วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Very Ordinary Couple (2013)

Very Ordinary Couple (2013) รัก สุด ฟิน
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance Director: Deok Noh

      ใครตั้งชื่อไทยกันเนี่ย ไม่ได้เข้ากับหนังเลยแม้แต่น้อย ฮ่าฮ่า ไม่รู้ใครเป็นคนต้นคิดนะ ที่เปรียบว่า “การกลับไปคบกับแฟนเก่า ก็เหมือนอ่านหนังสือเล่มเดิม ยังไงมันก็จบเหมือนเดิมวันยันค่ำ” แต่ส่วนตัวผมเองคิดว่า ชีวิตคนเรามันไม่เหมือนกับหนังสือ เพราะทุกอย่างเรากำหนดเอง ไม่ได้ดำเนินชีวิตตามบทในหนังสือ หากจะเปรียบคงเหมือนกับ"สมุด"มากกว่า ที่คนสองคนช่วยกันบันทึกเรื่องราวทั้งดีและร้ายร่วมกัน เพียงแต่หมึกที่ใช้เขียนมันก็คือความรัก ที่หากมันหมดลงเมื่อไหร่ ก็เท่ากับว่าบันทึกเล่มนั้นมันถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
      จางยอง (คิมินฮี) และ ดองฮี (อีมินกิ) คู่รักที่ทำงานอยู่ในธนาคารเดียวกัน และคบหากันมานานหลายปี ทว่าดันไปไม่รอดตัดสินใจจบความสัมพันธ์ลง โดยที่ทั้งสองก็ยังไม่รู้สาเหตุเลยว่า ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร ทั้งคู่ไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ขณะที่คบกัน จนกระทั่งทุกวันนี้ที่เลิกกันไปแล้วก็ตาม เพื่อนร่วมงานที่รู้ความลับของทั้งคู่ เห็นจะมีแค่ พัค เพื่อนซี้ของ ดองฮี เพียงคนเดียวเท่านั้น 
      แต่ดูเหมือนว่าการจบความสัมพันธ์ ทั้งที่ลึกๆยังคิดถึงกันอยู่ มันเริ่มสร้างปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ จางยอง ก็เอาแต่เหวี่ยงใส่ ดองฮี ในที่ทำงาน และ ดองฮี เองก็ไม่น้อยหน้า เมื่อทวงข้าวของที่ จางยอง เคยยืมไปกลับคืนมา สงครามย่อมๆในที่ทำงานจึงเริ่มขึ้น เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดราวาศอกให้กัน

      จนสุดท้ายก็ความแตกเอาจนได้ ในวันที่พนักงานทุกคนไปปาร์ตี้สละโสดของ หัวหน้าซอน ดองฮี ที่เมาเละเทะออกอาการหึงหวง จางยอง กับ ผู้จัดการมิน ออกนอกหน้าจนทั้งคู่ทะเลาะกัน วิกฤติความสัมพันธ์ของทั้งสองคน จึงแทบจะถูกตอกฝาโลงปิดตายไม่ได้ผุดได้เกิดเลยในครั้งนี้

      หนังเรื่องนี้นำเสนอแบบกึ่งสารคดีปลอม เมื่อในแต่ละช่วงจะตัดสลับให้ตัวละคร มาเล่าเรื่องราวของตัวเองผ่านหน้ากล้อง เพราะทางธนาคารต้องการสร้างหนังสารคดีในที่ทำงาน โดยเอาเรื่องของ  คู่รักคู่เลิก จางยองและดองฮี มานำเสนอ

      อย่างที่บอกไปทีแรกว่า ใครเป็นคนตั้งชื่อไทยเนี่ย สงสัยกะจะใช้โปสเตอร์กับชื่อไทยหลอกคนดู ซึ่งสถานการณ์ในเรื่อง มันไม่ได้มีอะไรฟินเลยแม้แต่น้อย ฮ่าฮ่า เพราะสถานการณ์ของทั้ง จางยองและดองฮี ถึงแม้บางช่วงมันจะดูตลกก็จริง แต่มันก็เป็นตลกร้ายที่เราขำไม่ออกแม้แต่น้อย มันมีแต่ความรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อคนดูมองออกว่าทั้งสองคนยังรักกัน แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงทะเลาะกัน ทำไมถึงเลิกกัน การแสดงออกทุกอย่างของทั้งคู่ 

