วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561

My Last Love (2017)

My Last Love (2017) ความรักที่เหลือ…ขอให้เราได้มั้ย
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Family Director: Kwang-kyo Jin

      เชื่อว่าคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวทุกคน มีภรรยา มีลูกที่น่ารัก คงเป็นแรงผลักดันให้มุ่งมั่นทำงานเต็มที่ เพียงแต่ว่าคนเราเวลาทุ่มเทให้กับสิ่งไหนมากๆแล้ว บางทีก็อาจจะละเลยสิ่งใกล้ตัวอย่างครอบครัวไป หนังเรื่องนี้เองเป็นเหมือนยาแรงที่จะเตือนหลายๆคนว่า…จริงอยู่สิ่งต่างๆที่เราทุ่มเททำเพื่อให้ประสบความสำเร็จทั้งหมดก็เพื่อครอบครัว แต่หากเราทุ่มเทกับมันมากเกินไป จนวันหนึ่งผลร้ายตกมาถึงเราและครอบครัว สุดท้ายแล้วเราเองอาจจะไม่ได้อยู่ทันเห็นลูกหลานเติบโตก็ได้

      คิมบองยอง (Ji-ru Sung) หัวหน้าวิศวกรคุมไซด์งานก่อสร้าง ที่วันๆเอาแต่ทำงานรับใช้บริษัทไม่พอ ยังต้องคอยรับใช้เรื่องส่วนตัวรวม ทั้งมีหน้าที่คอยสร้างความบันเทิงเวลามีงานเลี้ยงสังสรรค์ของเจ้านาย จนตัวเองแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองและให้กับครอบครัวเลย ดัลนิม (So-hyun Kwon) และวูจู (Hong-suk) ลูกฝาแฝดที่กำลังโตเป็นวัยรุ่น ก็ไม่เข้าใจพ่อของตัวเองที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว แถมยังคิดว่าที่เป็นแบบนี้ เพราะพ่อของตัวเองไปแอบมีครอบครัวอื่นซ่อนเอาไว้ ด้วยความที่ไม่มีเวลาได้คุยกับลูกนี่แหละ มันก็ทำให้คนเป็นพ่อไม่เข้าใจความต้องการของลูก ทั้งเรื่องเรียนและการใช้ชีวิต กับ ฮวายอน (Mi-seon Jeon) เมียของตัวเองเขาก็ละเลย ไม่ค่อยเอาใจใส่ความรู้สึกความต้องการของเธอเท่าไหร่ จะมีก็แค่ บยอนนิม (Lee Yewon) ลูกสาวคนเล็กที่ด้วยความไร้เดียงสา เลยทำให้เธอยังไม่เข้าใจปัญหาของผู้ใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในครอบครัว

      เพียงแต่ว่าปัญหาที่ทำงานและปัญหาครอบครัวในตอนนี้ ดูจะเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยเมื่อ คิมบองยอง ตรวจพบว่าตัวเองกำลังเป็นมะเร็งลำไส้ขั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นปัญหาที่เขาไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ไม่รู้จะแก้มันยังไงดี สิ่งเดียวที่เขาคิดคือ เก็บมันไว้คนเดียวไม่ให้ใครรู้ เพราะเขาไม่รู้จะบอกกับคนที่รักยังไงว่า…ตัวเองกำลังจะตาย 

      หนังครอบครัวที่ไม่รู้จะบอกว่าเหมาะแก่การดูกับครอบครัวมั้ยนะ เมื่อมันพูดถึงการสูญเสียคนในครอบครัวที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ อย่างที่บอกไปว่าหนังเหมือนยาแรงนะ อาจจะทำออกมาในมุมมองแบบที่ตั้งใจให้เห็นปัญหาอย่างชัดเจน เราจะให้เห็น คิมบองยอง ก้มหน้าก้มตาทำงานรับใช้เจ้านายเต็มที่ ได้เห็นเค้าเจ็บปวดทุกข์ทรมานกับโรคร้าย ที่ตัวเขาเองได้แต่เจ็บปวดคนเดียวไม่กล้าบอกใคร ปัญหาครอบครัวที่มันประเดประดังเข้ามา ด้วยความไม่เข้าใจระหว่างพ่อลูก

