วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Black House (1999)

Black House (1999) บ้านเพี้ยนขนหัวลุก
#ปีนรั้วรีวิว #Horror Director: Yoshimitsu Morita

      วาคัทสึกิ (Seiyô Uchino) ตัวแทนประกันของ Showa Life Insurance company เป็นหนุ่มผู้อ่อนโยนและอ่อนต่อโลก การทำงานของเขานั้นแทบจะเรียกได้ว่าโดนลูกค้าปั่นหัว หลอกเคลมเงินประกันไปซะทุกครั้ง ไม่เคยจับได้ไล่ทันลูกค้าเสียที ในวันหนึ่งที่เขาได้รับโทรศัพท์  จากลูกค้าคนหนึ่งโทรมาถามว่า เธอกำลังจะฆ่าตัวตายหากทำสำเร็จ จะสามารถเคลมเงินประกันได้ไหม ด้วยความที่บริษัทเกรงว่าลูกค้าจะฆ่าตัวตายซะจริงๆ ก็เลยส่ง วาคัทสึกิ เข้ามาถามไถ่ปัญหาของลูกค้าถึงบ้านของครอบครัว โคโมดะ เสียหน่อย

ทันทีที่ย่างก้าวเข้าไปในบ้านที่เต็มไปด้วยบรรยากาศไม่น่าไว้วางใจ ชิเกโนริ โคโมดะ เจ้าของบ้านก็เอาแต่เรียกหา คาสุยะ ลูกชายของตัวเองตลอดเวลา แถมยังวานให้ วาคัทซึกิ เปิดประตูห้องลูกชายแล้วเขาไปตามให้หน่อย ซึ่งพ่อหนุ่มประกันใจดีก็ได้เจอกับเด็กคนนั้นจริงๆ เพียงแต่ว่าร่างของ คาสุยะ นั้นเท้าไม่ติดพื้น เมื่อเด็กชายตัดสินใจแขวนคอตายเพื่อจบชีวิตของตัวเอง


      ไม่กี่วันถัดมา คุณนายบ้าน โคโมดะ (Shinobu Ôtake) ก็เข้ามาตามเรื่องเงินประกันของลูกชายถึงบริษัท แต่คำตอบที่ได้กลับไปคือ ตอนนี้พวกเขาต้องรอไปก่อน เมื่อทางตำรวจยังไม่สรุปคดีว่ามันเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรมกันแน่ แถมในตอนนี้ วาคัทสึกิ ยังพบข้อมูลบางอย่างด้วยว่า คนที่อยู่รอบๆตัวของ ชิเกโนริ โคโมดะ พ่อของ คาสุยะ นั้น ต่างเสียชีวิตอย่างปริศนาหลายราย แถมแต่ละคนที่ตายนั้นผู้รับผลประโยชน์ก็คือ ชิเกโนริ ด้วยกันทุกคน

หนังเรื่องนี้ได้ดูครั้งแรกก็คือ Black House (2007) ฉบับรีเมคของเกาหลี ซึ่งส่วนตัวค่อนข้างชอบนะ ถึงจะมีจุดที่ไม่เข้าใจหรือรู้สึกว่า ช่วงครึ่งแรกของหนังน่าเบื่อก็ตาม พอรู้ว่ามีหนังญี่ปุ่นเป็นต้นฉบับก็เลยลองหามาดู ซึ่งหลายปีเหมือนกันกว่าจะหาเจอ ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ก็คล้ายกันเลยนะ ชอบครึ่งหลังของหนังเหมือนกันเลย ฮ่าฮ่า คือครึ่งแรกหนังแม่งไม่มีอะไรจริงๆ ไปสนุกตื่นเต้นเอาสัก 50 นาทีสุดท้าย

      แต่หากถามว่าชอบเวอร์ชั่นไหนมากกว่ากัน บอกตรงๆว่าชอบเวอร์ชั่นเกาหลีมากกว่า ด้วยบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจ ความหวาดระแวง แล้วก็ไคล์แม๊กที่ดุเดือดจริงๆ ส่วนเวอร์ชั่นญี่ปุ่นนี้อาจจะด้วยความที่รู้เนื้อเรื่องมากก่อนแล้วรึเปล่าส่วนหนึ่ง เลยอาจจะทำให้อิมแพ็คขณะดูมันดรอปลงไป แต่ส่วนที่ทำได้โดดเด่นกว่า ก็น่าจะเป็นซาวด์ประกอบนี่แหละ ที่ได้ความแปลกน่าอึดอัดใจ น่ารำคาญดี

เนื้อหาของหนังเหมือนเปรียบเทียบได้ว่า มันคือสงครามระหว่างบริษัทประกันกับลูกค้า ที่ต่างฝ่ายต่างต้องการรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง บริษัทก็ไม่อยากจะจ่ายเกินความเป็นจริง ส่วนลูกค้าก็อยากจะได้เงินมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ สุดท้ายภาระเลยมาตกที่ตัวแทนประกันอย่าง วาคัทสึกิ ที่ต้องเป็นหนังหน้าไฟคอยรับแรงกระแทกจากลูกค้า

      ซึ่งในหนังเรื่องนี้แรงกระแทกที่ว่า มันคือการเล่นกันถึงตาย ภาพในหนังเราจึงได้เห็น วาคัทซึกิ เคร่งเครียดกดดันจากการทำงาน ด้านหนึ่งก็โดนบีบมาจากเบื้องบนในบริษัท อีกด้านหนึ่งลูกค้าก็เรียกร้อง จะเอาสิ่งที่ตัวเองต้องการ แถมไม่ใช่การเรียกร้องธรรมดา แต่เป็นการเรียกร้องแบบที่ว่า หากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ หายนะได้มาเยือน วาคัทสึกิ แน่นอน

ดีกรีความเพี้ยนของตัวละคร ยังอยู่ในระดับโรคจิตแบบหนังฆาตกรต่อเนื่องทั่วไป ไม่หลุดจากความเป็นจริง Surreal ตามแบบฉบับหนังคัลท์ญี่ปุ่นที่นิยมทำกัน ส่วนตัวมองว่ากำลังดีนะ ทำให้ได้อารมณ์แบบพวกหนังฆาตกรรมเกรด 3 ของ ฮ่องกงเหมือนกัน แล้วยิ่งพอมันไม่คัลท์ Surreal เกินจริงจนกลายเป็นตลก ฉากสยองขวัญไล่ฆ่ามันเลยยังทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นไปด้วยได้ ยังน่าเชื่อถือได้ไม่หลุดธีมของตัวเอง

      สรุปแล้ว Black House (1999) บ้านเพี้ยนขนหัวลุก เป็นหนังที่สนุกครึ่งนึงนะ แต่หนังยาวถึงสองชั่วโมง ใครที่คิดจะดูก็ทำใจไว้หน่อยก็แล้วกัน ส่วนตัวผมเองยังบันเทิงไปกับหนังได้อยู่นะ โรคจิต เพี้ยนกำลังดี ไม่หลุดธีม เดี๋ยวหากได้ดูเวอร์ชั่นรีเมคของเกาหลี ที่ภาพจำเลือนๆไปเยอะแล้วซ้ำอีกเมื่อไหร่จะเอามาเขียนอีกทีนึง
 
ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : Black House (1999) 

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...