วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2564

Review: The Skeleton Key (2005)

 The Skeleton Key (2005) เปิดประตูหลอน

#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Horror #Mystery Director: Iain Softley

#เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ
      แคโรไลน์ เอลลิส (Kate Hudson) สาวเจ้าหน้าที่สถานดูแลผู้สูงอายุ เธอทนไม่ไหวกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่คนอื่นปฏิบัติต่อคนแก่ที่ต้องสิ้นใจเพียงลำพัง แคโรไลน์ จึงตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานเดิม และเดินทางไปสัมภาษณ์งานดูแลผู้สูงอายุ ในที่แห่งใหม่ยังเมืองทางใต้อย่างนิวออลีน บ้านหลังใหญ่แต่เก่าซอมซ่อมีเพียงภรรยาอย่าง ไวโอเล็ต (Gena Rowlands) และ เบน (John Hurt) สามีป่วยใกล้เสียตายของเธอ ที่ แคโรไลน์ มีหน้าที่ต้องดูแล

ในทีแรกเธอเกือบจะถอดใจไม่รับงานนี้ เพราะว่าสารพัดวัฒนธรรมแปลกประหลาดของ ไวโอเล็ต ที่เชื่อถือ แต่ก็เพราะ ลุค มาร์แชล (Peter Sarsgaard) ทนายผู้จัดการทรัพย์สินบ้านหลังนั้น โน้มน้าวให้เธอตัดสินใจทำงาน เพราะยังไงซะหมอก็บอกว่า เบน คงอยู่ได้อีกไม่เกินหนึ่งเดือน แต่ยิ่ง แคโรไลน์ อยู่นานไปเธอก็ยิ่งได้เจอกับเรื่องชวนสงสัย ถึงพฤติกรรมของ ไวโอเล็ต ว่าหญิงแก่คนนี้นี่เอง ที่อาจเป็นสาเหตุอาการป่วยของสามี รวมถึงปริศนาความลับของบ้านหลังนี้ ที่ ไวโอเล็ต อาจซ่อนบางสิ่งที่น่ากลัวเอาไว้ในห้องใต้หลังคาของบ้าน

***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ***
***


      “อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น หากไม่อยากเห็นในสิ่งที่เชื่อ” คงเป็นคำสั้น ๆ ที่พออธิบายความเป็นหนังเรื่องนี้ได้ เมื่อหนังหยิบเอาเรื่องของ”ความเชื่อ” มาเล่นเป็นประเด็นหลัก รวมทั้งยังเป็นจุดหักมุมสำคัญอีกด้วย

หลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ ยาหลอก (placebo) ปรากฏการณ์ยาหลอก (placebo effect) The Skeleton Key (2005) เรื่องนี้เองก็มีการหยิบเอาปรากฏการณ์ที่ว่ามาใส่ไว้ในหนังด้วย เพียงแต่ ”ยาหลอก” ที่ว่า ไม่ใช่ยาหลอกทางการแพทย์ทางเลือก แต่เป็นมนต์ดำไสยศาสตร์วูดู เมื่อ แคโรไลน์ คิดว่า สามีภรรยาแก่คู่นี้เชื่อในเรื่องของไสยศาสตร์ลัทธิวูดู แน่ล่ะว่าจากท่าทางหวาดกลัวของ เบน ทำให้ แคโรไลน์ พอจะเดาออกว่าคนเป็นภรรยา อาจจะทำอะไรบางอย่างกับสามีของตัวเอง

แล้วด้วยความเชื่อของคนท้องถิ่นที่ทั้งคู่เชื่ออย่างฝังหัว เรื่องไสยศาสตร์ปลอม ๆ มันเลยส่งผลทำให้ เบน ป่วยจริงตามความเชื่อ ทางเลือกที่ แคโรไลน์ คิดได้ก็คือ เธอจึงต้องใช้ไสยศาสตร์วูดูในการรักษาเบนด้วยเช่นกัน ในเมื่อพวกเขาเชื่อว่าเรื่องเหนือธรรมชาติมันเป็นของจริง

