The Body (2012) aka El cuerpo ปมลับ ศพปริศนา
#ปีนรั้วรีวิว #Mystery #Thriller Director: Oriol Paulo อเล็กซ์ อูยัว (Hugo Silva) ชายหนุ่มที่เพิ่งสูญเสีย ไมก้า (Belén Rueda) เมียแก่ของตัวเองไปจากอาการหัวใจวาย เขาแสร้งทำเป็นโศกเศร้าต่อหน้าผู้คนทั้งที่จริงแล้วในใจแสนลิงโลดดีใจ เมื่อถึงเวลาลับตาคนอื่น อเล็กซ์ รีบบึ่งรถที่เมียตัวเองซื้อให้เป็นของขวัญก่อนตายไปหา คาร่า (Aura Garrido) ชู้รักนักศึกษาในทันที
แต่เขาไปถึงได้ไม่นานก็มีสายเรียกเข้ามาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งมาว่า ร่างไร้วิญญาณของภรรยาเขาหายไปจากห้องเก็บศพ อเล็กซ์ ที่ได้ยินแบบนั้นก็หูผึ่งออกอาการลนลาน เพราะว่าเขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าเมียของตัวเองนั้นเสียชีวิตจริงหรือเปล่า ที่สำคัญเธออาจจะรู้เรื่องราวระหว่างเขากับ คาร่า แล้วก็กำลังวางแผนเอาคืนอยู่ก็ได้
แต่ฝ่าย ไฆเม่ พีน่า (Jose Coronado) นายตำรวจที่ทำหน้าที่สืบสวนในครั้งนี้ไม่คิดเช่นนั้น เขากลับมองว่า อเล็กซ์ นี่แหละที่เป็นคนขโมยศพเมียของตัวเอง และวางแผนทั้งหมดเพื่ออำพรางคดีฆาตกรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อขึ้นมา เพื่อหวังฮุบสมบัติเมียทั้งหมดและจะได้ใช้ชีวิตกับชู้รักอย่างเปิดเผยสมใจ ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าบทความรีวิวอันนี้อาจจะไม่ได้เขียน ในลักษณะประทับใจหรือฟินกับความดีงามของหนัง เพราะว่าตัวผมเองดันได้ดู The Vanished (2018) เวอร์ชั่นรีเมคของเกาหลีไปก่อนหน้า (ก่อนหน้าจะดูไม่รู้มาก่อนว่าหนังเกาหลีเรื่องนั้นเป็นรีเมคของ The Body)
คือพอดู The Body (2012) ไปได้สัก 10 นาที ก็รู้เลยว่าอ้าวตูเพิ่งดู The Vanished (2018) ไปเมื่อไม่นานนี้เองนี่หว่า แล้วทั้งสองเรื่องก็เรียกได้ว่าเหมือนกันเด๊ะๆเลยในรายละเอียด ไม่ได้ดัดแปลงเนื้อหาอะไรเลยสักนิด แค่ปรับสถานการณ์ของตัวละครไปเล็กน้อย แล้วก็มีสลับบางฉากจากที่อยู่ท้ายเรื่องในต้นฉบับ นำมาใส่เปิดเรื่องในเวอร์ชั่นรีเมคเกาหลีเท่านั้น
