The Liar and His Lover (2013)

The Liar and His Lover (2013) aka Kanojo wa uso wo aishisugiteiru สาวเสียงใสกับนายพิน็อคคิโอ
#ปีนรั้วรีวิว #Romance Director: Norihiro Koizumi

      ทุกคนบนโลกนี้คงคิดเหมือนกันคือ ไม่อยากเป็นคนหน้าโง่ที่ถูกใครหลอกเป็นแน่ เพราะการถูกหลอกมันเจ็บปวด ยิ่งการหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า วันหนึ่งความเชื่อใจที่มีมันก็คงหมดไป ยิ่งหากเป็นคนที่รักมาหลอกเรามันก็ยิ่งเจ็บในใจ แต่ใครจะรู้ว่าบางครั้งคนที่พูดโกหก อาจจะเจ็บกว่าคนที่ฟังคำลวงก็ได้ เพราะหากพูดความจริงออกไปมันอาจจะทำร้ายกัน บางทีการโกหกเพื่อให้อีกฝ่ายยังมีความสุข ส่วนตัวเองเก็บความลับไว้กับตัว…มันอาจจะเป็นทางเลือกที่เจ็บปวด แต่มันก็อาจดีกว่าสำหรับอีกฝ่าย

      โองาซาวาระ อากิ (Takeru Satoh) นักแต่งเพลงชื่อดังแต่ทำตัวเป็นหนุ่มนิรนามแห่งวง Crude Play วงเจร็อคชื่อดังแห่งยุค ตัวเขาเองแอบซ่อนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวง ทว่าตอนนี้ อากิ กลับไม่รู้สึกมีความสุขกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้เลย เมื่อตัวเขาเองก็เคยเป็นมือเบสสมาชิกคนหนึ่งของวงตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในสมัยเรียน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ Crude Play มีอันต้องเปลี่ยนมือเบสอย่าง ชินยะ (Masataka Kubota) เข้ามาแทนที่ ส่วน อากิ ด้วยพรสวรรค์การแต่งเพลงของเขา ทำให้ตัวเองกลายมาเป็นคนเบื้องหลังแทน 

      วันนึงที่ อากิ ออกมายืนหาไอเดียฮัมเพลงอยู่ริมน้ำ เขาก็บังเอิญได้เจอกับสาวมัธยมอย่าง โคเอดะ ริโกะ (Sakurako Ohara) สาวน้อยเสียงใสที่มาพร้อมกับผมทรงเห็ด ฮ่าฮ่า แล้วไม่รู้ว่าผีตัวไหนดลใจให้ อากิ โพล่งออกไปว่า เธอเชื่อในรักแรกพบหรือเปล่า ทำเอา ริโกะ สตั๊นไป 10 วิ ก่อนที่จะตอบกลับไปว่าเธอเชื่อ…เพราะว่าเธอตกหลุมรักเขา ตั้งแต่แอบเห็น อากิ ยืนฮัมเพลงอยู่ก่อนแล้ว เลยกลายเป็นว่าทั้งสองคนตัดสินใจออกเดทกันตั้งแต่นั้น เพียงแต่ อากิ โกหกว่าตัวเองชื่อ โองาซาวาระ ชินยะ หนุ่ม NEET ที่ไม่ทำการทำงาน และเขาเกลียดผู้หญิงที่ร้องเพลงที่สุด…ซึ่งปัญหามันจะไม่เกิดขึ้นมาเลยหากสิ่งที่ ริโกะ รักที่สุดไม่ใช่การร้องเพลง

      สารภาพเลยว่าตอนดูแอบบ่นในใจเหมือนกันนะว่า น้ำเน่าเหลือเกินนนนเรื่องนี้ ฮ่าฮ่า แต่เอาจริงหนังก็ไม่น้ำเน่าเฟ้อจนเกินรับได้ เพราะว่าเหตุผลต่างๆที่ตัวละครเลือกทำลงไปมันฟังขึ้น อีกอย่างนึงก็คือแม้หลายๆตัวละครจะมีความเห็นแก่ตัว หรืออยากจะเอาชนะกันก็เถอะ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรล้ำเส้นจนเรารู้สึกว่ามันไม่เมคเซ้นส์ ข้ามเส้นกลายเป็นตัวร้ายในละครน้ำเน่าไป

