วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Bird Box (2018)

Bird Box (2018) มอง…อย่าให้เห็น
      ท่ามกลางข่าวสารความปั่นป่วนปริศนาการฆ่าตัวตายหมู่ที่กำลังคุกคาม รัสเซียและยุโรป มาโลรี่ (Sandra Bullock) ศิลปินสาวที่กำลังท้องป่องใกล้คลอด เธอเป็นคนเก็บตัวไม่มีมนุษย์สัมพันธ์มากนักเนื่องจากปมในวัยเด็ก ในวันที่ เจสซิก้า (Sarah Paulson) น้องสาวเดินทางมาเยี่ยมและตามเธอไปตรวจครรภ์ด้วยนั้น ขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินทางกลับความปั่นป่วนที่ว่า มันได้ลุกลามมาถึงเมืองที่เธออยู่แล้ว เมื่อเกิดความโกลาหลไปทั่วทั้งเมือง ผู้คนต่างออกมาบนถนนหรือฆ่าตัวตายกันอย่างไร้สาเหตุ ไม่เว้นแม้แต่ เจสซิก้า ที่จบชีวิตตัวเองต่อหน้าเธอ

      มาโรลี่ เอาตัวรอดออกจากวิกฤตินั้นมาด้วยด้วยความช่วยเหลือ จากคนในบ้านหลังหนึ่งและอาศัยร่วมกับพวกเขาอยู่ที่นั่น สิ่งที่ผู้รอดชีวิตกลุ่มนั้นรู้เพียงอย่างเดียวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ ใครก็ตามที่เห็นเจ้าสิ่งแปลกประหลาดไร้ตัวตนนั้นล่ะก็ ใครคนนั้นจะตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองในทันที ทางเดียวที่จะอยู่รอดก็คือห้ามมองเห็นอย่างเด็ดขาด
      หนังจากสตรีมมิ่งอย่าง #Netflix ที่นำเสนอความน่าสนใจพล็อตที่พยายามแปลกใหม่ ด้วยโจทย์ที่ว่าตัวละคร ”ห้ามมอง” เชื่อว่าด้วยพล็อตและข้อจำกัดแบบนี้หลายคนน่าจะนึกไปถึงเรื่อง A Quiet Place (2018) ดินแดนไร้เสียง แต่หลังจากที่ดูจบแล้ว ธีมและโจทย์ของหนังชวนให้นึกถึงเรื่อง The Happening (2008) ของ M. Night Shyamalan มากกว่า เอาจริงหากบอกว่าเป็นภาคต่อหรือภาคแยกยังได้เลย
      เมื่อหนังเองไม่ได้เกริ่นนำหรือเล่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์โกลาหลที่เกิดขึ้น รวมทั้งไม่ได้บอกว่าเจ้าสิ่งแปลกประหลาดนี้มันคืออะไรเป็นภูติ ผี ปีศาจ หรือการรุกรานจากนอกโลก หนังไม่ได้กล่าวถึง ได้แต่เกริ่นนำปมประเด็นความเป็นแม่ของตัวละคร มาโลรี่ นิดหน่อยเท่านั้นเอง คาแรคเตอร์ตัวละครผู้รอดชีวิตรวมทั้งการดำเนินเรื่องในช่วงการเอาตัวรอด ก็บอกได้ว่าไม่ต่างจากหนังในแนวเดียวกันนี้เรื่องอื่นเท่าไหร่
 
      คือมีทั้งคนที่ยังครองสติตัวเองได้และก็มีคนที่เห็นแก่ตัว และพร้อมผลักคนอื่นไปหาภัยเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด หากเป็นคนชอบดูหนังแนวภัยพิบัติเอาตัวรอดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็น่าจะโอเคกับส่วนนี้ของหนัง แต่ที่คาแรคเตอร์ตัวละครใน Bird Box (2018) แตกต่างจากเรื่องอื่นเล็กน้อยก็คือ ไม่ค่อยมีความลำไยหรือเห็นแก่ตัวจน Surreal ดูแล้วอึดอัดนะ คือพออยู่บนพื้นฐานเหตุผลของการเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน ไม่ได้สร้างตัวละครเห็นแก่ตัวมากจนดูสิ้นหวังในมนุษย์ไปเสียหมด
      คนที่ไม่ได้ดูอาจจะถามว่าอ้าว…แล้วแบบนี้มันจะมีอะไรให้ระทึก ในเมื่อคนปรกติไม่สร้างดราม่าสถานการณ์คับขันกันเอง แล้วเจ้าตัวประหลาดนั้นก็ไม่มีตัวตนอะไร หนังเลยแก้โจทย์นี้ของตัวเองด้วยการสร้างคนอีกกลุ่มที่ไม่ปรกติขึ้นมา แต่ไม่สปอยแล้วกันว่าคนกลุ่มนี้เป็นยังไงแล้วทำอะไรในหนังบ้าง
 
