วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561

Jailbreak (2017)

Jailbreak (2017) ดุซัดเดือด 
#ปีนรั้วรีวิว #Action #Comedy

      หลังจากบ้านเราเองประกาศศักดาจากหนังแอคชั่น Martial Art อย่าง องค์บากและต้มยำกุ้งไปแล้ว หลายปีให้หลังมาเพื่อนบ้านอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย ก็มีหนังที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลกได้เช่นกันอย่าง The Raid ทั้งสองภาค จนเมื่อปีที่แล้วบ้านใกล้เรือนเคียงติดกับเราอย่างกัมพูชาก็ริเริ่มสร้างหนังแอคชั่น Martial Art กับเขาบ้างเหมือนกัน ซึ่งหลังจากดูจบคิดว่าทำออกมาได้โอเคเลยนะ รายละเอียดเป็นไงมาว่ากัน

      ณอน พอล หัวหน้าทีมกองกำลังพิเศษเดินทางมาคัดเลือกตำรวจหน้าใหม่ เพื่อเข้าจับกุมและคุ้มกันสามีของหัวหน้ากลุ่ม Butterfly Gang กลุ่มมาเฟียที่มีผู้นำและสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง สิ่งที่ทางตำรวจต้องการก็คือให้เขาเป็นพยานซัดทอดความผิดเมียของตัวเอง การเข้าคุมตัวและพาตัวไปฝากขังดูจะเป็นไปตามแผนทุกอย่าง การเดินเข้าเรือนจำที่ดูจะสะดวกไปหมดทุกอย่างมันตรงข้ามกับการหาทางออกจากคุก 


      เมื่อหัวหน้าแก็งค์ Butterfly สั่งให้ลูกน้องที่อยู่ในคุกชิงตัวสามีของตัวเองกลับมาให้ได้ แต่ความยุ่งยากของทีมคุ้มกันไม่ใช่แค่นี้เมื่อนักโทษคนอื่นในคุกแห่งนั้นก็อยากร่วมแจมในการชิงตัวประกันนี้เหมือนกัน เพื่อที่จะจับตัวประกันมาเรียกค่าไถ่จากแก็งค์มาเฟียกับเขาด้วยเหมือนกัน ความวายป่วงสุดเดือดในคุกจึงเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่นั้น

      หลังจากที่ดูจบแล้วต้องบอกว่าขอปรบมือให้เลยนะ คือภาพรวมหนังเองอาจจะไม่ได้จัดว่าเป็นหนังแอคชั่นที่สุดยอดอะไร แต่ฉากแอคชั่นในหนังเรื่องนี้เชื่อได้ว่าตอบโจทย์คอหนังแอคชั่น Martial Art ได้แน่นอน แม้อาจจะยังไม่เดือดเท่า The Raid แต่ส่วนตัวแล้วหนังทำได้ดีตามมาตรฐาน แถมหลายๆฉากต่อสู้ก็ดีไซน์ออกมาดูดีทีเดียวเลย

      ที่บอกว่าความเดือดมันอาจจะไม่ถึงใจส่วนหนึ่งอาจจะด้วยหนังเองทำออกมาเป็นหนัง แอคชั่น ตลก อารมณ์หนังมันเลยมีความรู้สึกขัดกันอยู่ไม่น้อย เมื่อฉากแอคชั่นทำได้มันส์ถึงใจแต่กลับมีความตลกฝืดเข้ามาแทรก ความเดือดของฉากแอคชั่นมันเลยดรอปลง ถ้าหนังเองตัดสินใจทำให้ออกมาจริงจัง เน้นความ ดุเดือด สะใจ เชื่อว่าอารมณ์หนังคงพุ่งไปได้มากกว่านี้อีก

      เรื่องบทหนังดูแล้วก็มีปัญหาไม่ต่างกับหนังแอคชั่นไทยเราเองนี่แหละ หนังเองไม่ได้กล่าวที่มาที่ไปและผูกความสัมพันธ์ตัวละครกันไว้หลวมๆ เหมือนพยายามจะใส่รักสามเศร้าเข้ามานิดหน่อย ไม่ได้ปูเนื้อเรื่องส่วนนี้แล้วก็ดูจะทิ้งไปดื้อๆเลยเช่นกัน

      หนังยังได้ Tharoth Sam มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ เธอเองเป็นทั้งดาราและนักสูMMA ตัวจริงอีกด้วย และเธอเองก็ทำหน้าที่ในฉากแอคชั่นได้ดีเพียงแต่ว่าบทอาจจะไม่ได้ส่งให้เธอได้บู๊เท่าไหร่นัก เมื่อต้องให้หนุ่มๆในทีมที่แอบมองอยู่คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ

      ส่วนพระเอกคู่ของเรื่องอย่าJean-Paul Ly กับ Dara Our ก็บู๊ได้มันส์ทั้งสองคน เรียกว่าสอบผ่านสำหรับการเป็นพระเอกหนังแอคชั่นได้สบายๆ เพียงแต่ความผาดโผนตามสไตล์หนัง Martial Art อาจจะลีลายังไม่ถึงใจจนเราต้องร้อง…ว้าววววได้ แต่ก็ไม่แน่ว่าเรื่องต่อๆไปของทั้งสองคน หากมีออกมาก็อาจจะทำได้ดีมากขึ้นไปอีก 

      นักแสดงอย่าง Iko Uwais เองที่ดังจาก The Raid ผลงานก่อนหน้าอย่าง Merantau ก็ไม่ได้เปรี้ยงในทันทีเหมือนกัน หรือ ดอนนี่ เยน เองก็เป็นเล่นหนังมาตั้งหลายปีกว่าจะปังกับหนังดังอย่าง ยิปมัน ก็จนอายุมากแล้ว บางทีนักแสดงแอคชั่นบางคนก็ต้องอาศัย โอกาส จังหวะ เวลาที่มันพอดี หรือไม่แน่ว่าอนาคตอาจจะมีหนังร่วมทุนกับบ้านเราก็ได้ใครจะไปรู้
      สรุปว่า Jailbreak (2017) เป็นหนัง Action Martial Art บอกได้เลยว่าผ่านนนนนแน่นอน เพียงแต่หนังเองอาจจะไม่ได้แปลกใหม่หรือมีอะไรให้เราว้าววววไปกับหนังเท่านั้น ฉากแอคชั่นทำได้ดี มองข้ามเรื่องบทกับมุกตลกแป๊กๆไป คุณจะบันเทิงกับหนังเรื่องนี้ได้แน่นอน

#MovieReview #รีวิวหนัง











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...