วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2564

Review: Good Doctor TV Series (JP-2018)

 Good Doctor TV Series (JP-2018)

#ปีนรั้วรีวิว #Drama
      ระหว่างการประชุมบอร์ดบริหารโรงพยาบาลโทโกเมมโมเรียล ที่ประชุมกำลังตึงเครียดเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของโรงพยาบาล รวมทั้งต้องการปรับโครงสร้างและยุบแผนกที่ไม่ทำกำไร หนึ่งในนั้นก็คือ แผนกกุมารศัลยแพทย์ ที่ใช้จำนวนบุคลากรมากมาย แต่กลับขาดทุนในทุกปี แม้ที่ประชุมจะอยากเห็นแผนกนี้ถูกยุบ แต่ว่าผอ.โรงพยาบาลอย่าง อากิระ ชิกะ (Akira Emoto) กลับพยายามปกป้องอย่างสุดกำลัง รวมทั้งเขายังจัดการรับแพทย์ประจำคนใหม่อย่าง มินาโตะ ชินโด (Kento Yamazaki) เข้ามาแบ่งเบาภาระของหมอคนอื่นอีกด้วย

เพียงแต่เรื่องนี้ติดอยู่ตรงที่ว่า แม้ หมอชินโด นั้นจะเก่งมีความสามารถมากแค่ไหน แต่เขาก็เป็นออทิสติก แล้วการต้องทำงานร่วมกับคนอื่น รวมทั้งการดูแลคนไขที่เป็นเด็กนั้น เขาจะสามารถควบคุมตัวเองได้อย่างไร ผอ.ชิกะ จึงเสนอให้ทดลองงานเป็นเวลา 6 เดือน หาก หมอชินโด สร้างปัญหาล่ะก็ เขาจะเป็นคนรับผิดชอบด้วยตัวเอง ซึ่งการออกตัวรับแทนของ ผอ.ชิกะ มันไปเข้าทางใครบางคน ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลแห่งนี้เข้า หมอชินโด จึงกำลังจะกลายเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมาย แล้วเขาที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจะเอาตัวรอดไปจากสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร
      ซีรีส์ญี่ปุ่นที่รีเมคซีรีส์เกาหลีในชื่อเดียวกันเมื่อปี 2013 ส่วนตัวผมเคยดูต้นฉบับแบบผ่าน ๆ สมัยช่อง 7 เอามาออกอากาศแต่ได้ดูไม่ครบทุกตอน เลยขอไม่กล่าวถึงต้นฉบับมาอ้างอิงเปรียบเทียบก็แล้วกัน คงกล่าวถึงรายละเอียดได้เฉพาะเวอร์ชั่นญี่ปุ่นนี้ล้วน ๆ

หลังจากดูจบแล้วพอจะกล่าวได้ว่าซีรีส์การแพทย์เรื่องนี้ ไม่เพียงกล่าวถึงการรักษาพยาบาลคนป่วยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเยียวยาหัวใจของญาติพี่น้องและคนที่รักพวกเขาอีกด้วย ลองยกเรื่องของการรักษาพยาบาลในชีวิตจริงของคนเรามาก็ได้ ปัญหาอย่างหนึ่งที่พบได้บ่อยเลยก็คือ ความไม่เข้าใจกันระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับญาติของผู้ป่วย เมื่อต่างฝ่ายต่างมีความทุกข์ ความเครียด ความกดดัน ในมุมที่แตกต่างกัน

ในมุมของบุคลากรทางการแพทย์ที่ซีรีส์เรื่องนี้ชี้ให้เห็นชัด ๆ ก็คือ ความกลัวที่จะผิดพลาด เมื่อความสำคัญคือการรักษาชีวิตคนไข้ แต่ด้านหนึ่งหมอก็ต้องรักษาชีวิตและอนาคตของตนเองด้วย เมื่อความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจจะทำลายอาชีพได้เลย พวกเขาจึงต้องทำอะไรอย่างระมัดระวังตัวอย่างที่สุด แม้จะอยากเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือคนไข้มากแค่ไหนก็ตาม และที่สำคัญคงไม่มีหมอคนไหน อยากทำให้คนไข้จบชีวิตคามือของตัวเองหรอก

ส่วนในมุมของญาติหรือคนรักของผู้ป่วย เรียกว่าแตกแขนงออกไปหลายมุมมองมาก อย่างเช่น ความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนที่รัก ประเด็นนี้เชื่อมโยงกับเรื่องของหมอด้านบน แน่นอนว่าหมอไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะยื้อชีวิตคนได้ด้วยเวทย์มนต์ เมื่อการรักษาไม่เป็นผลแล้วคนไข้เสียชีวิต ญาติบางคนอาจจะตั้งสติได้แต่หลายคนอาจไม่ และด้วยความเสียใจ ก็เริ่มมองหาคนรับผิดชอบกับความสูญเสีย ที่จะให้พวกเขาได้กล่าวโทษเพื่อรู้สึกผิดหรือเศร้าน้อยลง

