Escape Room (2019) กักห้อง เกมโหด
#ปีนรั้วรีวิว #Action #Adventure #Horror Director: Adam Robitel "6 แปลกหน้าท้าความตาย" 6 คนแปลกหน้าที่ได้รับกล่องปริศนา พร้อมคำเชิญชวนให้เข้าร่วมเล่น Escape Room เกมห้องปริศนาชื่อดัง ที่ผู้ชนะห้องปริศนาทุกด่าน จะได้เงินรางวัลเป็นการตอบแทน ทั้ง 6 คนประกอบด้วย เบน มิลเลอร์ (Logan Miller) หนุ่มพนักงานร้านซุปเปอร์มาเก็ตที่ติดเหล้า เหตุผลที่เขาตัดสินใจเข้าร่วมเล่นเกมนี้ เพราะอยากจะเอาเงินรางวัลไปสร้างชีวิตใหม่โซอี้ เดวิส (Taylor Russell) สาวนักศึกษาที่แม้เธอจะเก่งเข้าขั้นอัจฉริยะ แต่เธอเข้ากับเพื่อนคนไหนไม่ได้เลย เพราะเอาแต่พูดในสิ่งที่เกินความเข้าใจของคนอื่น เจสัน วอล์คเกอร์ (Jay Ellis) โบรกเกอร์หนุ่มที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ได้รับกล่องปริศนาพร้อมบัตรเชิญ จากลูกค้ารายหนึ่งของเขา สิ่งที่ทำให้ เจสัน ไม่สามารถปฏิเสธเกมนี้ได้ ไม่เพียงแต่เป็นคำเชิญของลูกค้า แต่สำหรับเขาแล้วเงินเท่านั้นที่เป็นคำตอบ
ไมค์ โนแลน (Tyler Labine) ลุงคนขับรถบรรทุกที่กลัวว่าตัวเองจะต้องตกงาน เพราะจะถูกเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ จึงอยากจะนำเงินรางวัลมาเป็นทุนเปิดกิจการเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง อแมนด้า ฮาร์เปอร์ (Deborah Ann Woll) สาวสวยมาดเท่ ที่ตัวตนของเธอยังเป็นปริศนา
และคนสุดท้าย แดนนี่ ข่าน (Nik Dodani) เกมเมอร์หนุ่มที่ชื่นชอบ Escape Room เขาคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเมนี้ และใฝ่ฝันมาตลอดว่าจะมีโอกาสได้เล่นกับเขาสักครั้ง แต่ที่ แดนนี่ และอีก 5 คนที่เหลือ ไม่ได้เตรียมใจรับกับเกมที่ว่านี้ ก็คือ เล่นจริง เจ็บจริง ตายจริง หนังระทึกขวัญกับดักในห้องปิดตาย ที่ตัวละครต้องพยายามไขปริศนาเพื่อเอาชีวิตรอด ขอสปอยนิดนึงว่าแต่ละคนที่ได้รับเชิญมาเล่นเกม ต่างมีปูมหลังและเหตุผล ซึ่งส่วนที่ว่านี้ผมค่อนข้างชอบนะ มันดูเป็นเหตุผลที่โคตรกวน แต่มันก็ดูมีอะไรน่าสนใจ ฟังขึ้น สำหรับการจะเอาคนสักกลุ่มนึงมาอยู่รวมกันเพื่อเอาชีวิตรอด
หนังเปิดตัวได้ดีในเกมแรก ๆ เพราะเรื่องราวต่าง ๆ ที่ยังเป็นปริศนา ทำให้สามารถดึงความสนใจใคร่รู้ของคนดูเอาไว้ได้ แต่หลังจากผ่านเกมแรกมาได้เท่านั้น แรงดึงดูของหนังเริ่มลดลง สลับกับน่าสนใจ ตื่นเต้น ในบางห้องของเกม เพราะปริศนาแต่ละห้องที่หนังใส่เข้ามา
บางเกมมันดันไม่สร้างสถานการณ์ ชวนลุ้น เอาใจช่วยเท่าไหร่ แล้วดราม่าการเอาชีวิตรอด การทะเลาะถกเถียงกัน มันก็ไม่ได้มีปมประเด็นอะไรน่าสนใจมากพอ เพราะกว่าที่ปูมหลัง เหตุผล ของการที่ทุกคนต้องมาเล่นเกมนี้ จะถูกเฉลยออกมาก็ช่วงท้าย ๆ ของหนังแล้ว
หากเอาหนังเรื่องนี้ไปเทียบกับหนังแนวเดียวกันเรื่องอื่น ๆ เอาตรงๆหนังอย่างพวก SAW หรือ CUBE ที่สร้างมาก่อน ยังทำได้สนุกกว่าเยอะ แต่ถ้าไม่หยิบเอาเรื่องที่กล่าวถึงมาเทียบ Escape Room (2019) เรื่องนี้ ก็ยังถือว่าพอตอบโจทย์ความบันเทิงได้ในระดับนึง หากไม่ได้คาดหวังปริศนาที่ ฉลาด เหนือชั้น ซับซ้อนใช้ความคิดเยอะ ๆ
หรือขายความโหดเล่นเกมวัดใจตัวละครอย่าง ก็พอถูไถไปวัดไปวาได้ จริง ๆ อยากจะพูดถึงสาเหตุ ของการที่แต่ละคนถูกจับมาเล่นเกมด้วย เพราะมันมีความน่าสนใจ ดราม่าด้วย แต่เดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยเนื้อหาไปซะก่อน เลยให้ให้ไปดูเอาเองก็แล้วกัน
สรุปแล้ว Escape Room (2019) กักห้อง เกมโหด เป็นหนังแนวจับคนมาเล่นเกมเดิมพันชีวิต ที่ความบันเทิงอาจจะไม่สม่ำเสมอมากนัก บางห้องก็สนุกตื่นเต้น บ้านห้องก็กร่อยไปหน่อย โดยรวมยังถือว่าให้ผ่านสำหรับการดูเพื่อความ ระทึกขวัญบันเทิง ไม่มีปมดราม่าเข้มข้นอะไร หนังจบแบบทิ้งเชื้อไว้ว่าจะมีต่อภาคสอง แล้วตอนนี้ก็ถ่ายทำเสร็จมีตัวอย่างออกมาให้รับชมกันแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ระบาดของโรค ดูแล้วอาจจะมีโอกาสน้อยที่จะได้ดูในโรง คงต้องรอว่าสตรีมมิ่งเจ้าไหนจะซื้อมาฉายครับ เนื้อหาภาคต่อดูแล้วคงมีปมอะไรมากขึ้นกว่าเดิม เพราะตัวละครที่รอดชีวิต รู้อะไรหลายอย่างที่มันถูกเปิดเผยออกมาแล้ว
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Escape Room (2019)
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม: https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ
#MovieReview #รีวิวหนัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น