      ความรักระหว่าง อากิกับริโกะ จะว่าเป็นรักแรกพบซะทีเดียวก็คงไม่ใช่นักเมื่อ ตัว อากิ เองก็เคยบอกว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกชอบเธอตั้งแต่ในครั้งแรก เพียงแต่ว่าเมื่อยิ่งรู้จักกันมากขึ้น ริโกะ ที่แม้จะรู้จักเขาได้ไม่นาน แต่กลับเข้าใจความรู้สึกลึกๆในใจของเขาหลายอย่าง และสัญญาว่าจะเป็นคนปกป้องเขาเอง ตั้งแต่นั้นมา อากิ จึงบอกกับตัวเองว่าจะให้ ริโกะ กลายเป็นคนสำคัญในชีวิตเขา

      นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างคู่พระนางแล้ว สองตัวละครที่ไม่เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่ลึกๆน่าจะมีความรู้สึกคาใจต่อกันอย่าง อากิกับชินยะ ก็มีอะไรให้ทั้งคู่ต่างต้องพิสูจน์ตัวเอง สิ่งที่ทำให้เรารู้ว่า อากิ รู้สึกติดใจอะไรบางอย่างกับ ชินยะ ก็คือ เมื่อเขาเลือกที่จะใช้ชื่อ ชินยะ โกหกกับ ริโกะ ไป นั่นก็เพราะ อากิ ไม่สามารถไปยืนอยู่ในจุดที่ ชินยะ ยืนอยู่ได้ในวงของตัวเอง และตัว ชินยะ ก็อยากเอาชนะ อากิ เช่นกัน เมื่อเขาเองก็รู้สึกอึดอัดใจที่เป็นตัวแทนของ อากิ และต้องอยู่อย่างไร้ตัวตนในที่ที่ไม่ใช่ของตัวเอง ชินยะ เลยอยากจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองเช่นเดียวกัน ว่าเขาก็สามารถสร้างผลงาน สร้างพื้นที่ของตัวเองได้ 

      ตัวละครที่น่าจะร้ายที่สุดแต่ก็เป็นคนที่พูดความจริงที่สุดคนหนึ่งคงจะเป็น ทาคางิซัง (Takashi Sorimachi) เจ้าของค่ายเพลงที่ทำทุกทางเพื่อให้ศิลปินของตัวเองประสบความสำเร็จ จากคำพูดของ ทาคางิซัง ที่มันคอยต้องย้ำอยู่เสมอ เพราะความจริงบางอย่างที่ตัวศิลปินเองก็ต้องยอมรับว่าพวกเขาเป็นยังไงและมายืนที่จุดนี้ได้เพราะอะไร นี่เองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ อากิ กลายมาเป็นคนที่อยู่ในเงาด้านหลังของเพื่อนๆในวง

      ส่วนตัวแล้วหนังเรื่องนี้ถือว่าสนุกและทำได้น่าติดตามนะ อย่างที่บอกไปว่ามันมีความน้ำเน่าเล็กๆเลยทำให้เราได้ลุ้นไปกับตัวละครว่า จะฝ่าวิกฤติต่างๆไปได้ยังไง กับความรักของทั้งคู่ที่มันมาพร้อมคำโกหก ซึ่งหนังเรื่องนี้มันอาจจะเปลี่ยนทัศนคติต่อคำโกหกของเราไปได้บ้าง เมื่อเราจะได้เห็นว่าบางครั้งคนที่เจ็บปวดที่สุดอาจจะไม่ใช่คนฟังคำลวง แต่เป็นคนที่ต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วเอ่ยคำโกหกเพื่อเป็นการปกป้อง ใครบางคนที่เขารักที่สุดและจะไม่ยอมให้เธอต้องเสียใจ

      สรุปแล้ว The Liar and His Lover (2013) aka Kanojo wa uso wo aishisugiteiru สาวเสียงใสกับนายพิน็อคคิโอ เป็นหนังรักที่สนุก ชวนติดตามนะ เรียกว่าลุ้นไปกับตัวละครได้ตลอดทั้งเรื่องเลยล่ะ เพียงแต่บทสรุปของหนังมันอาจจะไม่ฟินเท่านั้นเอง

#MovieReview #รีวิวหนัง