Keep Watching (2017) แอบจ้อง ส่องตาย
#ปีนรั้วรีวิว #Horror #Thriller
เมืองหนึ่งที่ในตอนนี้เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องยกครัวหลายคดี และสมาชิกในครอบครัวบางคนก็หายตัวไปอย่างไร้ล่องรอย เหลือแต่เพียงกล้องที่คนร้ายติดไว้เพื่อแอบสอดส่องพฤติกรรมคนในบ้านเพียงเท่านั้น ที่หลงเหลือเป็นหลักฐานภายในบ้าน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อในเรื่องราวที่เกิดขึ้น บ้างก็ว่าเป็นการกุข่าว บ้างก็ว่าเป็นการโปรโมทรายการทีวีเพื่อเรียกเรตติ้งของช่องโทรทัศน์
และคงไม่มีใครคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเองเหมือนกับครอบครัว มิเชล ที่เพิ่งกลับจากต่างเมือง พวกเขากลับเข้ามาในบ้านโดยที่ไม่รู้ว่ามีใครบางคนรอพวกเขาอยู่ ทุกซอกทุกมุมภายในบ้านเต็มไปด้วยกล้องแอบถ่ายเพื่อดูพฤติกรรมผู้คนในบ้าน ก่อนที่จะค่อยๆเล่นเกมจิตวิทยาสร้างความหวาดกลัว และจัดการให้ทุกคนเล่นตามเกมของตัวเองเพื่อสนองความบันเทิงให้กับผู้คนที่คอยดูพวกเขาผ่านการถ่ายทอดสด เกมแมวจับหนูภายในบ้านจึงเริ่มขึ้น เพียงแต่ว่าแมวตัวนี้อาจจะมีความใจดีหน่อยตรงที่ จัดเตรียมเครื่องทุ่นแรงไว้ให้เหล่าหนูเอาชีวิตรอดออกจากบ้านนี้ไปให้ได้ ที่สุดก็เพื่อความสมน้ำสมเนื้อและความบันเทิงของผู้ชม
เห็นตัวอย่างเมื่อช่วงปลายๆปีที่แล้วแถมหนังตัดตัวอย่างออกมาซะน่าดู แต่เอาจริงก็เผื่อใจอยู่บ้างเหมือนกันเพราะเมื่อฉายจริงกระแสค่อนข้างเงียบมากๆ พอได้ดูเองจริงๆแล้วก็พอเข้าใจนะว่าช่วงครึ่งแรกของหนังมันค่อนข้าง สงบนิ่ง แล้วก็น่าเบื่อมากๆ เพราะเหตุการณ์ในหนังเราจะได้เห็นคนพฤติกรรมของคนในครอบครัว มิเชล ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวของบ้านอย่าง เจมมี่ มิชเชล (เบลล่า ธอร์น) หรือ น้องชาย จอห์น มิชเชล และพ่อแม่ของทั้งคู่ผ่านกล้องที่ถูกซ่อนเอาไว้ และผ่านสายตาของคนร้ายเท่านั้นเอง
กว่าหนังจะเริ่มกระตุกคนดูให้สะดุ้งตื่นหรือหันมาสนใจกับหนังได้ก็เมื่อผ่าน 40 นาทีของหนังไปแล้ว ที่ฆาตกรเริ่มเล่นสงครามประสาทกับคนในบ้าน และเก็บเหยื่อไปทีละรายๆ ฉากฆาตกรรมก็ธรรมดามากไม่ได้มีความโหดหรือเลือดสาดอะไร สิ่งที่หนังพอจะทำให้เราติดตามไปได้จนจบก็คงจะเป็นชะตากรรมของตัวละครที่ยังมีชีวิตรอดว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะไปได้ตลอดรอดฝั่งไหม
เพราะทุกอย่างที่แต่ละคนตัดสินใจทำมันถูกมองผ่านกล้อง และการตัดสินใจของตัวละครมันได้ถูกกำหนดทิศทางเอาไว้หมดแล้ว แต่ก็เป็นหนังที่เล่นกับภาพกับกล้องได้ดีนะ สร้างบรรยากาศอึมครึมไม่น่าไว้ใจภายในหนังได้ดี เพียงแต่ว่าพลังของหนังมันดูจะไปไม่ถึงกับที่คนดูคาดหวังเอาไว้เท่านั้นเอง คือเอาจริงพฤติกรรมของตัวละคร มันก็เกือบๆจะลำไยเกือบน่ารำคาญในการตัดสินใจแต่ละครั้งอยู่เหมือนกัน เพราะทิศทางของหนังมันก็พอจะเดาได้ว่ามันถูกกำหมดไว้แล้ว ในใจก็คิดๆเหมือนกันว่าแต่ละอย่างที่ตัวละครทำนี่เหมือนรนหาที่ตายชัดๆ
แต่พอบรรยากาศในหนังมันทำให้เชื่อได้ว่า ตัวละครนั้นอยากเอาตัวรอดออกไปจากบ้านมากกว่าที่จะอยู่รวมกันตั้งรับอยู่ในบ้าน มันก็พอจะหยวนๆมองข้ามสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้วแต่มันกลับผิดพลาดได้
ตอนจบหนังเองเฉลยบางอย่างออกมาได้ดีนะ หนังทั้งเรื่องรู้สึกว่ามันเจ๋งแค่จุดนี้นี่แหละ 555
สรุปแล้ว Keep Watching (2017) เป็นหนังที่ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย แต่หากจะดูก็เตรียมใจไว้สักนิดว่าครึ่งแรกของหนังมันจะอืดดดดเป็นมาม่าไปซักหน่อย แต่พอผ่านมาได้แล้วหนังก็พอให้ความบันเทิงกันเราได้ระดับหนึ่ง ก็ลองๆวัดใจกันดูแล้วกัน 555
#MovieReview #รีวิวหนัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น