      ส่วนตัวผมเองบันเทิงไปกับหนังนะเพราะปรกติก็เป็นคนชอบแนวภัยพิบัติอยู่แล้ว อีกอย่างก็ไม่ได้สนใจอะไรกับความไม่มีที่มาที่ไปไร้เหตุผลของหนังแนวนี้เป็นทุนเดิม หนังกลุ่มนี้มันเป็นเหมือนแฟนตาซี จินตนาการ ความฝันของคนนั้นแหละ ที่บางครั้งเราได้เห็นภาพเหตุการณ์อะไรบางอย่าง แล้วเรื่องต่างๆมันก็แว๊บเข้ามาในหัวให้เราจินตนาการต่อยอดเป็นเรื่องราวไป ให้เราได้สนุกกับจินตนาการปริศนากับความไม่รู้อะไรเลยของสิ่งที่เกิดขึ้น
      ส่วนปมดราม่าของหนังนั้นสะท้อนเรื่องราวของคน ที่ไม่ได้มีความผูกพันอะไรกับพ่อแม่อย่าง มาโลรี่ แต่ตัวเธอเองกลับกำลังจะมีลูกในสถานการณ์คับขันแบบนี้ (ข้อจำกัดคล้ายๆ A Quiet Place เลย) ที่ไม่ใช่แค่เธอต้องเอาชีวิตตัวเองให้รอดเท่านั้น แต่ยังหมายถึงชีวิตเด็กตัวน้อยๆอีกด้วย ที่กลายมาเป็นความรับผิดชอบของเธอไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจจะให้เกิดมาก็ตาม เหมือนหนังจะบอกว่า (ตามอุดมคติ) ผู้หญิงแทบทุกคนก็มีสัญชาตญาณความเป็นแม่ด้วยกันทั้งนั้น
 
      ด้วยความที่ค่อนข้างคล้ายกับ The Happening (2008) เพียงแต่เพิ่มข้อจำกัดแล้วก็ใส่ปมตัวละครเข้าไปเสริมให้ดูมีมิติมากขึ้น ส่วนตัวผมเองเลยถือว่าหนังตอบโจทย์ความบันเทิงในแง่ หนังระทึกขวัญ ลึกลับ ได้อยู่นะ อาจจะไม่ถึงกับน่าจดจำหรือประทับใจ แต่ก็ถือว่า 2 ชัวโมงของหนังก็ สนุก ทำได้น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีช่วงไหนดร็อปเลย การเล่าเรื่องของหนังก็ใช้วิธีเล่าสลับเหตุการณ์ระหว่างปัจจุบันกับช่วงก่อนหน้านั้น 5 ปีที่วิกฤติเริ่มขึ้นมาใหม่ๆ แต่ก็เล่าได้ดีไม่ขาดช่วงหรือรู้สึกว่าหนังสปอยตัวเองจนไม่สนุกกับเนื้อหาในส่วนอดีต
      สรุปแล้ว Bird Box (2018) มอง…อย่าให้เห็น เป็นหนัง ระทึกขวัญ ลึกลับที่สนุกใช้ได้เรื่องหนึ่งเลยนะ แค่อย่าไปคาดหวังว่าจะได้ความบันเทิงตื่นเต้นระทึกใจแบบแนว Jump scare เท่านั้นเอง หรือจะพูดให้ชัดเจนเห็นภาพขึ้นก็คือ หากใครชอบปริศนาความลึกลับเหนือธรรมชาติอย่าง The Happening (2008) ของบังเอ็มก็คงจะถูกใจกับเรื่องนี้ได้เช่นกัน
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Bird Box (2018)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...