Day of the Dead: Bloodline (2018)

Day of the Dead: Bloodline (2018)
#ปีนรั้วรีวิว #Horror #Zombies

      หนังซอมบี้เรื่องล่าสุดของปี 2018 ที่นำผลงานคลาสสิค Day of the Dead (1985) ฉีกก่อนงาบ ของปู่ จอร์จ เอ โรเมโร่ มารีเมค ซึ่งจากตัวอย่างที่ตัดออกมาในทีแรกที่ได้เห็น  ต้องบอกว่าสร้างความน่าสนใจได้พอสมควรทีเดียว แต่เมื่อถึงเวลาที่หนังฉายจริงกระแสกลับแผ่วลงไปอย่างน่าตกใจ ยิ่งได้อ่านความเห็นจากคนดูในต่างประเทศก็มีแต่คำก่นด่าเป็นเสียงเดียวกัน….จนใจคอไม่ดีเลย ฮ่าฮ่า แต่ก็นะไม่ลองก็ไม่รู้ของแบบนี้ต้องพิสูจน์ด้วยตาตัวเองเท่านั้น

      ในคืนหนึ่ง ณ lab ทดลองทางวิทยาศาสตร์ของมหาลัย โซอี้ คุณหมอสาวสวยที่ติดอยู่ในห้องเก็บศพสองต่อสองกับ แม๊กซ์ อาสาสมัครทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่คลั่งไคล้เธออย่างหนัก จนถึงขนาดสักชื่อของโซอี้ไว้ที่แขน แม๊กซ์ จึงกะจะใช้โอกาสนี้เผด็จศึก โซอี้ ซะที่นั่นเลย แต่แทนที่แม๊กซ์น้อยจะได้ขึ้นสวรรค์ กลายเป็นว่าดันมีศพที่อยู่ในห้องนั้นลุกขึ้นมาขย้ำคอ แม๊กซ์ และไล่กัดทุกคนอย่างบ้าคลั่ง กระทั่งคนในเมือง หากไม่ถูกกินเป็นอาหารซะก่อนก็ต้องกลายเป็นซอมบี้เสียเอง

      เมื่อเหตุการณ์แพร่ระบาดเริ่มสงบลงผู้คนที่รอดชีวิต จึงรวมตัวกันอยู่ในบังเกอร์หลบภัยที่แน่นหนา รวมทั้ง โซอี้ ที่เธอก็เอาชีวิตรอดมาได้และทำหน้าที่เป็นหมออยู่ในบังเกอร์แห่งนั้น เมื่อสถานการณ์ในค่ายเริ่มมีคนล้มป่วยและขาดแคลนยา โซอี้ จึงเสนอกับ มิเกล ผู้นำบังเกอร์แห่งนั้นให้ส่งตัวเธอและทีมทหารออกไปค้นหายายังมหาลัยที่เธอเคยทำงานอยู่ ซึ่ง มิเกล ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนในค่ายจำเป็นต้องใช้ยาจริงๆ จึงต้องยอมให้เธอพาทหารในค่ายออกไปเสี่ยง ซึ่ง โซอี้ ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันจะนำพาความเลวร้ายอะไรตามเธอกลับมาด้วย

      จากเรทคะแนนใน IMDB ที่หนังเองได้คะแนนเพียง 3.4/10 ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ที่โหวตให้หนังเองเทไปในทาง 1/10 ซะมากด้วย คือเข้าใจอารมณ์คนที่เป็นแฟนหนัง ซอมบี้ เหมือนกันน่ะแหละ ที่ปรกติหนังมันจะต้องมีประเด็นดราม่า เสียดสี สังคม การเมือง ร่วมทั้งผู้คน ยิ่งกับการหยิบเอาหนังซอมบี้คลาสสิคของ จอร์จ เอ โรเมโร่ มารีเมคด้วยแล้ว ความคาดหวังของแฟนๆยิ่งต้องมาเต็ม แต่พอมันกลายเป็นหนังซอมบี้โรคจิตบ้ากาม ที่มีความโหดเลือดสาดมาเซอร์วิส แต่ตัวละครกลับมักจะทำอะไร ดื้อๆ โง่ๆ ลำไย ไร้เหตุผล แบบหนังเชือดหนังสยองขวัญเกรดบี มันเลยเหมือนภาพความคาดหวังจากตัวอย่างหนังที่ตัดออกมาถูกทำลายไปเสียทั้งหมด

      หากจะถามว่าส่วนตัวผมมองเห็นอะไรดีหรือแย่จากหนังเรื่องนี้ หากจะตัดเอาคำว่ารีเมคและความคลาสสิคของต้นฉบับออกไป ความบันเทิงของหนังที่พอจะมีบ้างคงต้องยกความดีความชอบให้เหล่าซอมบี้ และฉากโหดเลือดกระฉูดไส้ทะลักสะใจคอหนังสยอง และที่เรียกได้ว่าเป็นตัวเอกของเรื่องเลยก็คือเจ้า แม๊กซ์ กึ่งคนกึ่งซอมบี้ที่เรียกได้ว่าเล่นใหญ่และเล่นได้โรคจิตจริงๆ ส่วนตัวยกให้ แม๊กซ์ เป็นสิ่งที่ดีงามที่สุดของหนังเรื่องนี้เลย

      ส่วนที่แย่ของหนังคงจะเป็นเรื่องของบท และที่ลำไยที่สุดเห็นจะไม่พ้น โซอี้ นางเอกของเรื่องที่ความดึงดัน ดื้อด้านของเธอเอง แม้เราจะมองได้ว่ามันก็เป็นความปรารถนาดีต่อผู้คนก็เถอะ แต่มันก็นำพาเรื่องร้ายๆให้เกิดขึ้นกับคนอื่นๆด้วยเช่นกัน ซึ่งสุดท้าย โซอี้ ก็เอาตัวรอดการโดนด่าไปได้หวุดหวิดด้วยการโกงให้บทหนังช่วยเธอเอาไว้ได้ในตอนท้าย ขณะหนังมันคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆออกมาทั้งหมดแล้ว

      สรุปแล้ว Day of the Dead: Bloodline (2018) หากจะให้บอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นยังไงคงจะบอกได้ว่า มันก็แย่จริงๆอย่างที่เขาวิจารณ์กันนั่นแหละ เพียงแต่ว่ามันก็ไม่ถึงกับหาความบันเทิงในหนังไม่ได้เลย คือหนังแย่กว่ามาตรฐานหนังซอมบี้ที่ควรจะเป็นก็จริง แต่ก็ถือว่ายังมีส่วนที่ดีกว่าหนังซอมบี้เกรดบีทั่วๆไป ที่ขยันทำกันออกมาแล้วใช้ นามสกุล of the dead พ่วงท้ายนั่นแหละฮะทั่นผู้ชม

 

ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 

 

ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : Day of the Dead: Bloodline (2018)

#MovieReview #รีวิวหนัง