Starry Starry Nights (2012)

Starry Starry Nights (2012) 
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Fantasy

      เหมย (Jiao Xu)เด็กสาวที่เคยมีครอบครัวอบอุ่นมาก่อน แต่ตอนนี้ที่เธออายุ 13 ปี ทั้งพ่อและแม่เริ่มมีปัญหาไม่เข้าใจกัน คนเดียวที่ เหมย พอจะพูดคุยปรับทุกข์ได้ก็คือปู่ของเธอ เพียงแต่ปู่ของ เหมย ที่มีงานอดิเรกคือ การแกะสลักไม้ ก็อาศัยอยู่ตามลำพังกลางป่า ทำให้ทุกวันนี้ถึง เหมย จะมีพ่อแม่พร้อมหน้า แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้า ทะเลาะกันได้ทุกเมื่อ เหมย จึงเหมือนอยู่ตัวคนเดียวลำพังไม่มีใครคอยให้พูดคุยเมื่อเจอกับปัญหา

      ในวันเปิดภาคเรียนใหม่ ในห้องเรียนของ เหมย ก็มี เจย์ (Hui-Min Lin) เด็กนักเรียนคนใหม่ย้ายเข้ามาและ เหมย ก็จำได้ว่า เขาพักอยู่อพาทเม้นต์ฝั่งตรงข้ามกันนี่เอง แต่เมื่อ เหมย เป็นฝ่ายเริ่มทักทายก่อน ก็เหมือนไม่มีสัญญาณตอบรับ จากเลขหมายที่ท่านเรียก เพราะ เจย์ กลับเป็นเด็กหนุ่มเก็บตัวในมือก็ถือแต่สมุดสเกตภาพ และไม่ยอมคบใครในห้องสักคน หลังเลิกเรียน เหมย จึงพยายามสะกดรอยตาม เจย์ เพื่อดูว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหนต่อ แล้วเธอก็ได้เห็นเรื่องบางอย่างที่น่าตกใจของ เจย์ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ เหมย สนใจในตัวเขามากขึ้น และพยายามหาทางสานสัมพันธ์ของทั้งเธอและเขา เพราะสำหรับ เหมย แล้ว…ในตอนนี้ เจย์ คงจะเป็นเพื่อนคนเดียว ที่เข้าใจหัวอกของเธอที่สุด

      หนังก้าวพ้นวัย (coming of age) จากไต้หวัน ที่เล่าเรื่องราวของเด็ก ที่กำลังก้าวจากเด็กน้อยสู่ช่วงชีวิตวัยรุ่นตอนต้น ที่ทั้งสองคนมีความเหมือนกันคือ การเผชิญกับปัญหาครอบครัวที่แตกร้าว ฉะนั้นคงไม่มีใครเข้าใจความรู้สึก ของทั้งคู่ได้มากเท่ากันและกันอีกแล้ว 

      หนังนำเสนอผ่านการเล่าเรื่อง ที่ผสมภาพแฟนตาซีลงไป ด้วยการเนรมิตฉากบางช่วงเป็นภาพสีน้ำมัน อะนิเมชั่นเหล่าสัตว์น้อยใหญ่จากกระดาษพับ หรือตุ๊กตาท่อนไม้หลากสีสันที่ปู่ของ เหมย แกะสลักส่งเป็นของขวัญให้เธอ การใส่สิ่งต่างๆเหล่านี้ลงมา ถือว่ากำลังดีนะไม่ดูเป็นแฟนตาซีเด็กน้อยเกินไป ถือว่ากำลังน่ารักเลยล่ะ เพราะภาพแฟนตาซีเหล่านี้ มันเป็นสิ่งแทนภาพความรู้สึกของเด็กทั้งสองคน ที่รักชอบในสิ่งเดียวกันคืองานศิลปะ ว่ากันตรงๆเลยก็คือ หนังค่อนข้างมีความเฉพาะตัว ไม่ได้เน้นขายความบันเทิง แต่เน้นการสื่อสารเรื่องราวของทั้งสองคน ผ่านศิลปะภาพแฟนตาซีตามจินตนาการของทั้งคู่

