วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Snowy Road (2017)

Snowy Road (2017) ทางกลับบ้าน
#ปีนรั้วรีวิว #Drama

      หลังจากหนึ่งปีก่อนหน้านั้นมีหนังที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราว  ของเด็กสาวชาวเกาหลีที่ถูกทหารญี่ปุ่นจับตัวไปอย่าง Spirits’ Homecoming (2016) ออกฉายสร้างปรากฏการณ์น้ำตาท่วมจอกันไปแล้ว ในปีถัดมา Snowy Road (2017) ก็ออกฉายตามกันมาติดๆด้วยเรื่องราวทำนองเดียวกัน เพียงแต่กับ Snowy Road เรื่องนี้อาจจะสื่อสารกับคนดูในมุมที่แตกต่างจาก Spirit’s Homecoming ที่เน้นบอกเล่าเรื่องราวที่หดหู่ น่ารันทด ชะตากรรมที่โชคร้ายของผู้คนในอดีตเหล่านั้น แต่ Snowy Road เลือกสื่อสารกับผู้คนและเด็กวัยรุ่นในปัจจุบันแทน

      คุณยาย จองบุน ที่พยายามจะตามหาคนคนหนึ่งที่เคยรู้จักกันในอดีต แต่กลับถูกปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ทะเบียน ซ้ำยังต้องมารับรู้เรื่องราวปัญหาชีวิตของเด็กสาวอย่าง อึนซู นักเรียนมัธยมที่ไม่มีพ่อแม่ ผู้ปกครอง ซึ่งเธอแอบเข้ามาอาศัยฟรีห้องเช่าติดกันกับคุณยาย แถมยังขโมยไฟฟ้าจากห้องของเธอมาใช้อีก ปัญหาของเด็กอย่าง อึนซู เลยทำให้คุณยาย ได้นึกย้อนกลับไปถึงเรื่องของตัวเองในอดีต สมัยที่เธอยังเป็นเด็กสาว จองบุน ในยุคสงครามที่เกาหลีถูกญี่ปุ่นยึดครองประเทศอยู่นั้น 
      แม้อยากเรียนหนังสือแค่ไหนก็หมดหวังที่จะได้เรียน  เนื่องจากทางบ้านฐานะยากจน ได้แต่คอยมองเด็กสาวที่บ้านพอมีอันจะกินอย่าง คังยองแอ ที่ได้ใส่ชุดนักเรียนสวยๆมีข้าวของดีๆใช้ แต่ที่แย่กว่านั้น ยองแอ มักจะดูถูกเธอเสมอและพยายามกีดกัน จองบุน ไม่ให้เข้าใกล้ ยองจู  พี่ชายของเธอเพราะคิดว่าทั้งสองคนไม่เหมาะสมกัน

      แต่ความทะนงตนของ ยองแอ ก็ต้องสิ้นสุดลง เมื่อทั้ง ยองแอและจองบุน หรือเด็กสาวเกาหลีอีกหลายคนในตอนนี้  ถูกทหารญี่ปุ่นจับตัวมาเพื่อให้ทั้งหมด  เป็นเครื่องบำเรอความใคร่ในค่ายทหารของทหารญี่ปุ่น ถึงแม้ทั้งหมดจะอยู่ด้วยความไม่เต็มใจ  แต่หลายคนก็พยายามมองโลกในแง่ดี รวมทั้งพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยความหวัง  โดยเฉพาะ จองบุน ผิดกับ ยองแอ เด็กสาวที่ทะนงตนมาตลอด  เมื่อเจอกับสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้ หลายครั้งที่เธอพยายามฆ่าตัวตายแต่ก็ได้ จองบุน ช่วยเอาไว้ได้เสมอ หลังจากนั้นทั้งสองคนจึงกลายมาเป็นเพื่อนรักและเข้าใจกันมากกว่าเดิมแม้ในตอนนี้สถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหนก็ตา

