Night's Tightrope (2016)

Night's Tightrope (2016) 
#ปีนรั้วรีวิว #Mystery Director: Yukiko Mishima

      ยูกิ (Tsubasa Honda) นักเรียนสาวที่ชอบเก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใคร แม้กระทั่งตอนอาจารย์สอนเธอก็ยังไม่สนใจ เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเขียนนิยายของตัวเอง จนเพื่อนๆในโรงเรียนต่างมองเธอด้วยสายตาแปลกแยกจากคนอื่น เพื่อนเพียงคนเดียวที่มีของ ยูกิ ก็คือ อัตซึโกะ (Mizuki Yamamoto) เด็กนักเรียนที่ขาของเธอได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถเดินได้อย่างปรกติ สิ่งที่เชื่อมโยงให้ทั้งคู่สามารถเป็นเพื่อนกันได้ไม่เพียงแค่ความสัมพันธ์วัยเด็ก แต่เป็นเพราะบาดแผลความเจ็บปวดในใจที่เคยได้รับ ยูกิ นั้นโตมาในครอบครัวที่ ยาย เป็นคนเข้มงวดอย่างมาก ชอบทำโทษด้วยความรุนแรง จนเธอไม่อยากทนอีกต่อไปและอยากให้ ยาย ของเธอตายไปเสียให้พ้น ส่วน อัตซึโกะ นั้นเคยเป็นถึงแชมป์เคนโดะนักเรียนระดับประเทศ

แต่ความผิดพลาดของเธอเพียงครั้งเดียวที่ทำให้ทีมตกรอบ เธอกลายเป็นแพะรับบาปเรื่องทั้งหมด ถูกเพื่อนตำหนิและบอกให้เธอไปตายซะ โดยที่โค้ชไม่ช่วยอะไรเธอเลยเพราะเขาเองก็โทษเธอไม่ต่างกัน ตั้งแต่นั้นมา อัตซึโกะ กลายเป็นคนอ่อนแอและเคยคิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง เรื่องราวทั้งหมดมันขมวดปมมากยิ่งขึ้น เมื่อสมุดเขียนนิยายของ ยูกิ หายไปจากกระเป๋านักเรียน และสุดท้ายเธอก็ได้รู้ว่าใครขโมยผลงานของเธอไปทำอะไร ยูกิ จึงมองหาทางแก้แค้นคนที่ขโมยนิยายของเธอ ให้เขาได้รับความเจ็บปวดและอับอายจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

      หนังสร้างจากนิยายของ คานาเอะ มินาโตะ (Kanae Minato) เจ้าของผลงานที่หลายคนน่าจะเคยผ่านตามาบ้างอย่าง Confessions (2010) และ The Snow White Murder Case (2014) ซึ่งทั้งสองเรื่องถือเป็นหนังที่สนุกแล้วก็ให้แง่คิดที่ดีมากเลยนะ ทั้งยังบันเทิงอีกด้วย แต่กับ Night's Tightrope (2016) เรื่องนี้สารภาพเลยว่าส่วนตัวไม่บันเทิงไปกับหนังเท่าไหร่ หนังค่อนข้างเอื่อยเฉื่อยเรื่อยๆแล้วสิ่งที่เหมือนกับ Confessions (2010) ก็ดันไม่ใช่ความบันเทิง แต่เป็นการใช้เทคนิคสโลว์โมชั่นที่ขยันใส่ลงมาในหนังจริงๆ เนื้อหาเนือยไม่พอยังต้องมาสโลว์ไลฟ์กับภาพสโลว์โมชั่นของหนังอีก

ตัวละครที่บทในหนังมีน้อยแต่เป็นตัวละครที่ส่งผลอย่างมากกับสองเพื่อนซี้ก็คือ ชิโอริ (Ryo Sato) เด็กนักเรียนที่เพิ่งย้ายมาใหม่ และเล่าประสบการณ์ชีวิตการเห็นคนตายต่อหน้าให้ทั้งสองคนฟัง เรื่องเล่านั้นมันจึงจุดประเด็นให้ ยูกิกับอัตซึโกะ อยากมีประสบการณ์แบบเดียวกันบ้าง ด้วยจุดประสงค์ที่ต่างกันไปเมื่อ ยูกิ ที่อยากให้ยายของเธอตายแต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้ เธอจึงอยากรับรู้ความรู้สึกเช่นเดียวกันนั้น ส่วน อัตซึโกะ นั่นเธออยากเห็นคนตายก็เพราะ เธอคิดเอาเองว่าภาพที่ได้เห็นมันจะแปรเปลี่ยนเป็นความกล้า ให้กับการตัดสินใจทำบางอย่างของเธอ