      ไม่ว่าจะถกเถียงกันเหวี่ยงใส่กัน แอบส่องชีวิตส่วนตัวของกันและกัน มันเลยการเป็นการฉุดรั้งให้ทั้งคู่ตัดกันไม่ขาดเสียที  คู่รักอย่าง จางยองและดองฮี ก็เป็นเหมือนคู่รักทั่วไป ที่คบกันมานานมากแล้วไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไง ทุกอย่างมันซ้ำซาก จำเจ วนซ้ำเดิมจนกลายเป็นความเคยชิน เดี๋ยวก็รักกันดี เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน ด้วยเรื่องเล็กน้อยที่ไม่เป็นเรื่อง สุดท้ายเลยไม่รู้ว่า ตกลงแล้วโกรธกันเรื่องอะไร ทะเลาะกันเรื่องอะไร เพราะมันก็เหมือนกันในทุกครั้ง เพียงแค่ครั้งนี้ต่างไปจากเดิมตรงที่ ตัดสินใจจบความสัมพันธ์

      ฉากที่ตัว จางยองและดองฮี ยืนทะเลาะก่อนเลิกกัน บทพูดของทั้งสองคนเชื่อเลยว่า ใครที่มีประสบการณ์ทะเลาะกันกับแฟน จนจบความสัมพันธ์ต้องนึกย้อนถึงตัวเองแน่ๆ…ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ฮ่าฮ่า หนังเรื่องนี้ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างเซอร์วิส พวกที่ไม่ลืมแฟนเก่ายังรักแฟนเก่า หวังลมๆแล้งๆว่าวันชื่นคืนสุข อาจจะย้อนกลับมาอีกครั้ง เหมือนกับที่ตัวละครคิดเข้าข้างตัวเองว่า "สถิติของคนรักที่เลิกกันไปแล้ว กลับมาคืนดีกันมีเพียงแค่ 3% ที่ไปรอด แต่ว่าโอกาสจะถูกลอตเตอรี่นั้นมีแค่ 1 ใน 814 ล้านเท่านั้น ทว่ายังมีคนถูกทุกอาทิตย์ ฉะนั้นแค่ 3% ก็ถือว่าคุ้มที่จะลองเสี่ยงอีกสักครั้งนึงแล้ว" 

      การคบกันแล้วความสัมพันธ์ไม่ราบลื่น ทะเลาะกันบ่อยด้วยเรื่องไร้สาระ ผมไม่รู้นะว่ามันคือสัญญาณทางตัน ของความสัมพันธ์แล้วหรือเปล่า แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าการพูดคำว่า “เลิกกัน” กับ การไม่พูดอะไรเลยแล้วนิ่งเฉย ปล่อยให้มันจืดจางไปเอง แบบไหนมันเป็นทางออกที่ดีกว่ากัน แต่ว่าอย่างน้อยจากประสบการณ์(อันน้อยนิด)ของตัวผมเอง คงบอกได้ว่า 

      หากใครกำลังมีปัญหาในความสัมพันธ์ ก็ขอให้คิดให้ดี แน่ใจก่อนว่าอยากจะเลิกจริงๆ ถึงพูดคำนั้นออกไป อย่าพูดในขณะมีอารมณ์ เพราะว่าคำพูดเมื่อออกไปแล้ว มันเอากลับคืนไม่ได้ ความรู้สึกของอีกฝ่ายที่เสียใจไปแล้ว หากเขาไม่อภัยให้…นั่นแหละคือทางตันของจริง

      สรุปแล้ว Very Ordinary Couple (2013) รัก สุด ฟิน ถามว่าหนังมันสนุกบันเทิงมั้ย  ตอบเลยว่าไม่นะ แต่ถามว่าคนที่มีประสบการณ์รักๆเลิกๆกับแฟน หากได้ดูก็อาจจะถูกใจ ทำให้นึกย้อนไปถึงวันเก่าๆสำรวจตัวเองได้เหมือนกันนะว่า ตกลงแล้วมันเพราะอะไรทำไมถึงต้องจบลง

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...