วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2564

Review: Waiting For Spring (2018)

 Waiting For Spring (2018) ยามเมื่อใจเราผลิบาน

#ปีนรั้วรีวิว #Family #Sport Director: Yûichirô Hirakawa
      ฮารุโนะ มิซึกิ (Tsuchiya Tao) สาว ม.ปลายที่อยากมีชีวิตวัยมัธยมอันสดใส แต่สิ่งที่คิดกับความเป็นจริงในตอนนี้มันตรงข้ามกัน เมื่อชีวิตมัธยมของเธอมันชั่งห่อเหี่ยวเสียเหลือเกิน เพื่อนก็ไม่มีสักคน กีฬาก็ไม่เก่ง เรียนก็งั้น ๆ เพราะ ฮารุโนะ เป็นคนขาดความมั่นใจ ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปทักทายใครก่อน ตั้งแต่วัยเด็กเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอก็คือ อายะจัง เด็กน้อยนักบาสเกตบอลที่เข้มแข็ง เป็นแรงบันดาลใจของ ฮารุโนะ ที่เธออยากจะแกร่งให้ได้เหมือนกัน

ที่ เซเรียว โรงเรียนของ ฮารุโนะ มีนักกีฬาบาสเกตบอลที่ได้ชื่อว่าสี่จตุรเทพรูปหล่อ ซึ่ง อาซาคุระ โทวะ (Kitamura Takumi) หนึ่งในสี่คนนั้นก็เป็นเพื่อร่วมห้องของ ฮารุโนะ ในเย็นวันหนึ่งขณะที่ ฮารุโนะ กำลังทำงานพิเศษอยู่ กลุ่มของ โทวะและฮารุโนะ เกิดเรื่องเข้าใจผิดต่อกัน ทำให้ ฮารุโนะ คิดว่า โทวะและเพื่อนที่โด่งดังในโรงเรียนนั้น เป็นพวกชอบดูถูกคนอื่น แต่หลังจากที่เธอได้รู้จักพวกเขามากขึ้น มุมมองของ ฮารุโนะ ที่มีต่อทั้งสี่คนจึงเริ่มเปลี่ยนไป และดูเหมือนว่า โทวะ เองก็เริ่มให้ความสนใจ ฮารุโนะ มากกว่าคำว่าเพื่อนซะแล้ว

ทุกอย่างดูเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อ ฮารุโนะ กล้าที่จะกะเทาะเปลือกความกลัวออกมาสู่โลกภายนอก แต่เรื่องหัวใจกลับเจอปัญหาให้หนักอก เมื่อเธอได้พบกับ อายะจัง ของเธออีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้เขากลายเป็นคน ที่เปลี่ยนจากภาพจำของเธอไปทั้งหมด

***เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน***
***


      Live –Action จากมังงะ "Harumatsu Bokura" ของ Anashin ที่รวม ๆ แล้วต้องบอกว่า แม้จะเล่าประเด็นเดิมซ้ำกันกับหนังแนวไฮสคูล coming of age หลายเรื่องที่ผ่านมา ไม่ว่าจะประเด็น การไม่มีเพื่อน การไม่มีความมั่นใจ การค้นหาตัวเอง บวกกับความรักใสใส แต่ก็ถือว่าหนังเอาตัวรอดได้สบาย สอบผ่านในการสร้างความน่าติดตาม แม้จะไม่ได้มีอะไรใหม่ ๆ มาเล่ามากนักก็ตาม

ในช่วงแรกที่ดูคิดว่าอารมณ์หนัง น่าจะเบา ๆ สบาย ๆ ไปในทางบวกตลอดทั้งเรื่อง แต่พอผ่านช่วงแรกไปสักหน่อย หนังก็เริ่มใส่ประเด็นดราม่าเข้ามาเป็นระยะ ไม่ว่าจะเรื่องเพื่อนของ ฮารุโนะ เรื่องการแข่งขันกีฬาทีมของ โทวะ แล้วก็รักสามเศร้าของ ฮารุโนะกับโทวะ แล้วก็ คามิยามะ ที่ส่วนนี้ตัวผมเองไม่รู้ว่าคนเขียนบท(มังงะ)คิดได้ไงนะ ที่ทำให้ ฮารุโนะ เข้าใจผิดว่า คามิยามะ ในตอนเด็กคือผู้หญิง จึงทำให้ตัวละคร ฮารุโนะ มีสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อเพื่อนคนสำคัญในวัยเด็กที่คิดว่าเป็นผู้หญิง แต่กลับโตมาเป็นหนุ่มหล่อแถมยังจะเข้ามาจีบอีก ฮ่าฮ่า

หนังใช้ตัวละคร ฮารุโนะ เป็นคนดำเนินเรื่องก็จริง แต่แอร์ไทม์ในหนังตัวละคนอื่นก็ถือว่ามีบทบาท ไม่ถูกกลบด้วยเรื่องราวเฉพาะของตัวละครเอกเท่านั้น เพื่อนอีกสามคนของ โทวะ อย่าง มิยาโมโตะ รูอิ (Inaba Yu), ทาดะ เรียวจิ (Sugino Yosuke), อิโซมุระ ฮายาโตะ (Isomura Hayato), ก็มีบทบาทพอสมควร มีส่วนช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในหลายครั้ง เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ไม่มีตัวละครเป็นคนไม่ดีหรือนิสัยไม่ได้เลย เพียงแต่มีบ้างที่เป้าหมายอาจไม่เหมือนกัน ทำให้การแสดงออกมีความแตกต่างกันออกไป

หนังเรื่องนี้พูดถึงอีกนึ่งวิธีการในการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดี นั่นก็คือการหาแรงบันดาใจ ไม่ว่าจะจากการหาคนสำคัญในชีวิตหรือความใฝ่ฝัน สิ่งสำคัญที่อยากจะทำ เพราะหากเราเจอสองสิ่งนี้หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราก็คงอยากพัฒนาตัวเอง เพื่อก้าวไปให้ถึงคนสำคัญ รวมทั้งพยายามฝึกฝน ทำสิ่งที่ใฝ่ฝันให้เป็นความจริง เพื่อก้าวไปประสบความสำเร็จในสิ่งนั้น

เหมือนกับที่ ฮารุโนะ ได้พบกับเพื่อนที่สำคัญอย่างกลุ่มของ โทวะ ที่ช่วยประคับประคองเป็นแรงบันดาลใจ ผลักดันเธอให้กล้าเผชิญหน้ากับความกลัวจนก้าวผ่านมันมาได้

สรุปแล้ว Waiting For Spring (2018) ยามเมื่อใจเราผลิบาน ส่วนตัวค่อนข้างโอเคกับหนังนะ อาจจะไม่ถึงกับเรียกได้ว่าดีงามมากนัก แต่ก็ถือว่าหนังเองทำได้ประสบความสำเร็จ ทั้งในแง่มุมความบันเทิง แล้วก็เนื้อหาสาระที่ไม่กลวง เกลี่ยบทให้แต่ละตัวละครได้สมดุล ถือว่าเป็นหนังแนวไฮสคูล coming of age ที่ทำได้ดีตามมาตรฐานที่ควรเป็น

ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Waiting For Spring (2018)
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 



#MovieReview #รีวิวหนัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: My Favorite Girl (2020)

  My Favorite Girl (2020) เธอคนโปรด #Comedy   #Romance  Screenwriter & Director: Tamada Shinya       คาโตะ ยูสุเกะ (Watanabe Daichi) หนุ...