วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2561

Close Knit (2017)

Close Knit (2017) aka Karera ga honki de amu toki wa (2017)
#ปีนรั้วรีวิว #Drama 

      โทโมะจัง (คาคิฮาระ รินกะ) เด็กน้อยที่อาศัยอยู่กันสองคนแม่ลูก ที่คนเป็นแม่นั้นมักจะเหนื่อยหน่ายกับการทำงานกับชีวิตของตัวเองที่เป็นอยู่เหลือเกิน จนวันนึงเธอแม่ของ โทโมะจัง ตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปกับผู้ชายเพื่อชีวิตใหม่ ทิ้งโน้ตไว้เพียงหนึ่งใบบอกกับลูกสาวให้ไปอยู่กับ โอกาวะ มากิโอะ (คิริทานิ เคนตะ) น้าชายของ โทโมะจัง

      แต่ว่าตอนนี้ มากิโอะ เองก็ไม่ใช่คนหัวเดียวกระเทียมลีบอีกแล้ว เพราะเขาเองใช้ชีวิตร่วมกับ รินโกะ (อิคุตะ โทมะ) สาวประเภทสอง ที่น้าชายเองก็กังวลว่าหลานจะเข้าใจหรือเปล่า และทั้งสองคนจะเข้ากันได้มั้ย แต่กลายเป็นว่าเพียงเวลาไม่นานทั้ง โทโมะจังและรินโกะ กลับสามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี ถึงแม้รินโกะ จะเป็นคนเจ้าระเบียบและ โทโมะจัง เป็นเด็กที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่นักก็ตาม


      แต่ปัญหาของ โทโมะจัง กลับไม่ได้อยู่ที่บ้าน เมื่อเพื่อนที่โรงเรียนพอรู้ว่า โทโมะจัง อยู่บ้านเดียวกับน้าชายที่มีแฟนเป็นสาวประเภทสอง โทโมะจัง กลับโดนเพื่อนๆล้อเลียน จนทำให้เธอไม่อยากจะไปโรงเรียนอีกเลย และยังมีความรู้สึกของ รินโกะ ที่ผูกพันกับ โทโมะจัง จนอยากให้เธออยู่เป็นครอบครัวด้วยกันตลอดไป

      คงต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า Close Knit (2017) นี่เป็นหนัง LGBTQ เรื่องแรกที่ได้เขียนถึง ยังไงหากมีอะไรผิดพลาด เข้าใจผิด หรือใช้คำที่อาจจะทำให้สื่อความหมายไม่ชัดเจนนัก ต้องขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนเลยนะครับ

      Close Knit (2017) เรื่องนี้เอาจริงเป็นหนังที่นำเสนอในแง่มุมเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมุมมองของสังคมที่ยังมองคนในกลุ่ม LGBTQ ในสายตาไม่ปรกติเหมือนคนทั่วไป รวมทั้งเรื่องของการยอมรับตัวตนที่ตัวเองเป็น เพราะในช่วงวัยเด็กที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านสู่วัยรุ่น หลายคนที่เป็นเพศทางเลือกอาจจะเคยสับสนกับสิ่งที่ตัวเองเป็น และไม่สามารถบอกกับใครหรือปรึกษาใครได้ เพราะความกลัวในใจว่าหากบอกกับพ่อแม่ หรือ ใครบางคนไปแล้วเขาจะไม่เหมือนเดิม รวมทั้งความรู้สึกของการอยากที่จะมีครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างการมีลูก

      รินโกะ สาวประเภทสองที่พบรักและอยู่กินกับ มากิโอะ เมื่อ โทโมะจัง เข้ามาอยู่ในครอบครัวของเธอมันก็เหมือนการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้กันและกัน เมื่อ โทโมะจังเอง มีแม่ที่ไม่มีความรับผิดชอบมักจะทอดทิ้งเธอให้อยู่ตามลำพังเสมอ ส่วน รินโกะ เองด้วยความที่เป็นสาวประเภทสอง ชัดเจนอยู่ในตัวเองแล้วว่าเธอไม่มีสามารถมีลูกให้กับ มากิโอะ ได้ การได้อยู่ร่วมกันครั้งนี้ของทั้งสามคนมันเลยเหมือนการเติมเต็มให้กันและกันให้สมบูรณ์

      ในเรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ รินโกะ ที่เป็น LGBTQ แต่ยังมี ไค (kaito komie) เพื่อนร่วมชั้นเรียนของ โทโมะ ที่กำลังสับสนกับตัวเองเมื่อเขามีความรู้สึกบางอย่างกับเพื่อนผู้ชายคนนึงในโรงเรียน ซึ่ง โทโมะจัง เป็นเพียงคนเดียวที่เขากล้าบอกความรู้สึกในใจ

      สองตัวละครอย่าง รินโกะกับไค มีทั้งความเหมือนและต่างกัน เมื่อ รินโกะ มีแม่ที่รักและเข้าใจในสิ่งที่ลูกของเธอเป็น ทำให้ รินโกะ เติบโตมาอย่างมีความสุข สามารถดูแลคนอื่นได้ มีความเป็นผู้หญิงเต็มตัว และเธอยังหาทางจัดการความโกรธของตัวเองได้  เมื่อเจอความกดดันจากสังคมภายนอก ต่างจาก ไค เด็กที่กำลังสับสนแต่กลับไม่มีใครเข้าใจ รวมถึงแม่ของตัวเองที่พยายามไม่ให้ลูกชายคนนี้เฉียดเข้าใกล้ รินโกะ แม้แต่นิดเดียว

      ถึงแม้หนังเองจะพูดถึงประเด็นดราม่าต่างๆก็จริง แต่การนำเสนอของหนังเองนั้นกลับไม่ได้ซีเรียสแม้แต่น้อย หนังค่อนข้างมีความ สดใส ละมุน ตามสไตล์หนังรักญี่ปุ่น แล้วยิ่งกับ รินโกะ ที่รับบทโดย อิคุตะ โทมะ เอาจริงถึงพ่อหนุ่ม โทมะ เองรูปร่างหรือหน้าตาจะไม่ได้ดูออกสาวขนาดนั้น แต่ในเรื่องนี้ของชมว่าสื่อสารความรู้สึกของตัวละครออกมาได้ดี จริตจะก้าน ทำให้เราเชื่อได้ว่าเขาคือสาวประเภทสองที่มีความรู้สึกเป็นผู้หญิงจริงๆ คือมันดูละมุน นุ่มนวล ไปซะหมด
      สรุปแล้ว Close Knit (2017) เป็นหนังที่มีเนื้อหากลุ่ม LGBTQ ที่แม้จะนำเสนอปมประเด็นดราม่าเดิมๆของกลุ่มเพศทางเลือก แต่ก็เสนอออกมาได้ตรงประเด็น  ดูง่าย ย่อยง่าย คนดูสามารถเข้าถึง เข้าใจความรู้สึกของกลุ่มเพศทางเลือกมากขึ้นผ่านเนื้อหาของหนังได้แน่ๆ

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...