วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561

The Villainess (2017)

The Villainess (2017) aka ak-nyeo บุษบาล้างแค้น
#ปีนรั้วรีวิว #Action #Thriller Director: Byung-gil Jung

      ซุกฮี (Ok-bin Kim) หญิงสาวที่ตะลุยเดี่ยวโค่นแก๊งค์มาเฟียจนมีคนตายนับสิบคน แต่สุดท้ายก็ไม่รอดถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ เพียงแต่ว่าด้วยความสามารถในการฆ่าของเธอ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ทำให้องค์กรลับของรัฐบาลตั้งใจจะเก็บเธอไว้ใช้งาน โดยจัดการศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าให้เธอใหม่ และจัดการนำตัวเข้าสู่โปรแกรมฝึกฝน เพื่อให้เธอกลายเป็นสายลับที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น สิ่งเดียวที่ทำให้ ซุกฮี ต้องอดทนรอเวลาอยู่ที่นั่น ก็เพราะตัวเธอเองกำลังตั้งท้องอยู่ ทางเดียวที่เธอและลูกจะออกไปจากที่นั่นได้ก็คือฝึกฝนให้สำเร็จ แล้วเธอจะได้ตัวตนใหม่ ชีวิตใหม่ เพียงแต่ว่า ซุกฮี จะต้องทำงานรับใช้องค์กรต่อไป

      ตัวตนใหม่ของ ซุกฮี ตอนนี้ก็คือ แชยอนซู นักแสดงละครเวทีที่อาศัยอยู่ในอพาทเม้นต์กับลูกสาวกันสองคน  ที่ตอนนี้เธอเองก็มีพ่อหม้ายอย่าง จังฮยอนซู (Jun Sung) มาตามจีบคอยเองใจใส่เธอและลูกสาว เพียงแต่ว่างานที่เธอทำมันก็อันตรายเกินกว่าที่จะผูกพันกับใคร แต่ที่ ซุกฮี ยังไม่รู้ก็คือ ฮยอนซู ก็คือคนที่องค์กรส่งมาจับคู่กับเธอ เพื่อคอยจับตาความเคลื่อนไหว แล้วเธอจะสามารถไว้ใจเขาได้จริงๆหรือไม่ แต่ที่อันตรายกว่าความไม่น่าไว้ใจของคนใกล้ตัวก็คือ อดีตที่กำลังไล่ล่า ซุกฮี ทั้งคนที่ฆ่าพ่อเธอ รวมถึงชายคนรักเก่าครูคนแรกที่สอนให้เธอฆ่าคนเป็น และกำลังกลับมาถามหาซุกฮีคนเดิมที่หายไป
      หนังเป็นผลงานการกำกับของ Byung-gil Jung ที่ก่อนหน้านี้มีผลงานที่คอหนังระทึกขวัญเกาหลีน่าจะเคยผ่านตามาอย่าง Confession of Murder (2012 film) ที่ส่วนตัวชอบในระดับปานกลาง คือหนังหยิบประเด็นจากคดีดังในอดีตมาต่อยอดได้ดี ทำออกมาน่าติดตามดูสนุก แต่ฉากแอคชั่น ไล่ล่า ของหนังส่วนตัวผมว่าสอบตกอย่างมาก กับ The Villainess (2017) เรื่องนี้เองเอาจริงก็ชอบแทบทุกส่วนของหนังนะ คิดว่าทำออกมาได้หนักแน่นแล้วก็ลงตัว แต่ไม่รู้ว่าความเห็นส่วนนี้จะแตกต่างจากคนอื่นหรือเปล่า คือไม่ชอบฉากแอคชั่นของหนังเลย ในการหยิบจับไอเดียของหนังดังเรื่องอื่นๆเอามาใส่ หนังเองนำเสนอตัวเลยว่ามีส่วนผสมของเรื่องใดบ้าง จากคำโปรยในโปสเตอร์ ทั้ง Hardcore Hendry , Kill Bill , Nikita ,John Wick แล้วก็หนังแอคชั่นสไตล์ จอห์น วู 
      ซึ่งที่ว่ามาเรื่องนี้ก็ประเคนใส่คนดูได้ตามนี้จริงๆ เพียงแต่ผมเองคิดว่ามันล้นจนดูเฟคไปหน่อย เพราะหนังเองไม่ได้ขายความคัลท์ในแบบ Kill Bill หรือ Hard Core Hendry ขนาดนั้น หนังนำเสนอการล้างแค้นในมุมจริงจัง ซีเรียส แต่พอฉากแอคชั่นมัน Surreal แบบหนังคัลท์เกินไป เลยทำให้ส่วนตัวผมเองก็ยังไม่ประทับใจ กับฉากแอคชั่นของผู้กำกับคนนี้อยู่เหมือนเดิม

