วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Rainbow Song (2006)

Rainbow Song (2006) aka Niji no megami กว่าจะรู้ว่ารัก (เพื่อน)
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance

      ผมเป็นคนหนึ่งที่ขอสารภาพเลยนะว่าไม่ค่อยจะอินกับหนังแอบรักเพื่อนกะเขาซักเท่าไหร่ เกิดมาชีวิตนี่แทบจะไม่เคยแอบรักเพื่อนของตัวเองซะที ถ้าจะมีคงซักช่วงหนึ่งสั้นๆสมัยเรียน ปวส อาจจะแอบ…จริงๆก็ไม่แอบเท่าไหร่เขาน่าจะรู้ 555 ก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ความลำบากใจของคนที่แอบรักเพื่อนได้บ้างนะว่ามันเป็นอย่างไร ซึ่งพอโตขึ้นมามองย้อนกลับไปในตอนนั้นเอาจริงแล้วมันไม่ใช่เราแค่ฝ่ายเดียวหรอกที่ลำบากใจ เพื่อนของเราเขาก็คงลำบากใจไม่ต่างกัน  ในการรักษาระยะห่างไม่ให้มันเกินคำว่าเพื่อน แต่ก็ไม่ห่างจนตัวเรารู้สึกได้ว่าเขารู้…แล้วเขาจะเปลี่ยนไป

      โทโมยะ(Hayato Ichihara) สตอลเกอร์ (stalker) หนุ่มน้อยที่แอบชอบสาวร้านขายหนังสือแล้วมักจะเดินตามสะกดรอยเธอเป็นประจำ จนวันนึงที่เขาตัดสินใจรวบรวมความกล้าเข้าไปจ้าง อาโออิ(Juri Ueno) เพื่อนของคนที่เขาแอบชอบอยู่ ให้ช่วยนัดเพื่อนของเธอออกมาเดทกันสักครั้งหนึ่งได้ไหม  ด้วยความจำเป็นต้องใช้เงินของ อาโออิ เธอจึงตกปากรับคำเป็นแม่สื่อให้ แต่เพื่อนของเธอดันปฏิเสธซะได้ อาโออิ เลยต้องกลายมาเป็นคนที่มานั่งกินข้าวกับ โทโมยะ เสียเอง นั่นก็เลยกลายเป็นจุดที่ทำให้ทั้งคู่กลายมาเป็นเพื่อนซี้คู่หูกัน ที่ไม่ว่าใครจะทำอะไรต่างฝ่ายก็ต่างช่วยเหลือกันเสมอ โทโมยะ กลายเป็นพระเอกหนังให้ อาโออิ ส่วน อาโออิ เองเหมือนเป็นคนที่คอยฉุดดึงให้ โทโมยะ ลุกขึ้นมาทำอะไรให้กับชีวิตตัวเองอยู่เสมอ

***เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน***
**
      เพิ่งจะบ่นไปเมื่อตอนเขียนรีวิวเรื่อง Midnight Sun (2006) ว่าหนังญี่ปุ่นชอบเล่นประเด็นเกี่ยวกับความตาย เรื่องนี้พี่ท่านก็เอาอีกแล้วแถมมีความติสแตกเฉพาะตัวไม่ได้ตายตอนจบซะด้วยนะ คือเปิดเรื่องมาได้ไม่กี่นาทีก็…อ้าวตายละหรอกันเลยทีเดียว หนังเล่าเรื่องราวแบบไม่เรียงลำดับเวลาแต่ตัดสลับเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันแทน เมื่อเลือกที่จะเปิดเรื่องราวด้วยเหตุการณ์ที่ อาโออิ ประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินเสียชีวิตขณะเดินทางไปอเมริกา เพียงแต่ในขณะนั้นเรายังไม่รู้ว่าเธอมีความสำคัญกับ โทโมยะ ยังไง
      จนกระทั่งหนังเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตโดยแบ่งเป็นพาท ซึ่งแต่ละตอนก็จะเล่าเรื่องราวที่ทำให้รู้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนว่า เริ่มรู้จักกันได้ยังไงเป็นเพื่อนกันในตอนไหน และเพราะอะไรความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงลงเอยแค่คำว่าเพื่อน  คนเราเมื่อคบกันเป็นเพื่อนเมื่อมีเฟรนโซนเกิดขึ้นมาแล้ว น้อยคนนะที่จะกล้าก้าวข้ามไป  เพราะหากอีกฝ่ายไม่ได้คิดเหมือนกันกับเรา นั่นเท่ากับว่ามันอาจจะไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก

      ไม่ต่างจาก โทโมยะและอาโออิ เมื่อทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนซี้กัน ซึ่ง โทโมยะ นั้นมักจะใช้ อาโออิ เป็นแม่สื่อเป็นสะพานข้ามไปหาคนที่ตัวเองรู้สึกชอบมาโดยตลอด จนอาจจะไม่ทันได้มองว่า อาโออิ รู้สึกกับเขายังไง หรือกระทั่งจริงๆแล้วตัวเขาเองก็รู้สึกกับ อาโออิ ยังไงกันแน่ เพราะคนอื่นๆที่อยู่ใกล้ชิดทั้งคู่ต่างมองออกทั้งหมดว่าสองคนนี้รู้สึกยังไงต่อกัน

      หนังเรื่องนี้ที่โดนใจใครหลายคนอาจจะเป็นเพราะว่าในชีวิตจริง โทโมยะ ก็มีความเป็นวัยรุ่นผู้ชายในแบบฉบับทั่วไป  ที่อายุยังน้อยเป็นคนค่อนข้างไม่มีความมั่นใจในตัวเอง มักจะปิ๊งใครจากรูปร่างภายนอก และอาโออิ ก็เป็นเพื่อนสาวห้าวๆที่เพื่อนผู้ชายมักจะไว้ใจและใช้เป็นที่ปรึกษาด้วยเสมอๆ ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่จะปรึกษาคงไม่พ้นความรักและมักจะใช้เพื่อนคนนี้เป็นแม่สื่อให้ เชื่อได้เลยว่าหลายคนในวัยเรียนคงจะไม่ต่างจาก โทโมยะและอาโออิ ซักเท่าไหร่หรอก

      สิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่หยุดอยู่ตรงคำว่าเพื่อน  ก็คงเพราะต่างฝ่ายต่างไม่กล้าก้าวข้ามเฟรนโซน ไม่กล้าที่จะพูดความรู้สึกในใจของตัวเอง ในเรื่องนี้หากจะมีใครที่รู้สึกผิดที่สุดคงจะเป็น โทโมยะ เพราะถึงแม้ อาโออิ จะเดินทางไปอเมริกาตามคำแนะนำของหัวหน้า แต่คนที่สามารถหยุดเรื่องราวการสูญเสียครั้งนี้ได้ก็คงจะมีแต่ โทโมยะ แต่เขากลับเลือกที่จะไม่ทำอย่างนั้น

      สรุปแล้ว Rainbow Song (2006) เป็นหนังที่มีความติสแตกมีสไตล์การนำเสนอเฉพาะตัวพอสมควร อาจจะไม่ถึงกับเรียกได้ว่าเป็นหนังแนวที่ดูยากอะไร  แต่ไม่ใช่หนังรักฟินๆฟีลกู๊ดดูง่ายแน่นอน และที่แน่ๆเชื่ออย่างหนึ่งว่า  ใครที่ได้ดูและเคยมีประสบการณ์ในทำนองเดียวกันนี้น่าจะชอบได้มายาก

#MovieReview #รีวิวหนัง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...