การดำเนินเรื่องของหนังมาตามสูตร หนังสยองขวัญหักมุมในยุคเดียวกันนั้นในเรื่องอื่น ๆ คือเน้นขายความหวาดระแวง บรรยากาศชวนหลอน ปริศนาชวนสงสัยให้ตัวละครค้นหาความจริง พร้อมทั้งโรยเศษขนมปังให้คนดูเดินตามทางนั้นไป ก่อนจะหักหลังคนดูและตัวละครว่า ทางที่เดินไปนั้น คือบ้านขนมปังของแม่มดใจร้าย ที่กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นเหยื่อไปเสียแล้ว

เป็นหนังที่หยิบจับประเด็นเรื่องความเชื่อมาตีความได้น่าสนใจดี เมื่อผู้คนในยุคปัจจุบัน แน่ล่ะว่าด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปขนาดนี้ บางคนก็หันหลังให้กับศาสนาและความเชื่อไปแล้ว มันจะมีวิธีไหนกันล่ะที่จะทำให้คนที่ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ หันกลับมาเชื่ออย่างสนิทใจ ไม่ใช่คิดเพียงว่ามันคือ ยาหลอก (placebo)

ยาหลอก (placebo) กับ ไสยศาสตร์ ในเรื่องนี้ถูกตีความออกมาคล้ายกัน เพราะมันจะมีผลลัพธ์ก็ต่อเมื่อ ผู้ใช้ยาเชื่ออย่างสนิทใจว่ามันคือ ยาของจริง แม้ยาที่ว่าจะไม่มีสรรพคุณในการรักษาโรค คนใช้ไสยศาสตร์ก็เชื่อว่าไสยศาสตร์มีจริง หากคนไข้รู้ว่าที่ทานเข้าไปคือ ยาหลอก (placebo) แล้วการใช้ยาหลอกนั้น มันจะมีผลลัพธ์ได้อย่างไร เช่นเดียวกันกับ ไสยศาสตร์ หากคนใช้คิดว่ามันไม่มีจริง ไสยศาสตร์มันก็ย่อมไม่มีผลอะไรต่อคนที่ไม่เชื่อเช่นกัน

พอเห็นตัวละครเอกอย่าง แคโรไลน์ แล้ว ก็ทำให้คิดได้อย่างหนึ่งนะว่า การเก็บเรื่องบางเรื่องมาเป็นปมชีวิตตัวเอง แล้วพยายามแก้ไขปมนั้นด้วยปัญหาชีวิตของคนอื่น มันอาจจะเข้าทำนองว่า “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ” ที่มากไปกว่านั้น เธอเองก็ควรจะดูตัวอย่างเพื่อนซี้อย่าง จิล (Joy Bryant) เอาไว้บ้าง ว่าบางเรื่องถึงแม้เราจะไม่เชื่อก็ตาม แต่หากมันไม่ใช่เรื่องที่ทำแล้วดีงามอะไร หรือไม่ถึงกับคอขาดบาดตายจำเป็นต้องทำ ก็ควรเอาตัวเองอยู่ให้ห่างจากเรื่องพวกนั้นไว้จะดีกว่า

สรุปแล้ว The Skeleton Key (2005) เปิดประตูหลอน พยายามสปอยแบบอ้อมโลกแล้วนะ เพราะถึงหนังจะดำเนินเรื่องได้น่าติดตามก็จริงอยู่ แต่จุดหักมุมมันก็สำคัญมากจริงๆสำหรับแนวนี้ ส่วนตัวผมเองก็หลบสปอยมาได้นานหลายปี พอได้ดูแล้วก็รู้สึกว่าถูกใจนะ ชอบการตีความเรื่อง ”ความเชื่อ” ของหนัง ที่รู้สึกว่า เออ…โยงเข้ามาจุดหักมุมแบบนี้ก็ได้เนอะ ฮ่าฮ่า

ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Ano koro, kimi wo oikaketa (2018)
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 



#MovieReview #รีวิวหนัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...