Review: Thicker Than Water (2018)

 Thicker Than Water (2018) ข้นกว่าน้ำ…ก็เลือดแล้ว

#ปีนรั้วรีวิว #Comedy #Drama Director: Keisuke Yoshida

      คาเนยามะ คาซุนาริ (Masataka Kubota) หนุ่มพนักงานบริษัทฝ่ายประสานงาน ทำหน้าที่คอยติดต่อกับโรงงานผลิตใบปิดโฆษณา ที่มี อิซาโนะ ยูริเอะ (Keiko Enoue) สาวร่างท้วมดูแลกิจการต่อจากพ่อที่ป่วย หากใครได้เห็นความเอาใจใส่ เอาอกเอาใจของ ยูริเอะ ที่มีต่อ คาเนยามะ คงมองออกได้ในทันที่ ว่าเธอกำลังคิดอะไรกับเขาอยู่ แต่ คาเนยามะ ไม่ได้มีท่าทีตอบรับความรู้สึกนั้นกลับไปเลย

ตอนนี้ คาเนยามะ เองก็กำลังเจอกับเรื่องน่าปวดหัว เมื่อ ทาคุจิ (Hirofumi Arai ) พี่ชายมาเฟียตัวแสบของเขา เพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุก แถม ทาคุจิ ที่ยังไม่มีที่ไปก็มาขอพักพิงอยู่ที่บ้าน คาเนยามะ ที่โดนพี่ชายใช้กำลังมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยต้องจำยอมให้เขาอาศัยอยู่ด้วยอย่างไม่เต็มใจ

แต่เหมือนว่าชีวิตของ คาเนยามะ ยังเดือดร้อนไม่พอ เมื่อลูกค้าปฏิเสธงานของเขากลับมา แล้วคนเดียวที่จะช่วยได้ก็คือ ยูริเอะ เท่านั้น เธอจึงยื่นข้อเสนอที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ ด้วยการให้เขาพาเธอไปออกเดท แน่ล่ะว่า คาเนยามะ ที่กำลังจนหนทางตอบตกลงกลับไป แต่ความลับที่ ยูริเอะ ยังไม่รู้ก็คือ มาโกะ (Miwako Kakei) น้องสาวคนสวยแทงเธอข้างหลัง ด้วยการแอบคบกับ คาเนยามะ ที่มาติดต่องานกับบริษัทเธอแทบทุกวัน อย่างที่ ยูริเอะ ไม่ระแคะระคายเรื่องนี้มาก่อนเลย

***เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน***
***

      รีวิวเหมือนหนังซีเรียส จริงจัง แต่เอาเข้าจริงแล้ว มันก็ซีเรียสจริง ๆ ฮ่าฮ่า คือหนังไม่ได้ดำเนินเรื่องด้วยความจริงจังหรอก ออกจะเป็นตลกร้ายเสียด้วยซ้ำ แต่สถานการณ์ของตัวละคร มันชวนให้เกิดความอึดอัด ตึงเครียด อย่าง คาเนยามะ ก็ต้องมาติดแหงกอยู่กับพี่ชายที่ตัวเองไม่ต้องการ ทั้งโดนทำร้ายร่างกาย ทั้งโดนไถเงิน จะแนะนำให้รู้จักกับใครก็ไม่กล้า เพราะว่าเขาเป็นมาเฟียที่เคยติดคุกมาก่อน

ส่วน ยูริเอะกับมาโกะ ก็เป็นเหมือน พี่สาวน้องสาวที่แย่งตุ๊กตาตัวเดียวกัน มีแต่ความอิจฉาริษยาแอบแทงกันข้างหลัง ไม่เพียงแค่ ยูริเอะ ที่อิจฉาและคิดว่าโลกไม่ยุติธรรมที่น้องสาวสวยกว่า แต่ มาโกะ เองที่เหมือนว่าเกิดมาสมบูรณ์แบบทั้งสวยทั้งดูดี กลับมีข้อบกพร่องที่ทำอะไรไม่เคยเป็นชิ้นเป็นอัน งานบริษัทก็ไม่ดี งานบ้านก็ไม่ได้ แถมงานนักแสดงที่ใฝ่ฝันก็ไปไม่ถึงไหนเสียที มาโกะ จึง อิจฉาพี่สาวที่เก่งกว่าเธอทุกอย่าง

เมื่อถึงจุดหนึ่งหนังก็ตั้งคำถามกับตัวละคร เหมือนกับชื่อหนัง Thicker Than Water นั่นแหละ “เลือดมันจะข้นกว่าน้ำหรือเปล่า” เมื่อพี่น้องทั้งสองคู่ความสัมพันธ์มันดูไม่ดีเอาเสียเลย แล้วเมื่อถึงวันที่อีกฝ่ายประสบปัญหา แล้วความรู้สึกเกลียดชังในใจ มันจะเอาชนะความข้นของเลือด ที่หมายถึงคนในครอบครัวเดียวกันได้หรือเปล่า

มีประโยคหนึ่งของตัวละครพ่อของพี่น้อง คาซุนาริ ที่บอกกับคนน้อง คาเนยามะ ว่า “ไม่ว่าจะดีหรือเลว จะอยากปฏิเสธอย่างไร เขาก็เป็นคนในครอบครัว” ครอบครัวมันเลยเป็นสถานะที่แตกต่างออกไป ไม่เหมือนกับความสัมพันธ์แบบเพื่อน คนรู้จัก หรือคนรัก ที่เราสามารถตัดความสัมพันธ์ ตอบปฏิเสธได้เมื่อเจอกับความยุ่งยาก ลบคนเหล่านั้นออกไปจากชีวิตได้ แต่กับพี่น้องแล้ว ต่อให้ทะเลาะกัน เถียงกัน ตีกันหนักขนาดไหน มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหันหลังให้ เมื่ออีกฝ่ายเจอกับปัญหา

เป็นหนังที่เล่าได้ไม่ถึงกับสนุกมาก เนื้อหาที่เล่าก็ซ้ำเดิมประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง แต่หนังก็เล่าในมุมมองที่น่าสนใจ แล้วก็เล่าได้อารมณ์ความรู้สึกแปลกใหม่ดี แถมยังเล่าได้ตรงไปตรงมาไม่มีอ้อมค้อม แม้จะไม่ถึงกับมืดมนแต่ก็ไม่ได้โลกสวย ที่พูดถึงแต่เรื่องราวความสัมพันธ์ครอบครัวแบบอุดมคติ จึงเป็นชั่วโมงกว่า ๆ ที่ถึงจะเล่าแค่เรื่องราวของพี่น้องสองคู่ แต่หนังก็ดึงความสนใจคนดูเอาไว้ได้จนจบ

สรุปแล้ว Thicker Than Water (2018) ข้นกว่าน้ำ…ก็เลือดแล้ว เป็นหนังที่ใช้คำว่าน่าสนใจก็แล้วกัน เพราะไม่ถึงกับสนุก แต่หนังก็จับประเด็นมาเล่าได้โดนใจ ตีความความสัมพันธ์ของพี่น้อง เหมือนลิ้นกับฟันที่อยู่ใกล้กัน มันก็มีกระทบกระทั่งกัน แต่ไม่ว่ายังไงก็ตัดไม่ตายขายไม่ขาดอยู่ดี

ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Thicker Than Water (2018)

 

ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 

#MovieReview #รีวิวหนัง