One Day (2017) วันสุดท้าย
#ปีนรั้วรีวิว #Drama
คังซู (คิมนัมกิล)
พนักงานบริษัทประกันที่เพิ่งเจอกับข่าวร้ายในการสูญเสีย ซอนฮวา (Hwa-Yeong Lim)
ภรรยาของเขา ซึ่งตัว คังซู เองกลับไม่กล้าแม้แต่จะไปงานศพของเมียตัวเอง ได้แต่เพียงทำตัวให้งานยุ่งเข้าไว้เพื่อลืมเรื่องทั้งหมด คังซู ที่ปัจจุบันทำงานนั่งโต๊ะอยู่แต่ในออฟฟิตได้รับมอบหมายงานใหม่ ซึ่งเป็นเคสสำคัญ เมื่อลูกค้าของบริษัทขับรถไปชนสาวผู้บกพร่องทางการมองเห็น(ในหนังเน้นย้ำเรื่องการใช้คำเรียกมาก คือ เหมือนจะพยายามที่จะทำความเข้าใจกับสังคมว่าไม่ควรเรียกคนกลุ่มนี้ว่าคนตาบอด แต่ให้เรียกว่า “ผู้บกพร่องทางการมองเห็น” แทน)
เมื่อ คังซู ไปถึงโรงพยาบาลเขาก็ได้เจอ มิโซ (ชอน อู ฮี)
ผู้ประสบเหตุที่ตัวเองได้รับหน้าที่ให้มาไกล่เกลี่ยหาทางทำให้เธอยอมความ หรือหาหลักฐานอะไรก็ได้เพื่อเอามาฟ้องว่าเธอจงใจฆ่าตัวตาย เพียงแต่ว่า มิโซ ที่เขาเห็นคือร่างที่นอนนิ่งเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่บนเตียง คังซู เลยทำได้เพียงหาทางติดต่อกับผู้ปกครองของ มิโซ เท่านั้น วันรุ่งขึ้นที่ คังซู กลับมายังโรงพยาบาลก็ได้เจอกับ มิโซ ที่มีชีวิตชีวาและเหมือนฟื้นจากความเจ็บป่วยมาแล้ว ทว่าที่เขาเห็นอีกอย่างก็คือร่างของ มิโซ ยังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงเหมือนเดิม แล้วที่บ้าที่สุดก็คือมีเพียง คังซู เท่านั้นที่มองเห็น มิโซ ผู้หญิงที่ลุกขึ้นมาพูดคุยกับเขาคนนี้
****เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ****
**
*
หนังเรื่องนี้หากจะถามความเห็นส่วนตัวของคนเขียนเอง อยากจะจำกัดความว่าเป็นหนังสำหรับคนที่ “เกลียดตัวเอง” เกลียดสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เกลียดที่ตัวเองรู้สึกโล่งอกโล่งใจกับเรื่องราวร้ายๆที่เกิดขึ้น แต่กลับกันอีกมุมหนึ่งมันก็ทำให้ได้เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายนึงว่า จริงๆแล้วสิ่งต่างๆที่ตัดสินใจทำลงไป ก็เพื่อให้คนที่ยังอยู่ไม่ต้องใช้ชีวิตที่เหลือบนความทุกข์ใจ
คนที่ไม่เคยมองเห็นเลยทั้งชีวิตอย่าง มิโซ เมื่อจิตออกจากร่างกายเธอกลับมองเห็นทุกสิ่งอย่าง แต่ที่กลับกันคือคนอื่นไม่สามารถมองเห็นเธอ จะมีแต่เพียง คังซู คนเดียวเท่านั้นที่สามารถมองเห็นและสัมผัสเธอได้ คำขอแรกของ มิโซ ก็ไม่ใช่อะไรยากเย็นแต่เป็นการให้ คังซู พาเธอออกไปมองโลกเห็นเมืองเห็นผู้คนได้สัมผัสความรู้สึกต่างๆที่เธอไม่เคยรับรู้มันมาก่อน
แต่ผีอย่าง มิโซ ก็มีความลับเมื่อเธอเองไม่สามารถบอกได้ว่า ทำไมจึงเดินทางไปยังเมืองที่เธอประสบอุบัติเหตุ อีกทั้งทำไมเธอถึงไม่พกไม้เท้านำทางไปด้วย หรือมันเป็นเพราะเธอตั้งใจจะฆ่าตัวตายจริงๆ ทำให้ คังซู ต้องพยายามตามหาความจริงเอาเองจนได้รู้ว่าทำไมเธอถึงไปที่นั่น
สาเหตุที่ คังซู ตัดสินในละเมิดคำสั่งของบริษัท เพื่อจะช่วยผี มิโซ นั่นก็เพราะเธอทำให้เขาได้นึกย้อนไปถึงวันที่ภรรยาของตัวเองป่วย แล้วตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก ปัญหาทุกอย่างมันเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของคนป่วย และความเหนื่อยหน่ายของตัวเองที่แสดงออกมาทางสีหน้าและแววตาให้คนรักได้เห็น ที่ต่างคนก็ต่างเป็นทุกข์กับสิ่งที่เกิดขึ้น ซอนฮวา จึงตัดสินในจบเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่เธอตัดสินใจทำมันกลับเกิดเป็นแผลในใจของ คังซู เมื่อการตายของเมีย ด้านหนึ่งมันกลับทำให้เขารู้สึกโล่งใจว่าภาระความเหนื่อยหน่ายมันจบลงแล้ว แต่ความโล่งใจนี้เองที่มันทำให้เขารู้สึกผิดที่คิดแบบนั้น
การได้มาเจอกับผี มิโซ มันจึงทำให้เขาได้เขาใจกับความรู้สึกจริงๆของคนที่กำลังจะจากไป ว่าจริงๆแล้วเขากำลังคิดอะไรอยู่ทำไมจึงตัดสินใจลงไปในแบบนั้น
เป็นหนังที่น่าจะพูดถึงการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะอีกสถานการณ์หนึ่ง คังซู ที่ต้องเผชิญกับสารพัดผู้คนที่แกล้งป่วยเพื่อเคลมเงินประกัน ที่จริงอยู่ว่าการโกงมันเป็นเรื่องผิด แต่บางครั้งหลายคนก็ยอมเลือกที่จะทำในสิ่งผิดเพื่อให้คนที่รอออยู่ข้างหลังมีความสุข
สรุปแล้ว One Day (2017) อาจจะไม่ใช่หนังที่โรแมนติก หรือดราม่าหนักหน่วง แต่ผมเองก็ชอบคำถามของหนังและสิ่งที่หนังอยากจะสื่อนะ ว่าเราเองจะผิดมากไหมหากรู้สึกโล่งใจเมื่อเรื่องราวที่ทุกข์มานานมันถึงจุดจบที่แลกมาด้วยการสูญเสีย แล้วความรู้สึกของคนที่จากไปล่ะ เขาอยากให้เราจมอยู่กับความรู้สึกผิดอย่างนั้น หรือจริงแล้วเขาอยากให้เราก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมีความสุขกันแน่
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: One Day (2017)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น