Princess Jellyfish (2014)

Princess Jellyfish (2014) aka Kurage hime เจ้าหญิงแมงกะพรุน
#ปีนรั้วรีวิว #Comedy

      เป็นหนังที่ทำให้ได้รู้เกี่ยวกับบุคลิกของคนสองแบบเพิ่มขึ้นมานะ ไม่ว่าจะ NEET (Not in Education, Employment or Training) และ โอตาคุ (Otaku) ซึ่งหนังเองได้เล่าทั้งมุมมองที่อาจจะเป็นทั้งแง่ลบและแง่บวกของคนทั้งสองกลุ่มนี้ ซึ่งตัวละครในเรื่องก็พยายามที่จะปฏิเสธว่า  แม้ตนเองจะเป็นโอตาคุแต่ว่าไม่ใช่พวกนีทแน่นอน ซึ่งคนที่จะยืนยันคำตอบนี้ได้ก็คงมีแค่เพียงคนที่ถูกกล่าวหาเท่านั้นที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้

      ซึคิมิ (Rena Nônen) สาวน้อยที่ในตอนเด็กใฝ่ฝันจะโตมาสง่างามอย่างเจ้าหญิง แต่ความเป็นจริงเมื่อโตขึ้นเธอกลายเป็นเพียงโอตาคุสาวที่หลงใหลในแมงกะพรุน ที่แค่เพียงจะเข้าไปดูแมงกะพรุนในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำยังไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไป  เพราะหากอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายเธอกลัวจะถูกมองด้วยสายตาแปลกแยกจากคนอื่น จึงทำได้แค่เพียงเก็บตัวอยู่ในหอพักหญิงล้วนซอมซ่อ  ที่มีแต่เหล่าโอตาคุสาวๆอาศัยอยู่ด้วยกัน

      ด้วยความที่อดรนทนไม่ไหวในความคิดถึงแมงกะพรุน ซึคิมิ เลยเดินออกมาทักทายกับ คุราระ แมงกะพรุนตัวน้อยในร้านขายสัตว์น้ำแถวบ้าน แต่เธอดันไปมีเรื่องกับพนักงานร้านจนถูกไล่มากลางถนน แต่ก็ได้สาวสวยคนหนึ่งช่วยเหลือเอาไว้ได้ ซึคิมิ จึงตอบแทนด้วยการพาเธอมาพักที่ห้องในคืนนั้น แต่กลายเป็นว่าตื่นเช้ามาสาวสวยที่เห็นเมื่อคืนกลับกลายเป็นผู้ชายที่ชื่อ คุราโนะสุเกะ (Masaki Suda) หนุ่มลูกนักการเมืองที่เป็นแฟนชั่นนิสต้าจ๋า…..และชอบแต่งหญิงเพียงแต่ว่า…เขาไม่ได้เป็นสาวประเภทสองเท่านั้นเอง 

      ซึ่ง คุราโนะสุเกะ ที่ไม่เคยได้เจอคนในแบบ ซึคิมิ และเพื่อนๆของเธอมาก่อนจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ และคิดว่านี่เป็นสถานที่ที่น่าจะเหมาะกับเขาที่สุด แต่กลายเป็นว่าแผนโครงการพัฒนาเมืองที่พ่อของตัวเองสนับสนุนอยู่กำลังจะทำลายสถานที่นี้….แล้วแทนที่มันด้วยอย่างอื่น เหล่าโอตาคุสาวจึงต้องกัดฟันลุกขึ้นสู้ด้วยขาอันป้อแป้ปวกเปียกเพื่อรักษาสถานที่สำคัญนี้เอาไว้ให้ได้

      ก่อนอื่นสารภาพเลยว่าสมัครเป็น FC Rena Nônen จากเรื่องนี้เลย 555 น่ารักมากมาย แม้ว่าขณะที่เธอจะสวมบทบาทเป็นสาวโอตาคุ จะยังดูไม่ฉายแสงเท่าไหร่ แต่เมื่อถึงฉากที่เธอได้แต่งสวยเท่านั้นแหละ ขอบอกว่าน่ารักมากกกก ก.ไก่ ล้านตัว

      แต่ที่ดูจะฉายแสงแวววับระยิบระยับที่สุดคงไม่พ้น Masaki Suda สุดะ ที่กลาย สุดา ในเรื่อง ที่ขอบอกเลยว่าแม่ก็คือแม่สวยที่สุดในเรื่องนี้แล้ว 555 เป็นดาราผู้ชายที่บอกตรงๆเลยว่าตอนเป็นผู้ชายหน้าตาธรรมดาไม่ได้หล่อแบบพิมพ์นิยมเลยนะ แต่พอแต่งหญิงเท่านั้นแหละต้องตะลึงเลยว่า…เฮ้ยยยยย ทำไมสวยวะ 555

      เดี๋ยวจะออกทะเลไปหาแมงกะพรุนไกล กลับมาเข้าฝั่งกันก่อน…ว่ากันถึงกลุ่มสาวๆโอตาคุแล้ว หากจะมองด้วยสายตาของคนนอก  คงสารภาพว่ามันก็มีความแปลกจริงๆนั่นแหละ  หากเทียบกับคนในสังคมทั่วไป แต่ถามว่าอะไรที่มันทำให้คนเป็นคนไม่ใช่หุ่นยนต์หรือเครื่องจักร  ก็คงจะตอบว่าความแตกต่างกันนี่แหละ ฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องผิดที่เหล่าโอตาคุสาวๆจะมีความไม่เหมือนใคร  รวมทั้งแม้จะเข้ากับใครไม่ค่อยได้ มันก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เพราะคนเรารักชอบอะไรไม่เหมือนกัน 

      ในทีแรก คุราโนะสุเกะ เองอาจจะมองด้วยสายตาแบบคนนอกที่เห็นว่า ซึคิมิ และเพื่อนๆของเธอเป็นพวก NEET ที่ไม่ทำการทำงานอะไรเพียงแค่ใช้ชีวิตไปวันๆ แต่พอเขาได้มาสัมผัสและออกแรงผลักดัน พวกเธอก็แสดงออกถึงความสามารถจากการเป็นโอตาคุ ในสิ่งที่พวกเธอสนใจนำมาประยุกต์ใช้จนเกิดผลสำเร็จ เช่นการที่ ซึคิมิ ชอบทำตุ๊กตาแมงกะพรุนหรือชอบวาดรูปแมงกะพรุนชนิดต่างๆกัน ความสามารถเหล่านี้ก็ถูก คุราโนะสุเกะ ที่จะว่าไปก็เป็นโอตาคุสไตล์ลิสเหมือนกัน นำมาปัดฝุ่นและและใช้อย่างถูกทางเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆได้

      สรุปแล้ว Princess Jellyfish (2014) เจ้าหญิงแมงกะพรุน เหมือนเป็นหนังที่บอกว่าโอตาคุก็สามารถประสบความสำเร็จได้ หากเรามีความรู้และสนใจในบางเรื่องอย่างจริงจังและนำมันมาต่อยอดอย่างถูกทาง ก็สามารถพุ่งชนความสำเร็จได้ไม่ว่าจะเป็นโอตาคุในเรื่องอะไรก็ตาม แต่หากเป็นทั้งโอตาคุแล้วก็ NEET ในเวลาเดียวกัน เราก็จะกลายเป็นเพียงคนที่แค่รู้ดีในเรื่องนั้นๆ หากไม่ลงมือทำอะไรปล่อยให้สิ่งที่เรารักและชอบอยู่แค่เพียงในความคิดจินตนาการต่อไป

#MovieReview #รีวิวหนัง