      หากใน Spirit’s Homecoming ความรันทด สะเทือนใจ น้ำตาไหลพรากกกก 100% Snowy Road เรื่องนี้คงจะลดระดับลงมาครึ่งนึงคงจะด้วยเหตุผลที่ว่า ในเมื่อมีหนังเรื่องก่อนหน้าบอกเล่าเรื่องราวชีวิต ชะตากรรม ของผู้คนที่ตกเป็นเหยื่อไปแล้ว หนังเรื่องที่ตามถัดมาก็ไม่จำเป็นที่จะไปเล่าเนื้อหาเดิมให้เป็นการตอกย้ำไปซะเปล่าๆ แต่หนังเลือกที่จะเล่าด้วยมุมมองแบบผู้ใหญ่  ที่ผ่านความลำบากทุกข์ยากมาก่อน แล้วพยายามที่จะส่งต่อเรื่องราวและบทเรียนสู่คนรุ่นใหม่ในสังคม
      อย่างการที่ในอดีตเด็กสาวอย่าง จองบุน ไม่มีโอกาสในการเรียนหนังสือ จะด้วยภาวะสงคราม ฐานะ หรือกระทั่งค่านิยม  ที่ผู้หญิงแค่หาผู้ชายดีๆแต่งงานด้วยก็พอของคนสมัยก่อน ได้เห็นเด็กวัยรุ่นในยุคปัจจุบันที่มีโอกาสมากมาย ขนาดที่ว่ารัฐบาลออกเงินทุนให้เรียนฟรี พวกเขาก็ยังทิ้งขว้างโอกาสเหล่านั้น เมื่อคุณยาย จองบุน เห็นเด็กที่มีปัญหาอย่าง อึนซู จึงอยากยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แม้จะถูกปฏิเสธในหลายๆครั้งก็ตาม

      ยองแอ เด็กสาวที่ใฝ่ฝันจะไปเรียนที่ญี่ปุ่นแล้วกลับมาเป็นครูที่บ้านเกิด แม้ทุกอย่างมันไม่เป็นดั่งหวังแต่เธอก็ได้เป็นครูสมใจแม้อยู่ในสถานที่แบบนั้น ซึ่งลูกศิษย์ของเธอก็ไม่ใช่ใครแต่เป็น จองบุน ที่อยากเรียนหนังสือมาทั้งชีวิต  ต่อให้อยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่เพียงไหนก็ตาม แต่เธอก็ไม่เคยลืมความฝันที่จะเรียนหนังสือ อยากอ่านหนังสือออกเขียนได้เหมือนกับคนอื่น

      ส่วนตัวค่อนข้างชอบฉากนึงก็คือฉากในสถานีตำรวจที่ อึนซู ถูกแจ้งความจับ แล้วเธอโทรตามให้ ยายจองบุน มาช่วยประกันเธอ แต่กลายเป็นว่า ยายจองบุน กลับมาทะเลาะกับคู่กรณีเสียเอง 555 ฉากนี้ในหนังแม้จะนำเสนอออกมาในแง่มุมขำๆ แต่มันก็ทำให้เราเข้าใจ ยายจองบุน ได้มากขึ้นกับสิ่งต่างๆที่เธอกำลังรู้สึกอยู่ในใจ

      แม้หนังเรื่องนี้จะนำเสนอออกมาเหมือนจะสอนเด็กสาววัยรุ่นในปัจจุบัน แต่หนังก็ไม่พยายามทำตัวเป็นคนที่ถูกเสมอเธอต้องฟังฉัน  หนังนำเสนอผ่านการบอกเล่าประสบการณ์ของเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ว่าต้องเจอ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง กับเด็กๆในปัจจุบันที่ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา ทั้งที่มีหนทางให้เลือกเดินมากมาย ซึ่งคนเราอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนได้ภายในวันสองวัน แต่หากไม่เริ่มเปลี่ยนในวันนี้วันข้างหน้าอาจจะไม่มีโอกาสได้แก้ตัวอีกก็ได้

      สรุปแล้ว แม้ Snowy Road (2017) อาจจะไม่ใช่หนังดราม่าน้ำตาท่วมจอแบบเดียวกันกับ Spirit’s Homecoming (2016) ที่นำเสนอเรื่องราวเดียวกันก็จริง แต่หนังเลือกจะเดินในแนวทางใหม่ในการสื่อสารกับผู้คนในปัจจุบันว่า เมื่อมีโอกาสที่ดีแล้วก็ควรรักษามันเอาไว้ เพราะว่าโอกาสแบบนี้ ที่ผู้คนในอดีตต่างโหยหานั้น  พวกเขาไม่เคยแม้แต่จะเฉียดเข้าใกล้แม้แต่น้อย

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...