วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

Just Only Love (2019)

Just Only Love (2019) ความรักคืออะไร

      เรื่องราว ความรักที่ไม่พอดี ของ เทรุโกะ ยามาดะ (Yukino Kishii) สาวพนักงานบริษัทที่มีความสัมพันธ์แบบไม่ระบุสถานะกับ มาโมรุ ทานากะ (Ryô Narita) หนุ่มมาดเซอร์ที่ทำงานเกี่ยวกับนิตยสาร เทรุโกะ จะเป็นฝ่ายวิ่งไปหา มาโมรุ ก่อนทุกครั้งที่เขาเรียกหา เช่นเดียวกับวันนี้ที่ เทรุโกะ เพิ่งเลิกงานกลับถึงบ้านมาเหนื่อย ๆ แต่ทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จาก มาโมรุ ซึ่งบอกว่าเขาไม่สบายและอยากให้เธอไปหา เทรุโกะ กลับบอกเขาว่าเธอเพิ่งเลิกงานกำลังจะออกจากบริษัทและสามารถไปหาเขาตามคำขอร้องได้

      เมื่อไปถึงที่พักของ มาโมรุ เธอพยายามดูแลเอาใจใส่เขา แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความรำคาญใจก่อนจบลงด้วยการที่เขาให้เธอกลับบ้านไปซะ ความสัมพันธ์ระหว่างของทั้งสองคนเป็นแบบนี้เรื่อยมา สลับกันไปมาระหว่างที่ มาโมรุ ต้องการพึ่งพาอะไรเธอเขาก็จะโทรหา แล้วเมื่อไหร่ที่ เทรุโกะ หมดประโยชน์เขาก็จะหายไปจากสาระบบชีวิตเธอ

ทั้งสองคนรู้จักกันในงานแต่งงานของคนรู้จัก ซึ่งฝ่าย มาโมรุ เป็นฝ่ายเข้ามาทักทาย ก่อนที่ทั้งสองคนจะพัฒนาความสัมพันธ์บนความเป็นเพื่อน ก่อนจะขยับสถานะขึ้นมาเป็นมากกว่านั้น ทว่ามันก็ไม่เคยเลื่อนไปถึงขั้นคบกันเป็นแฟน แถมการที่ เทรุโกะ มาคบกับ มาโมรุ แบบไม่ระบุสถานะ มันก็ทำให้แพสชั่นในการทำงานของเธอหมดไป เมื่อเป้าหมายในชีวิตของ เทรุโกะ คือการได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของ มาโมรุ ทั้งที่เธอก็ไม่รู้ว่าเขาอยากมีเธอเป็นส่วนหนึ่งในนั้นหรือเปล่า

      หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบแล้วผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันนะว่า ความรักคืออะไรเพราะตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอดในเรื่องนี้เหมือนกัน ฮ่าฮ่า แต่มีอย่างหนึ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้ก็คือ ความรู้สึกมันต้องพอดีกัน คำความ พอดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ ให้รักอีกฝ่ายและไม่ลืมรักตัวเองเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความรักระหว่างทั้งสองคนมันต้อง พอดี กัน ไม่ใช่การที่ใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทุ่มเทให้ แล้วอีกฝ่ายกลายเป็นผู้รับอยู่ข้างเดียว เพราะถึงต่อให้การทำแบบนี้อาจจะเรียกได้ว่าความรัก แต่มันก็คงไม่ดีและอาจทำร้ายตัวเองแน่ ๆ เหมือนกับที่ เทรุโกะ มักจะนึกถึงความรู้สึกของ มาโมรุ ก่อนความรู้สึกของตัวเองเสมอ เธอจะบอกเขาว่า ไม่เป็นไร ได้เสมอ ไม่มีปัญหาตลอดเวลา ทั้งที่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น ซึ่งการที่ เทรุโกะ เป็นแบบนี้นี่แหละถึงได้ทำให้ มาโมรุ ไม่เห็นความสำคัญของเธอเลย

เขากลับไปชื่นชอบ สุมิเระ (Noriko Eguchi) สาวใหญ่ที่เจอกันในงานนัดบอด ผู้หญิงที่ไม่ใส่ใจอะไรแม้กระทั้งการดูแลตัวเอง แต่ มาโมรุ บอกว่าเขาชอบ สุมิเระ ก็เพราะเธอเป็นแบบนี่นั่นแหละ ซึ่งเรื่องราวในพาทนี้ของ มาโมรุ กับ สุมิเระ มันก็สะท้อนภาพเดียวกันกับความสัมพันธ์ระหว่าง เทรุโกะ กับ มาโมรุ เมื่อระดับความรู้สึกของ มาโมรุ กับ สุมิเระ มันก็ไม่เท่ากัน เพราะคราวนี้กลับเป็นฝ่ายผู้ชายที่คอยไล่ตามผู้หญิงแบบ สุมิเระ ที่ไม่เหลียวแลเขา