แต่ในแง่มุมอื่นๆที่เหลือของหนัง ผมกลับชอบมากขึ้นกว่าตอน Confession of Murderer นะ ไม่ว่าจะเนื้อเรื่อง ความเข้มข้น ความดาร์ก ที่ทำได้ถึงจริงๆ ความซับซ้อนของหนังก็ถือว่ากำลังพอดีไม่มากเกินไป แต่ก็ไม่น้อยจนรู้สึกว่าหนังไม่น่าติดตามหรือเดาอะไรก็ถูกไปเสียหมด นักแสดงนำของเรื่องอย่าง คิมอ๊กบิน ก็แสดงเป็น ซุกฮี ได้ดี ไม่ว่าจะการแสดงในฉากแอคชั่นที่แม้อาจจะยังดูว่า ในหลายฉากก็ยังไม่ถึงกับทะมัดทะแมงเท่าไหร่ยังต้องใช้เทคนิคพิเศษเข้าช่วย 

      แต่โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีเลยล่ะ สำหรับนักแสดงที่ไม่ใช่สายแอคชั่น Martial Art ยิ่งกับบทดราม่า การแสดงออกทางอารมณ์ หรือมาดเท่ๆในหนังก็ดูดีมากเลย อย่างฉากส่องสไนเปอร์ในชุดแต่งงานที่ยืมซีนนี้มาจากหนัMission Impossible 5 ก็เท่แบบฝุดๆไปเลย

หากจะถามว่าแอดทำไมมึงเรื่องมากจัง แล้วฉากแอคชั่นแบบไหนที่มึงชอบ ฮ่าฮ่า ผมคงยกตัวอย่างหนังแอคชั่นเกาหลีที่ชอบที่สุดมาแล้วกันอย่าง The man from Nowhere นักฆ่าฉายาเงียบ เป็นหนังที่ทำได้ถึงจริงๆทั้งการต่อสู้แบบใช้อาวุธปืนและการต่อสู้ระยะประชิด มันทั้งหนักแน่นจริงจังแล้วก็ไม่โอเวอร์จนดูล้นเกินจริง หรือ The Suspect (2013) ล้างบัญชีแค้น ล่าตัวบงการ ของพระเอกกงยู ก็ทำฉากแอคชั่นระยะประชิดได้ดี แถมฉากขับรถไล่ล่าก็ทำออกมาได้สนุกมาก ๆ เช่นกัน

      สรุปแล้ว The Villainess (2017) aka ak-nyeo บุษบาล้างแค้น เป็นหนังตอบโจทย์ความบันเทิงได้ดีนะ ถึงจะเห็นว่าผมบ่นๆฉากแอคชั่นเยอะไปหน่อยก็เถอะ มันก็แค่ความรู้สึกว่ายังไม่ใช่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดีหรือไม่บันเทิงไปกับฉากเหล่านี้ แค่อาจจะเคมีไม่ตรงกันกับผมเท่านั้นเอง
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: The Villainess (2017)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...