

      ซึ่งความรู้สึกผิดนี่เองมันโยงมาถึงส่วนที่สาม เมื่อ มาบูชิ ต้องกลายเป็นคนมาแบกรับความ อ่อนแอ ความโดดเดี่ยวไม่มีใครของ ยูอิ นารุมิ (
)เด็กสาวจากโรงเรียนเก่าที่ มาบูชิ คิดว่าตัวเองเป็นคนที่ควรจะเข้าใจเธอที่สุด และตัว นารุมิ เองก็ต้องการที่จะครอบครอง มาบูชิ ไว้ เป็นคนที่เธอเรียกเมื่อไหร่เขาก็จะต้องมาหาในทันที
      เมื่อถึงตอนไคล์แม๊กซ์ของตัวละครระหว่าง ยูอิ กับ มาบูชิ เสียดายนิดนึงกับการที่หนังให้ตัวละคร ยูอิ เป็นคนตัดสินใจกับเรื่องราวทั้งหมดแทนที่จะเป็นตัว มาบูชิ เอง เพราะตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็น ยูอิ เป็นคนกำหนดเรื่องต่างๆมาตลอดเวลา แล้วพอถึงไคล์แม๊กซ์ก็ยังให้เธอเองเป็นคนตัดสินปัญหาทั้งหมดอีก  แทนที่จะให้พระเอกของเรื่องก้าวข้ามปัญหาด้วยการตัดสินใจด้วยตัวเอง เลยออกจะเสียดายนิดนึง  
และหนังเองก็ไม่ได้มีแต่เรื่องราวความรักของสองตัวละครเอกอย่าง ฟูตาบะและมาบูชิ เท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเพิ่มเต็มเข้ามาอีกด้วย  แต่ก็นำเสนอแบบเบาๆไม่ถึงกับให้น้ำหนักในส่วนนี้มากเท่าไหร่นัก
      สรุปแล้ว ถ้าพูดถึงสัดส่วนการเล่าเรื่องของหนังอาจจะยังไม่ถึงกับพอดีนัก อาจจะด้วยมีหลายประเด็นให้หยิบมาเล่าและพอเป็นหนังเลยมีไม่เวลามากพอ บางเรื่องบางประเด็นก็ทิ้งไปเฉยๆ  แต่ถ้าเขย่ารวมกันแล้วมองภาพรวมทั้งหมด  หนังก็ยังตอบโจทย์คอหนังรักญี่ปุ่นที่ชอบความฟินได้อยู่นะ 

#MovieReview #รีวิวหนัง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...