      แต่กลายเป็นว่าความต้องการอยากเห็นคนตายของทั้งสองคน มันพาให้ทั้งคู่จมดิ่งไปในความมืดมิด เพราะยิ่งเราหม่นหมองคิดถึงแต่เรื่องความตายเรื่องที่ไม่ดีมากเท่าไหร่ มันจะทำให้เราก้าวไปในทางที่ผิดที่ยิ่งเดินยิ่งลึกเข้าไปจนหาทางออกไม่เจอ เหมือนกับตัวละคร ชิโอริ กับ มากิเซะ (Mackenyu) ที่ต่างเคยเห็นคนตายต่อหน้าต่อตามาเหมือนกัน เพียงแต่ปัญหาของ ชิโอริ นั้นหนักหน่วงกว่ามาก เธอก็เลยถลำลึกลงไปอย่างสุดกู่

หนังมีความดาร์กประมาณนึงนะ อาจจะไม่ถึงขั้น Confessions (2010) แต่ก็ถือว่าเนื้อหาเหมาะที่จะดูเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น เนื้อหาของหนังเล่าเกี่ยวกับความตายเป็นหลัก ทั้งการอยากให้คนอื่นตายและอยากจะฆ่าตัวตายเสียเอง แม้ประมาณ 70% ของหนังตั้งแต่ช่วงต้นเรื่องจะออกไปทางน่าเบื่อก็ตาม แต่ช่วงที่เหลือของหนังก็เร่งจังหวะตัวเองขึ้นขมวดปมตัวละคร ยูกิ กับ อัตซึโกะ แล้วก็ ชิโอริ ได้ดีเลยนะ ที่บทสรุปสุดท้ายของตัวละครทั้งสามมันให้คำตอบกับคนดู แล้วเคลียร์กับคำถามตลอดทั้งเรื่องได้หมดว่าหนังต้องการสื่อสารอะไร

      อาจจะดูเหมือนโลกสวยหรือพูดเหมือนเป็นสิ่งที่ทำกันได้ง่าย แต่ก็นะหากชีวิตของเราหม่นหมอง เราจะเดินเข้าไปหาสิ่งที่ทำให้ยิ่งหม่นหมองลงไปอีกทำไม เหมือนกับที่ยายของ ยูกิ เองก็แก่แล้วไม่สามารถทำร้ายอะไรเธอได้อีก มีก็แต่เพียง ยูกิ เท่านั้นที่ยังจมอยู่กับเรื่่องในอดีต และ อัตซึโกะ ที่ทำตัวให้อ่อนแอเพื่อให้คนสงสารและไม่แกล้งเธอ

เมื่อทำแบบนั้นมันยิ่งกลายเป็นหมุดตอกย้ำความอ่อนแออยู่เรื่อยมา อย่างที่กล่าวไปว่ามันเหมือนจะโลกสวยหรือว่าทำกันได้ง่ายๆ แต่สุดท้ายมันก็แค่เราเอาตัวเองออกจากโลกหม่นๆไต่ขึ้นมาจากหลุมที่มืดมิด ตัวเราก็จะเจอกับแสงสว่างเอง มันก็อยู่ที่เราเลือกว่าจะไต่ไปด้านไหน จะมองหาแสงสว่างหรือว่าความมืดในใจ

      สรุปแล้ว Night's Tightrope (2016) เป็นหนังที่สำหรับผมแล้วหนังไม่ตอบโจทย์ความบันเทิงนะ เนื้อหาสาระของหนังก็ลึกและตีความยากพอสมควร ผมเองดูซังอังกฤษแปลได้งูๆปลาๆก็ไม่รู้ว่าตีความหมายได้ถูกต้องทั้งหมดไหม หนังไม่รุนแรงแต่มีความดาร์กด้านเนื้อหาพอสมควร ใครคิดจะดูก็เตรียมใจล่วงหน้าไว้สักหน่อยในความเนือยของหนัง ความดีงามของหนังเห็นจะเป็นแง่มุมที่พยายามสื่อสารกับคนดูนี่แหละ

 

ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : Night's Tightrope (2016)

#MovieReview #รีวิวหนัง