      หนังมีอีกหนึ่งความสัมพันธ์แบบไม่ระบุสถานะระหว่าง โยโกะ (Mai Fukagawa) เพื่อนสนิทของ เทรุโกะ กับ นากามุระ (Ryûya Wakaba) หนุ่มช่างภาพที่เป็นฝ่ายอยู่ใต้อาณัติของ โยโกะ การที่เขาจะไปจะมานั้นขึ้นอยู่กับคำพูดของเธอเพียงอย่างเดียว ความสัมพันธ์ทั้งสามคู่ 5 คนในหนังเรื่องนี้ จึงสะท้อนภาพของการที่แต่ละคนเป็นฝ่ายให้และฝ่ายรับอยู่ด้านเดียว ถ้าจะพูดแบบประโยคเดียวสั้น ๆ ให้เข้าใจง่ายคงต้องใช้คำว่า การเป็นของตายมันไม่มีความหมายการที่ตอบสนองอีกฝ่ายอยู่ข้างเดียวจะให้อยู่ให้ไปยังไงก็ได้ มันเท่ากับเป็นการลดความสำคัญคุณค่าต่ออีกฝ่ายของตัวเองลง

บทสรุปของความสัมพันธ์แต่ละคู่แม้หนังจะไม่ได้สื่อให้เห็นอย่างชัดเจน แต่การที่หนังสรุปความสัมพันธ์ระหว่าง โยโกะ กับ นากามุระ ในแบบนั้น แม้มันจะเป็นปลายเปิดที่ยังให้คำตอบไม่ได้ แต่ส่วนตัวผมก็มองว่ามันสะท้อนได้อย่างหนึ่ง ว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ นากามุระ ที่เป็นฝ่ายไปหา โยโกะ เพียงข้างเดียวอีกแล้ว การที่เราถอยกลับมาอยู่กับตัวเองใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี เราที่หายไปจากชีวิตของอีกฝ่าย หากเขารู้สึกต้องการหรือขาดเราไม่ได้จริง ๆ เขากับเราก็จะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาเจอกันคนละครึ่งทาง ไม่ใช่การบอกแค่ว่า คิดถึงจังมาหาหน่อยเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น ไม่ใช่สิ ฮ่าฮ่า

หากพูดถึงการดำเนินเรื่องของหนังก็ตามสไตล์หนังญี่ปุ่นนั้นแหละ เนิบนาบ ช้า ซึ่งคอหนังญี่ปุ่นคงไม่มีปัญหากับส่วนนี้อยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งก็คงบอกได้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะอินไปกับหนังเรื่องนี้ แม้หนังจะเล่าแง่มุมของความรักที่มัน mass อย่างการรักข้างเดียว แต่หนังเลือกวิธีการเล่าที่มันไม่ mass สำหรับคนที่ไม่ได้มีประสบการณ์ตรงเหมือนตัวละคร ก็อาจจะเข้าไม่ถึงหนังได้เหมือนกัน หนังเป็นผลงานการกำกับของ ริกิยะ อิไมซุมิ ซึ่งผลงานก่อนหน้าของผู้กำกับคนนี้ที่ผมเคยดูก็คือ Our Blue Moment (2018) ส่วนตัวผมชอบ Our Blue Moment มากกว่านะ แม้จะเล่าท่ายากคล้าย ๆ กัน แต่ผมว่าเรื่อง Our Blue Moment มันมีเสน่ห์มากกว่า อันนี้รสนิยมแล้วก็ความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ เลยนะครับ

      สรุปแล้ว Just Only Love (2019) ความรักคืออะไร เป็นหนังที่หากใครมีประสบการณ์ตรงเหมือนกันกับตัวละคร เชื่อว่าจะอินกับหนังได้ไม่ยากเลย แต่ถ้าไม่ใช่แล้วหากไม่ใช่แฟนหนังญี่ปุ่นหรือดูหนังที่เล่าท่ายากได้ อาจจะรู้สึกไม่อินไปกับหนังได้เหมือนกัน หลังจากดูผลงานของผู้กำกับคนนี้มาสองเรื่องละ แม้จะบอกได้ว่าเป็นผู้กำกับที่งานมีเสน่ห์เฉพาะตัว แต่ก็ต้องบอกว่าไม่แปลกใจเลย หากรสชาติหนังจะไม่ถูกปากคนดูหนังโดยทั่วไป

ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ Just Only Love (2019) Distributor: Elephant House

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...