      เหมย นั้นโตมากับครอบครัวศิลปิน เมื่อแม่ของเธอเป็นนักเรียนศิลปะจากฝรั่งเศส และปู่ของเธอเป็นช่างแกะสลักไม้ ส่วน เจย์ นั้นก็เป็นเด็กที่รักการวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้ถึงแม้ เจย์ จะอยู่ในครอบครัว ที่ใช้ความรุนแรงมาตลอด แต่อย่างน้อยเขาก็ยังมีศิลปะ ที่พอจะช่วยเยียวยาจิตใจได้บ้าง

      ส่วนตัวชอบธีมของหนัง แล้วก็ข้อความที่หนังพยายามสื่อสาร เรื่องราวของเด็กสองคน ที่ต้องเจอกับปัญหาครอบครัวพ่อแม่เลิกรากันนะ แต่เอาจริงเนื้อหามันก็มีเท่านี้แหละ หนังดำเนินเรื่องผ่านเด็กสองคนด้วยการให้เราไปสำรวจ สิ่งต่างๆที่เด็กทั้งคู่ได้เจอมา การผจญภัยเล็กๆร่วมกัน เพื่อเยียวยาความรู้สึก รวมทั้งการที่พวกเขาต้องโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่อีกขั้นหนึ่ง เพื่อก้าวข้ามปัญหาของผู้ใหญ่(อย่างพ่อแม่)ที่มันส่งผลกระทบมาหาพวกเขา

      ประโยคนึงในหนังที่บอกว่า "พวกเราในวัย 13 ปีนั้นทั้งเปราะบางแต่ก็แข็งแกร่งเช่นกัน" เมื่อด้านนึง เราได้เห็นพฤติกรรมที่ไม่ดี ซึ่งมันก็ถูกเลียนแบบได้ง่ายๆ เมื่อการทำผิดแล้วไม่ถูกจับได้ มันคือความตื่นเต้น และทำให้รู้สึกประสบความสำเร็จ 

      แต่อีกด้านหนึ่งมัน ก็คือการเรียกร้องความสนใจ เพราะลึกๆแล้วพวกเขาอาจจะอยากถูกจับได้ก็ได้ มันจึงเป็นเรื่องน่ากลัวอย่างหนึ่ง ของเด็กมีปัญหาครอบครัวนะ เพราะพวกเขาสามารถถูกชักจูงไปในทางที่อาจจะดีหรือไม่ดี ได้ง่ายๆเลย หากเขาเจอคนที่คิดว่ามีอะไรเหมือนกัน หรือเข้าอกเข้าใจกันเองดี 

      ส่วนด้านแข็งแกร่งก็คือ เด็กในวัยนี้มักจะมีความกล้าหาญในการปกป้องผู้คน พวกเขาสามารถก้าวเข้าไปออกรับแทน หรือปกป้องเพื่อนเมื่อเจอปัญหาได้ ซึ่งแตกต่างจากผู้ใหญ่ ที่เมื่อผ่านโลกมามากมาย เราก็มักมีข้ออ้างให้ตัวเองเสมอ ในการที่จะทำหรือไม่ทำอะไรก็ตาม หรือพูดง่ายๆว่า เป็นผู้ใหญ่จะตัดสินใจทำอะไร ก็จะตรรกะเยอะคิดเยอะเป็นธรรมดา

      สรุปแล้ว Starry Starry Nights (2012) เป็นหนังที่มีความเฉพาะตัวไม่เน้นบันเทิงนะ ไม่มีคอมเมดี้ แต่มีดราม่าเล็กๆ แล้วก็มีโรแมนติกฉบับเด็กน้อย ที่ทั้งสองคนต้องสร้างประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อเยียวยาความรู้สึกและก้าวข้ามพ้นปัญหา ที่เกิดเพื่อโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจแข็งแกร่งขึ้น

#MovieReview #รีวิวหนัง