V.I.P (2017)

V.I.P (2017) ฆาตกรวีไอพี
#ปีนรั้วรีวิว #Thriller Director: Hoon-jung Park

      ตามภาพอุดมคติใครๆก็คงอยากได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเสมอภาค แต่ในชีวิตจริงเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า คนมีเงินมีอำนาจย่อมได้รับการดูแลอย่างคนพิเศษอยู่แล้ว หากเป็นสิทธิพิเศษโดยทั่วไปคงพอทำใจยอมรับกันได้ แต่หากใครคนนั้นเกิดเป็นฆาตกรต่อเนื่องล่ะ หากความผิดที่เขาทำได้รับการปกป้องและปกปิดเอาไว้ ใครจะหาญกล้ามาแตะฆาตกร วีไอพี คนนี้

คิมกวางอิล (อีจองซอก) ฆาตกรต่อเนื่องและลูกสมุนของเขา ก่อคดีฆาตกรรร้ายแรงมากมายในประเทศเกาหลีเหนือ ทั้งทรมานและฆ่าเหยื่ออย่างโหดเหี้ยมและบางครั้งหากสบโอกาส เขาก็ไม่พลาดที่จะฆาตกรรมฆ่ายกครัวคนทั้งบ้านเช่นกัน แต่ กวางอิล กลับหลุดรอดการถูกจับกุมมาได้ตลอดทุกครั้งเนื่องจากมีคนช่วยกลบเกลื่อนปกปิดหลักฐานให้กับเขา นั่นก็เพราะพ่อของ กวางอิล คือ คิมโมซุล บุคคลสำคัญในรัฐบาลเกาหลีเหนือ 

      จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครเอาคอพาดเขียงจับกุมฆาตกรวีไอพีอย่าง กวางอิล เพียงแต่ว่ายังมีนายตำรวจคนหนึ่งที่กล้าชนกับอิทธิพลของ กวางอิล ก็คือ อีแดบอม (Hee-soon Park) หัวหน้าหน่วย 35 ที่ขัดคำสั่งของหัวหน้าและพยายามจัดการ กวางอิล ทว่านอกจากเขาจะทำไม่สำเร็จแล้ว  ตัวเองและลูกน้องกลับถูกส่งไปทำงานในเขตชนบทแทน

หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเกาหลีเหนือ  พ่อของ กวางอิล ถูกจับ ทำให้เขาถูกส่งตัวมาฝากไว้กับ พัคแจฮยอก (Dong-Gun Jang) และหน่วยราชการลับของเกาหลีไต้ดูแลเป็นการชั่วคราว  ก่อนที่จะส่งตัวต่อให้กับซีไอเอ แต่ถึงแม้จะไม่ได้อยู่แบบอภิสิทธิ์ชนอย่างในเกาหลีเหนือ กวางอิล ก็ยังไม่หยุดที่จะออกล่าเหยื่อ เขาลงมือฆ่าเด็กสาวในกรุงโซลไปหลายราย  จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว โจซังโอ นายตำรวจที่ดูแลคดี  ได้รับความกดดันจากการที่เขาไม่สามารถปิดคดีได้จนต้องฆ่าตัวตาย 

      เดือดร้อนถึงกรมตำรวจที่ต้องยอมเสียหน้าตาม แชอีโด (Myung-Min Kim) นายตำรวจเลือดร้อนที่ถูกพักราชการเอาไว้เข้ามารับหน้าที่สอบสวนคดีนี้แทน ด้วยความสามารถและการเล่นนอกกติกาของ แชอีโด เขาใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทราบตัวผู้ต้องสงสัยอย่าง คิมกวางอิล เพียงแต่การจะเอาตัวเขามารับโทษมันไม่ง่ายอย่างนั้น เมื่อ แชอีโด ต้องเล่นเกมชิงตัวคนร้าย  ทั้งกับหน่วยสืบราชการลับและซีไอเอที่พยายามล้วงเอาข้อมูลบางอย่างจาก กวางอิล