     เมื่อ ดัลนิม ลูกสาวอยากเป็นนักร้องนักดนตรี แต่พ่อกลับไม่เห็นด้วยและอยากให้เธอตั้งใจเรียนเหมือน กับ วูจู ลูกชายฝาแฝดของ ดัลนิม เพียงแต่ว่า พ่อคนนี้ก็ไม่เคยเข้าใจอะไรเสียเลย เมื่อ วูจู ก็เข้าใจผิดพ่อของตัวเองว่ามีอีกครอบครัวแอบซ่อนเอาไว้ และ วูจู เองก็มีสิ่งอื่นที่เขาให้ความสนใจและไม่ได้อยากจะเรียนตามแบบที่พ่อต้องการ
      หนังเองแม้จะไม่ถึงกับทำออกมาได้ลงตัวมากนัก แต่หากมองในแง่ข้อคิดและการขยี้ความเศร้าความดราม่าแล้วล่ะก็ หนังก็ทำได้ถึงจริงๆนะ มีซีนสะเทือนใจให้เราได้เสียน้ำตาหลายฉากมาก เพราะว่า คิมบองจอง เองก็แบกความกดดันอะไรไว้หลายๆอย่างบนบ่า ก็ด้วยคำว่าหัวหน้าครอบครัว เขาไม่อยากทำให้ภรรยาต้องเสียใจ เขาตั้งความคาดหวังไว้กับลูกๆ เขาอยากมีการงานที่มั่นคงจึงต้องยอมเจ้านายทุกอย่าง เมื่อเราเข้าใจความรู้สึกของผู้ชายคนนี้แล้ว แค่อะไรมาสะกิดความรู้สึกเราเล็กน้อย มันจึงทำให้เสียน้ำตาได้

      อย่างฉากที่ บองจอง เข้าร้านถ่ายรูปเพราะว่ามีเพื่อนที่เป็นมะเร็งเหมือนกัน แนะนำให้ถ่ายรูปดีๆเก็บไว้ก่อนที่จะไม่มีโอกาส แต่เมื่อช่างถ่ายภาพบอกให้ บองจอง ยิ้ม เขากลับทำมันไม่ได้ เขาไม่สามารถยิ้มออกมาได้ เพราะว่าภายในใจตอนนี้มันมีแต่ความมืดมิด มันมองไม่เห็นแสงสว่างหรือทางออกให้กับเขา เลย

      สำหรับคนที่ไม่นับถือศาสนาอาจจะไม่อินกับส่วนนี้ของหนัง เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ บองจอง หมดหนทางไม่มีที่พึ่ง จากที่เขาเคยบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่เมียชวนไปโบสถ์ แต่เมื่อถึงคราวจนหนทาง บองจอง กลับเดินมาโบสถ์อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว และเข้าไปกล่าวคำขอต่อพระเจ้าให้เขายังมีชีวิตอยู่ได้ต่อไป เพียงแต่ว่าศาสนาในหนังเรื่องนี้มันไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์ แต่มันเป็นแค่เครื่องมือที่พอจะช่วยให้คนที่กำลังเจอกับความทุกข์แสนสาหัสอย่างเขาและครอบครัว สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนี้ไปได้ 
      ทำให้นึกย้อนไปถึงคำพูดของ โรเบิร์ต แลงดอน ใน The Da Vinci Code (2006) ในช่วงใกล้จบที่บอกว่า “ตอนที่ผมเป็นเด็ก ตอนที่ผมตกบ่อน้ำ ผมคิดว่าผมตายแน่นอน ที่ผมทำคือผมสวดภาวนาต่อพระเยซูให้ผมมีชีวิตให้ผมได้เจอพ่อแม่อีกครั้ง ให้ผมได้ไปโรงเรียนอีกครั้ง ให้ผมได้เล่นกับสุนัขของผม บางครั้งผมสงสัยว่าผมอาจไม่ได้อยู่ในบ่อนั้นคนเดียว ทำไมต้องเลือกเป็นมนุษย์หรือเป็นเทพ บางทีมนุษย์ก็อาจเป็นเทพได้ องค์เยซูเป็นพ่อคุณแล้วสร้างปาฏิหาริย์ทั้งหมดนั้นด้วยไม่ได้หรือไง”
      หากจะถามว่าอะไรคือปาฏิหาริย์ มันคงไม่ใช่สิ่งอัศจรรย์เหนือธรรมชาติ มันก็แค่ศรัทธาของคนที่กำลังสิ้นหวัง หมดที่พึ่งกำลังจะจมลงไปในห้วงความทุกข์ ที่พยายามหาอะไรบางสิ่งบางอย่างยึดเหนี่ยวเอาไว้ เพื่อประคองชีวิตให้รอดไปถึงวันสุดท้าย อย่างมีความสุขเท่าที่พอจะทำได้แค่นั้นเอง เหมือน บองจอง นั่นแหละ ในวันที่เขายังแข็งแรงดีก็ไม่เคยศรัทธาในอะไร แต่เมื่อถึงวันที่ชีวิตมันมืดมนหมดหนทางให้ไปแล้ว เขาก็พยายามไขว่คว้าทุกอย่างที่พอจะสร้างความหวังให้ตัวเองได้ในวาระสุดท้ายของชีวิต

      สรุปแล้ว My Last Love (2017) ความรักที่เหลือ…ขอให้เราได้มั้ย เป็นหนังครอบครัวที่อาจจะขายความดราม่าจัดเต็มไปหน่อยจนไม่รู้ว่าเหมาะจะนั่งดูด้วยกันในครอบครัวดีมั้ย แต่หนังเองก็มีความดีงามที่เป็นแง่คิดพื้นฐานของครอบครัวคือการให้เวลาแก่กันและการพูดคุยกันมากขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจก่อนที่อะไรมันจะสายเกินไป

ปล.ใครสนใจหาดูได้ทางเว็บหรือแอพ #TrueIDTVนะครับ

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...