หรือความไม่เข้าใจกันระหว่างคนป่วยและญาติ เมื่อมีคนป่วยก็ย่อมมีคนที่ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น ต้องคอยสละเวลามาดูแล เมื่อเหนื่อยมากเข้าก็เริ่มท้อและรู้สึกโทษคนป่วยอยู่ลึก ๆ ในใจ รวมทั้งคนป่วยเองก็อาจซึมเศร้า เมื่อรู้สึกว่าตนเองเป็นตัวถ่วงชีวิตคนอื่น ทำให้เขาไม่สามารถไปมีความสุขหรือใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างเต็มที่

ซึ่งประเด็นที่กล่าวมาด้านบนนั้น ก่อนที่จะมีหมอชินโดเข้ามาทุกคนในโรงพยาบาลโทโกเมมโมเรียล ยังไม่เข้าใจและแก้ไขกันไปตามสถานการณ์ แต่กลายเป็นว่าหมอที่เป็นออทิสติกอย่างเขา แม้อาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้คนได้ทั้งหมด แต่เขาก็รู้ว่า คนรักกันหรือคนในครอบครัว ต้องการอะไรหรืออยากมอบสิ่งไหนให้แก่กัน ซึ่งมันช่วยเยียวยาความรู้สึกของผู้ป่วยและญาติได้ แล้วผลดีที่ว่ามันก็ตกอยู่กับหมอเอง เมื่อสามารถทำความเข้าใจกับทั้งคนป่วยและญาติได้ การทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยของหมอก็เลยง่ายขึ้น

ไม่แน่ใจว่าต้นฉบับเกาหลีนั้น มีพาทความโรแมนติกกุ๊กกิ๊กคู่พระนางเยอะไหม แต่สำหรับเวอร์ชั่นนี้บอกได้เลยว่าน้อยเอามาก ๆ หมอชินโดและหมอนัตซึมิ (Juri Ueno) แทบไม่มีซีนหวาน ๆ เลย มีแต่ไอติมหวานเย็นเท่านั้นเอง ฮ่าฮ่า ออกจะไปในทางมิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมงานเสียมากกว่า อาจจะมีบางฉากบางสถานการณ์เท่านั้นเอง ที่ชวนให้จิ้นต่อได้บ้าง

ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะซีรี่ส์ค่อนข้างสั้นเพียงแค่ 10 ตอนเท่านั้น เลยแทบไม่ได้ลงรายละเอียดความสัมพันธ์ของตัวละครเลย เมื่อทุกคนต่างวิ่งวุ่นแก้ปัญหาให้กับคนไข้และญาติ จนตัวเองก็แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง แล้วจะมีเวลาที่ไหนว่าไปคิดเรื่องความรักกันเล่า ฮ่าฮ่า

เป็นซีรีส์ที่ดึงเข้าดราม่าเสียน้ำตาได้เกือบทุกตอน แต่ถึงจะบอกว่าดราม่าเสียน้ำตาเยอะ เมื่อถึงบทสรุปของดราม่า มันกลับเป็นความรู้สึกตื้นตันใจมากกว่า ที่ได้เห็นผู้คนเข้าใจและมอบสิ่งที่ดีให้กัน เรียกว่าเป็นซีรีส์การแพทย์ฟีลกู๊ดที่ทั้งสนุกในแง่ความบันเทิง สถานการณ์ฉุกเฉิน และหากคุณเป็นผู้ป่วยหรือญาติ ก็จะได้มุมมองทัศนคติดี ๆ เข้าใจความลำบากการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์มากขึ้น รวมทั้งหากคนที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ได้ดู ก็คงจะได้บทสรุปเหมือนกับชื่อซีรี่ส์เรื่องนี้นั่นแหละว่า Good Doctor ควรจะเป็นเช่นไร

สรุปแล้ว Good Doctor TV Series (JP-2018) เป็นซีรี่ส์การแพทย์ที่สนุกเรื่องนึงเลยนะ บันเทิงทั้งในแง่ความตื่นเต้นวิกฤติการรักษาฉุกเฉิน รวมทั้งได้แง่มุมแง่คิดดีๆ เกี่ยวกับการดูแลสภาพจิตใจของผู้ป่วย ญาติ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์เองก็ด้วย ติดอยู่แค่ว่าพอซีรี่ส์สั้นแบบนี้เลยไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียดตัวละครมากเท่าไหร่ น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบดราม่าเยอะชวนหน่วง

ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Good Doctor TV Series (JP-2018)
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 


#SeriesReviwe #ซีรี่ส์รีวิว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Again My Life (2022)

 Again My Life (2022) #Law #Drama #Fantasy  Director:   Han Cheol Soo ,  Kim Yong Min Screenwriter:  Kim Yool, J       คิมฮีอู (Lee Joon Gi)...