The Exclusive: Beat the Devil's Tattoo (2015)

The Exclusive: Beat the Devil's Tattoo (2015) ยอดนักข่าวกระชากหน้ากากปีศาจ
#ปีนรั้วรีวิว #Comedy #Crime #Drama Director: Deok Noh

      ชื่อนี่ก็เนาะยาวทั้งชื่ออังกฤษชื่อไทยเลยพับผ่าซิ ฮ่าฮ่า เรื่องราวของคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง 7 รายในเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีเบาะแสคนร้ายแม้แต่น้อย สร้างความหวาดกลัวให้คนในเมืองและกลายเป็นข่าวใหญ่ ที่ผู้คนต่างให้ความสนใจคดีฆาตกรรมที่ว่านี้ ฮอมูฮยอก (โจจองซอก) นักข่าวหัวเห็ด ที่ได้รับคำสั่งให้ตามคดีนี้ด้วยเช่นกัน เขาได้รับโทรศัพท์จากพลเมืองดี แจ้งเบาะแสของคนร้ายเข้ามา แต่ยังไม่ทันได้สอบถามราบละเอียดครบถ้วน เขากลับถูกแจ้งข่าวร้ายมาก่อน ว่าต้องถูกพักงานแบบยาวๆ หรือเรียกง่ายๆว่าถูกไล่ออกนั่นแหละ เนื่องจากไปเหยียบตาปลาของผู้มีอิทธิพลเข้า 

      ชีวิตที่เข้าขั้นวิกฤติเมื่อเมียท้องแก่ก็กำลังขอหย่า งานที่พอจะทำเงินมายาไส้ได้บ้าง ก็ดันมาถูกไล่ออก แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเอ๊ะ…เราเพิ่งได้เบาะแสข่าวใหญ่มานี่หว่า นักข่าวฮอ จึงตัดสินใจเดินหน้าสืบเบาะแสคดีฆาตกรรมที่ว่าด้วยตัวเอง และที่สำคัญจากการได้พบกับพลเมืองดีคนนั้นแล้ว ดูเหมือนว่านักข่าวฮอ จะได้กระดูกชิ้นโตมาอยู่ในมือแล้ว และเขาไม่มีทางที่จะปล่อยให้มันหลุดมือไป เพราะมันจะเป็นใบเบิกทางสำคัญ ที่จะทำให้เขาได้กลับไปยืนเด่นเป็นสง่าในฐานะนักข่าวอีกครั้ง…และครั้งนี้มันจะต้องดีกว่าเดิม

***เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน***
**

      หนังที่เห็นผ่านตามาหลายครั้วแล้ว แต่ก็ไม่ได้ตัดสินใจดูเพราะหลังจากดูตัวอย่างแล้ว เหมือนหนังทำออกมาในธีมคอมเมดี้ ก็กลัวจะไม่สนุก แต่พอลองเปิดใจดู ก็เฮ้ย….ผ่านนะ สนุกดีเหมือนกัน หนังก็ทำออกมาในธีมคอมเมดี้ ตามตัวอย่างเป๊ะๆเลยนั่นแหละ เพียงแต่ว่ามันเป็นเรื่องแบล็กคอมเมดี้ ที่ตลกไม่ออกแบบที่ชอบพอดี 

      ไม่รู้จะเหมือนเป็นการสปอยมั้ยนะ แต่เอาจริงๆตอนที่เราดูเรารู้แต่แรกเลยล่ะว่า มันผิดปรกติแน่ๆกับข่าวที่ มูฮยอก ได้มา แต่เมื่อสถานการณ์มันเลยเถิดไปแล้ว พอเขาอยากจะถอยมันดันถอยไม่ได้เสียอีก ก็เลยต้องตามน้ำมันไป เอาขาแหย่คุกเข้าไปเรื่อยๆ หนังเองเหมือนจะสะท้อนแนวความคิดอย่างนึงที่ว่า บางครั้งความจริงมันเป็นอย่างไร ก็ไม่ได้สำคัญเสมอไป สำคัญที่ว่าเราอยากบอกอะไร แล้วคนอื่นอยากรู้อะไรมากกว่า

      มันเลยกลายเป็นว่านักข่าว(ในหนัง)ไม่ได้มีหน้าที่เสนอความจริง แต่มีหน้าที่หาคนดูและนำเสนอสิ่งที่คนอยากรู้ต่างหาก ถึงต่อให้มันจะใช่หรือไม่ใช่แล้วยังไง ในเมื่อนักข่าวไม่ใช่คนที่มีหน้าที่หาความจริงหรือตัดสินว่าสิ่งไหนคือเรื่องจริง แต่เป็นเจ้าหน้ารัฐที่ต่างหาก ที่ต้องเป็นคนตามหาความจริง ซึ่งจากหนังเรื่องนี้ก็ต้องบอกว่า เจ้าหน้าที่รัฐทำงานโคตรยากเลย ฮ่าฮ่า อะไรมันมั่วยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังไปหมด จนแทบไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จไปแล้ว

      นักข่าวอย่าง มูฮยอก ให้เปรียบไป ก็เหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำนั่นแหละ พอเห็นบางอย่างลอยมาก็รีบคว้าเอามาเกาะไว้ เพื่อหวังว่าจะช่วยพยุงชีวิตให้รอดไปได้ แต่มารู้ตัวอีกที…ไอ้ที่คว้ามาเกาะไว้ดันเป็นจระเข้ ที่ไม่รู้ว่าจะหันมาไล่งับตัวเองเมื่อไหร่ เลยได้แต่เกาะหลังไปด้วยใจระทึก ภาวนาในใจให้ตัวเองรอดตายไปที 

      ส่วนประธานเบคเจ้าของสถานีข่าว ก็เปลี่ยนเหมือนจระเข้ ที่พร้อมจะงับทุกอย่างที่ขวางหน้า โดยที่ไม่สนใจว่าข่าวที่งาบมามันคืออะไร ข้อมูลมันจริงไหม เธอสนเพียงแค่ว่า เรตติ้งวันนี้จะเท่าไหร่ ข่าวจะได้เสนอก่อนชาวบ้านเขาไหมแค่นั้นเอง ตลอดทั้งเรื่องเราจึงได้เห็น มูฮยอก วิ่งวุ่นแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อ กับ มูฮยอก ที่ก่อเรื่องให้มันวุ่นวายเพิ่มมากขึ้นไปอีก 

      ถ้าให้สรุปคงจะบอกได้ว่า The Exclusive: Beat the Devil's Tattoo (2015) ยอดนักข่าวกระชากหน้ากากปีศาจ เป็นหนังเสียดสีวงการสื่อสารมวลชน ที่เหมือนจะบอกให้คนทำใจกันนะ ว่าหน้าที่คนข่าว แค่นำเสนอข้อมูลที่ได้มา ส่วนมันจะจริงหรือเท็จนั้นพวกเขาไม่ใช่คนที่ตัดสิน 

      ส่วนการพิสูจน์เรื่องที่ว่านั้น มันมีกระบวนการของตัวเองอยู่ ในแง่ความบันเทิงก็ถือว่าตอบโจทย์คนชอบหนัง ระทึกขวัญ สืบสวน ได้อยู่นะ เพียงแต่อย่างที่เกริ่นไปก่อนแล้วว่า หนังมันไม่ใช่โทนจริงจังซีเรียส แต่ทำออกมาในโทนตลกร้าย ที่มันไม่ชวนให้ขำเท่าไหร่หรอก

#MovieReview #รีวิวหนัง