Heavenly Forest (2006)

Heavenly Forest (2006) ขอเพียงได้รักเธอ
#ปีนรั้วรีวิว #Romance #Drama Director: Takehiko Shinjo

      มาโกโตะ เซกาวะ (Hiroshi Tamaki) หนุ่มนักศึกษาปีหนึ่งที่โดดการปฐมนิเทศ เพราะเขาไม่ชอบอยู่ในที่คนเยอะๆ มาโกโตะ เดินเตร่นอกรั้วมหาลัยไปเรื่อย จนได้เจอกับสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ติดป้ายห้ามเข้าเอาไว้ ซึ่ง มาโกโตะ ที่มีการถ่ายภาพเป็นงานอดิเรก ตั้งใจจะแอบปีนรั้วเข้าไปถ่ายภาพสถานที่แห่งนั้น แต่ยังไม่ทันจะปีนข้ามไป เขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆจากถนนด้านนอกเสียก่อน เสียงนั้นก็คือเสียงจาก ซิสุรุ ซาโตนากะ (Aoi Miyazaki) สาวน้อยที่พยายามจะข้ามถนนตรงทางม้าลาย แต่กลับไม่มีรถคันไหนจอดให้เธอเลย มาโกโตะ ที่หวังดีพยายามแนะนำให้เธอ ลองไปข้ามอีกจุดหนึ่งที่มีสัญญาณไฟ แต่ ชิสุรุ กลับปฏิเสธและให้เหตุผลว่า อยากจะทดลองว่าจะมีรถสักคันไหมที่จอดให้เธอข้าม

      มาโกโตะ ก็เลยต้องปล่อยเธอไปตามนั้น แต่ก่อนจะหันหลังออกมา เขาก็ได้แอบถ่ายรูปสาวน้อยคนนั้นเอาไว้ ในวันรุ่งขึ้น มาโกโตะ ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ในโรงอาหาร ชิสุรุ ตรงเข้ามาทักทายและขอนั่งโต๊ะเดียวกัน แต่อาหารของเธอเป็นเพียงบิสกิตโดนัทชิ้นเล็กๆห่อเดียวเท่านั้นเอง หลังจากวันนั้นคนแปลกแยกจากสังคมสองคน จึงกลายมาเป็นเพื่อนกัน เพียงแต่ความรู้สึกของ ชิสุรุ นั้นมีมากกว่าคำว่าเพื่อน ส่วน มาโกโตะ เองกลับแอบชอบ มิยูกิ โทยามะ (Meisa Kuroki) เพื่อนในมหาลัยที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยมัธยม ความสัมพันธ์ระหว่าง มาโกโตะ กับผู้หญิงสองคนเลยเป็นได้เพียงแค่เพื่อน เมื่อคนหนึ่งชอบเขาแต่เขากลับชอบอีกคน ที่ก็ไม่กล้าบอกความในใจออกไปอยู่ดี

      จะอธิบายยังไงดี คือหนังเรื่องนี้เอาจริงไม่ได้มีความโรแมนติกมากนักนะ แล้วก็ไม่ได้มีเนื้อหาสนุกเข้มข้น หรือคอมเมดี้มาสร้างความบันเทิงให้กับคนดู แต่หนังกลับดูเพลินตลอดทั้งเรื่อง ตัวละครมีเสน่ห์ น่ารัก ยิ่งกับ ชิสุรุ ที่รับบทโดย อาโออิ มิยาซากิ ด้วยแล้ว ใครที่ชอบสาวแว่นตัวเล็กน่าจะตกหลุมรักคาแรคเตอร์นี้ได้ไม่ยากเลย ด้วยความยียวนกวนประสาท ชอบเล่าอะไรแปลกๆเพ้อเจ้อ ดูไม่น่าเชื่อถือ จนไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้น อะไรคือเรื่องจริงอะไรคือพูดเล่น ซึ่งพ่อหนุ่มทึ่มๆอย่าง มาโกโตะ ก็เสียรู้ประจำ