เห็นเรื่องนี้ผ่านตามาหลายครั้งแต่ไม่ได้ตัดสินใจดู  เพราะว่าเห็นโปสเตอร์แล้วมันไม่ชวนดึงดูดจริงๆ มันไม่สื่อถึงเนื้อหาของหนังเท่าไหร่ แต่พอได้อ่านเรื่องย่อแล้วมันน่าสนใจดี ยิ่งหลังจากได้ดูแล้วหนังเรื่องนี้จบแล้ว  ถือว่าเป็นหนังทริลเลอร์เกาหลีที่สนุกอีกเรื่องนึงเลยนะ อาจจะไม่ถึงกับอยู่แถวหน้าอย่างเรื่องดังๆก่อนหน้านี้อีกหลายเรื่อง แต่หากเป็นคอหนังระทึกขวัญ  ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน

      ผมว่าหนังเองมีบางส่วนคล้ายกับหนังญี่ปุ่นเรื่อง Shield of Straw (2013) ที่ฆาตกรต่อเนื่องถูกปกป้องจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพียงแต่ว่าใน Shield of Straw ตัวละคร โยคิมารุ นั้นถูกปกป้องด้วยอุดมการณ์ของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องการรักษาระบบความยุติธรรมเอาไว้ไม่ให้ใครมาละเมิดได้ แต่กับ V.I.P เรื่องนี้ตัวละคร กวางอิล ถูกปกป้องด้วยการละเมิด กระบวนการยุติธรรม จนเรียกได้ว่าความยุติธรรมไม่มีทางเอาชนะอำนาจของอีกฝ่ายได้เลย หากไม่ยอมลงสนามด้วยการฉีกกฎกติกาออกไปเสียก่อน  แล้วลงสนามฟาดฟันกันในแบบมวยวัดไร้กฎเกณฑ์

นักแสดงรุ่นใหญ่ในหนังต่างคุ้นหน้าคุ้นตาเราดีทั้งนั้น อย่าง พัคแจฮยุก ก็รับบทโดย จางดงกอน ที่เรื่องนี้ก็ยังรับบทในแนวแอคชั่นต่อเนื่อง ยาวมาจาก No Tears For The Dead (2014) กระสุนเพื่อฆ่า น้ำตาเพื่อเธอ เพียงแต่เรื่องนี้ก็ต้องเกลี่ยบทให้คนอื่นๆเยอะ อาจจะไม่ถึงกับโดดเด่นมากนัก น้ำหนักของหนังจะเทไปที่ตัวละคร แชอีโด ที่รับบทโดย คิมยองมิน กับกวางอิล ที่รับบทโดย อีจงซอก เสียมากกว่า 

      การแสดงของ อีจงซอก ในบทฆาตกรต่อเนื่องถือว่าสอบผ่าน เล่นเป็นฆาตกรหน้านิ่ง เลือดเย็นได้ดีจริง ๆ แต่ถึงจะมีแอร์ไทม์มีบทบาทในหนังพอสมควร กระนั้นบทหนังก็ไม่ได้ส่งให้โดดเด่นเท่ารุ่นใหญ่ ไม่ได้มีอะไรให้แสดงโชว์ฝีมือมากเท่าไหร่ ด้วยความที่แสดงเป็นฆาตกรที่ถูกเปิดเผยตัวตนอยู่แล้ว บทบาทเลยมีเพียงมิติเดียวคือการเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ไม่ต้องมีการหลบซ้อนตัวตนปิดบังอะไร และอาจจะด้วยหน้าตาก็นะ หล่อใสพิมพ์นิยมเกาหลีขนาดนั้น มันก็เลยมองให้เป็นความสยองขวัญ น่ากลัว ยากสักหน่อยล่ะมั้ง ฮ่าฮ่า

      สรุปแล้ว V.I.P (2017) ฆาตกรวีไอพี เป็นหนังทริลเลอร์เกาหลี ที่ดูสนุกน่าติดตามอีกเรื่องนึงเลยนะ ความโหดสยองขวัญอาจจะไม่มีมาเซอร์วิสก็จริง แต่คนดูก็ได้ลุ้นเอาใจช่อง แชอีโด ให้จัดการกับ กวางอิล ให้ได้ ก่อนที่ฆาตกรวีไอพีอย่างเขาจะหลุดมือก่อเหตุครั้งต่อไป

 

ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 

 

ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: V.I.P (2017)

#MovieReview #รีวิวหนัง