ตอนดูมันเลยมีความเซ็งอยู่หน่อยๆที่เหมือนดูหนังหักมุมเรื่องเดิมเป็นครั้งที่สอง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่ฟินเอาเสียเลย เพราะหนังทั้งสองเรื่องมันเป็นหนัง ระทึกขวัญ จิตวิทยา ฉากส่วนใหญ่จึงเป็นบทสนทนาเชือดเฉือนอารมณ์ ชิงไหวชิงพริบกัน บวกกับการสับขาหลอกคนดู มันจึงไม่มีความตื่นเต้น ในแง่มุม ระทึกขวัญ บันเทิงเท่าไหร่ ทั้งต้นฉบับของสเปนเรื่องนี้และรีเมคเกาหลีใต้ทั้งสองเวอร์ชั่น ถือว่าซ่อนปมตัวละครแล้วก็ซ่อนความลับได้ดีทั้งสองเรื่อง กับเรื่องนี้หากไม่เคยรู้สปอยจากเวอร์ชั่นเกาหลีมาก่อน เอาตรงๆหนังก็ไม่มีจุดไหนที่บอกใบ้หรือโปรยเศษขนมปังระหว่างทางให้คนดูได้เดินตามเลย เรียกว่าปิดบังสปอยความลับของตัวเองได้มิดชิดมากๆ
ความรู้สึกตอนที่หนังเฉลยเรื่องราวออกมาทั้งหมดในสองเวอร์ชั่น อารมณ์ที่เกิดขึ้นจะว่ามันเป็นความเหวอก็ไม่เชิง คือหนังมันหลอกล่อเราได้สนิทใจ แล้วก็หักมุมได้เจ๋งดี แต่พอเฉลยออกมามันมีความรู้สึกว่าแผนการสมบูรณ์แบบแอบเว่อร์เกินจริงไปพอสมควร ที่แบบใครจะฝังใจรอวันล้างแค้นได้นานขนาดนั้น
แถมลงทุนเปลืองตัวเพื่อล้างแค้นอีกด้วย เพราะหาก อเล็กซ์ ไม่ตัดสินใจทำในสิ่งที่ทำลงไป เรื่องทุกอย่างมันก็คงไม่ลงล็อกขนาดนี้ แล้วบทสรุปมันก็ไม่ใช่การเอาคืนที่เจ็บปวดจนอยากตายหรืออะไร แต่ตัวละครอาจจะช็อกเหมือนคนดูนี่แหละ ที่คารวะพวกพี่เลยว่าพยายามเหลือเกิน…ตูยอมแล้วก็ได้ มันเป็นหนังแนวที่ดูได้เพียงแค่ครั้งเดียว แล้วเนื้อหาทั้งสองเวอร์ชั่นก็ค่อนข้างเหมือนกันมาก หากถามว่าให้เลือกเพียงเวอร์ชั่นเดียวมาแนะนำให้ตัดสินใจดู จากที่พิสูจน์ด้วยตาตัวเองมาแล้วแนะนำเป็นเวอร์ชั่นเกาหลีนะ แม้รายละเอียดงานอาจจะแตกต่างจากต้นฉบับบางส่วน และหนังเองมีการปรับเปลี่ยนจุดที่จะทำให้คนดูเดาได้ไปบ้างนิดหน่อย
หนังจึงค่อนข้างมีแง่มุมความระทึกขวัญบันเทิงมากกว่า น่าจะเหมาะกับคนดูหนังสายบันเทิง แต่หากอยากเสพอะไรสไตล์ยุโรปคลาสสิก ที่อาจจะดำเนินเรื่องช้าแต่มีชั้นเชิงการเล่าเรื่อง และที่สำคัญก็คือความเป็นออริจินัลก็คงต้องตัดสินใจดู The Body (2012) เรื่องนี้นี่แหละ สรุปแล้ว The Body (2012) aka El cuerpo ปมลับ ศพปริศนา เป็นหนังระทึกขวัญ จิตวิทยา ที่ขอใช้คำว่าเป็นหนังหักมุมที่มีเพอร์เฟคแพลน ตัวละครมีแผนการที่สมบูรณ์แบบ แล้วหนังก็เล่าได้สมบูรณ์แบบเดาไม่ถูกจริงๆ อาจจะไม่มีความระทึกขวัญบันเทิงมาเซอร์วิสมากนักสำหรับเวอร์ชั่นนี้ แต่หนังก็ยังเล่าได้น่าติดตามลุ้นเอาใจช่วยไปกับตัวร้ายอย่าง อเล็กซ์ ว่าตกลงแล้วใช่เขาหรือไมก้าหรือว่าใครที่เอาศพออกไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น