      ความสัมพันธ์ของ มาโกโตะและชิสุรุ นั้นเริ่มต้นด้วยความที่เป็นคนแปลกแยกจากสังคมทั้งคู่ เมื่อ มาโกโตะ เป็นโรคผิวหนังบางอย่าง ต้องใช้ยาทาบรรเทาอาการมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขามักจะระแวงว่าคนที่อยู่รอบข้างนั้น จะได้กลิ่นยาที่ตัวเขาหรือเปล่า จึงเป็นสาเหตุให้ มาโกโตะ พยายามหลีกเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้ๆคนอื่น กับชิสุรุ นั้นเธอเองก็แทบไม่ต่างจาก มาโกโตะ เมื่อนอกจากครอบครัว เธอก็แทบไม่มีใคร (แต่สาเหตุอะไรยังไงไม่สปอยแล้วกัน) พอ ชิสุรุ ได้เจอกับ มาโกโตะ เธอจึงคิดว่าได้เจอคนที่คล้ายกันและน่าจะเข้ากับเธอได้ที่สุด

      เพียงแต่ฝ่ายชายดันมี มิยูกิ ผู้หญิงที่แอบชอบอยู่แล้ว และเธอเองก็กำลังเข้ามาแทรกตรงกลางระหว่างทั้งสองคน เพียงแต่หนังเรื่องนี้ไม่มีการชิงรักหักสวาท หรืออิจฉาริษยากัน แม้อาจจะมีความไม่เข้าใจ ความแตกต่างกันของผู้คนในทีแรก แต่ที่สุดแล้วทั้งหมดก็คือ เพื่อนที่คอยให้ความช่วยเหลือกัน อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้ล่ะมั้ง ที่ทำให้หนังมันดูเพลินไม่รู้สึกหน่วงหรืออึดอัดใจอะไร มันมีแต่ความลุ้นที่ว่าตัวละคร มาโกโตะ นั้นจะตัดสินใจยังไง จะสมหวังในความรักกับ มิยูกิ มั้ย หรือจะเลือกใครกันแน่ แต่เอาจริงทรงหนังมันก็เดาไม่ยากหรอกมาแนวนี้

      หลายคนไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย คาดว่าคงเคยเจอประสบการณ์แบบเดียวกับ มาโกโตะ ที่ตัวเองนั้นชอบคนคนนึงอยู่ก่อน ซึ่งเป็นคนในฝันทุกอย่าง แต่แล้ววันหนึ่งจะด้วยโชคชะตาหรืออะไรก็แล้วแต่ ฟ้าก็ส่งใครอีกคนเข้ามาในชีวิต จะเพื่อทดลอบหรือลองใจก็ตาม ให้ได้สร้างประสบการณ์ดีๆร่วมกัน มันก็มีคำถาม ที่ต้องตอบตัวเองเหมือนกันนะว่าจริงแล้วเรา “รัก” ใครกันแน่ ซึ่งพ่อหนุ่ม มาโกโตะ ก็มีโอกาสหาคำตอบนั้นให้กับตัวเอง เพียงแต่ว่า…..

      สรุปแล้ว Heavenly Forest (2006) ขอเพียงได้รักเธอ เป็นหนัง รัก โรแมนติก ที่ดูเพลินนะ ไม่มีอารมณ์หน่วง ขัดใจ ตัวละครมีเสน่ห์น่ารัก โดยเฉพาะ อาโออิ มิยาซากิ ช่วงท้ายเรื่องมีความพยายามดึงเข้าโหมดเมโลดราม่า แต่ส่วนตัวพอปมเรื่องมันเฉลยออกมาหมดแล้ว ช่วงท้ายเรื่องมันเหมือนการมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป ในความรู้สึกของคนดูมากกว่า นั้นก็คือความรู้สึกที่อาจจะยังไม่ชัดเจนของตัวละครเอก ให้มันเต็มอิ่มชัดเจนมากขึ้นเท่านั้นเอง

#MovieReview #รีวิวหนัง