วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Psychokinesis (2018)

Psychokinesis (2018) ยอดคุณพ่อจิตสะท้าน
#ปีนรั้วรีวิว #Action #Comedy #Fantasy Director: Sang-ho Yeon
      รูมิ (Eun-kyung Shim) สาวน้อยเจ้าของร้านไก่ทองสูตรเด็ดอันโด่งดัง แต่ว่าร้านของเธอและเจ้าของธุรกิจเล็กๆในบริเวณนั้นกำลังจะกลายเป็นอดีตไป เมื่อมีนายทุนกลุ่มใหญ่อยากได้ที่ดินแห่งนั้นไปพัฒนาเป็นศูนย์การค้าปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว แต่พวกเขากลับไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยให้กับร้านค้าที่อยู่มาก่อนอย่างเหมาะสม แต่กลับจ้างพวกมาเฟียตามรังควานร้านค้าและทำลายข้าวของแทน แต่ในคืนหนึ่งเหตุการณ์กลับเลยเถิดจนแม่ของ รูมิ เสียชีวิต

รูมิ จึงตัดสินใจโทรตามพ่อที่ทิ้งเธอกับแม่ไปให้เขามางานศพ ซึ่งคุณพ่อตัวดีอย่าง ซอกฮอน (Seung-ryong Ryu) ก็อยากแก้ไขความผิดพลาดในอดีตของตัวเองด้วย แถมตอนนี้ตัวเองก็เพิ่งได้พลังพิเศษมาแบบโชคช่วย เขาจึงตัดสินใจชวนลูกสาวให้มาอยู่ด้วยกันเพื่อที่เขาจะได้ชดเชยเรื่องราวในอดีต แต่ รูมิ ใจแข็งปฏิเสธกลับไป ซอกฮอน เลยต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเขาเป็นพ่อที่ดีขึ้นแล้ว
      หนังแอคชั่น คอมเมดี้ ที่มองเผินๆเหมือนจะขายความบันเทิงและพูดเรื่องความสัมพันธ์พ่อลูก แต่จริงๆแล้วนี่มันหนังเสียดสี สังคม การเมืองชัดๆ ยิ่งหากมองย้อนกลับไปถึงหนังเรื่องอื่นๆก่อนหน้า ก็มักจะหยิบยกเรื่องการล่มสลายของร้านค้าในชุมชนที่ถูกแปรสภาพให้กลายเป็น ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของนายทุนแทน บางเรื่องก็พยายามเล่าในมุมความเปลี่ยนแปลงมันเป็นธรรมชาติหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่บางเรื่องก็เล่าในมุมมองลงลึกรายละเอียดที่ว่า คนในชุมชนเหล่านั้นไม่ได้รับการชดเชยอย่างเหมาะสม และมักถูกเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรม

หนังเปิดเรื่องเล่าแบบง่ายๆมาพร้อมอารมณ์คอมเมดี้ ของตัวละคร ซอกฮอน ชายที่ทิ้งครอบครัวไป แต่เขาก็ไม่เคยสลดกับการกระทำแบบนั้น การได้พลังพิเศษมาก็มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยอะไรอยู่ดีๆก็ฟลุ๊คได้มาซะงั้น แถมเจ้าตัวก็ไม่ได้คิดจะเอาไปใช้อะไรมากมายแค่อยากจะเอาไปสร้างอาชีพ สร้างเงินให้ตัวเองก็เท่านั้น แต่ ซอกฮอน ก็เจอกับภาคบังคับให้ต้องใช้พลังพิเศษมาช่วยเหลือคน เมื่อลูกสาวเดือดร้อนและตกอยู่ในอันตรายพ่ออย่างเขาเลยไม่สามารถนิ่งเฉยได้ เลยเป็นที่มาของฉากแอคชั่น ที่เอาเข้าจริงๆก็เน้นตลก ฮา อีกเช่นเคย เนื้อหาในส่วนครึ่งแรกของหนังจึงยังแทบหาสาระอะไรไม่ได
      กระทั่งกลุ่มทุนใหญ่ของจริงเริ่มเปิดตัวลงสั่งการด้วยตัวเอง ภาพของความเป็นหนังเสียดสี สังคม การเมือง จึงชัดเจนขึ้น เมื่อพวกเขาใช้ เงินและอำนาจที่มีทำทุกทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ และยังไม่กลัวการที่ ซอกฮอน มีพลังพิเศษอีกด้วย เพราะพวกเขาก็มองว่าต่อให้ ซอกฮอน จะมีพลังมากมายแค่ไหน ยังไงก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้อยู่ดี เมื่อทั้งอำนาจเงินและกฎหมายมันอยู่ในมือพวกเขา คนที่มีพลังพิเศษนั่นแหละหากใช้พลังที่มีมากจนเกินไป สุดท้ายก็จะกลายเป็นตัวอันตรายต่อสังคมเสียเอง

ฉากที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นฉากที่ ซอกฮอน ถูกจับไปที่สถานีตำรวจและ ฮองซังมู (Yu-mi Jung) ผอ.ของบริษัทก่อสร้างเข้าไปคุยเพื่อตกลงกับ ซอกฮอน แต่ละประโยคของเธอมันเสียดแทงใจคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมระบบชนชั้น ที่สุดท้ายแล้วต่อให้ร่วมตัวกันหรือมีพลังมากมายขนาดไหน ก็ไม่สามารถเอาชนะอำนาจที่พวกเขามีได้อยู่ดี สุดท้ายเป็นได้แค่ชนชั้นทาสในสังคมและต้องยอมรับบทบาทของตัวเอง ก้มหน้าใช้ชีวิตต่อไป ซึ่งบทสรุปของหนังแล้วแม้จะดูเหมือนจบได้แฮปปี้เอนดิ้ง แต่เอาเข้าจริงแล้วมันโคตรสิ้นหวังเลยต่างหาก
      สรุปแล้ว Psychokinesis (2018) ยอดคุณพ่อจิตสะท้าน มองเผินๆอาจจะเหมือนหนังเน้นขายความบันเทิงไร้เนื้อหาสาระ แต่หากมองให้ลึกซึ้งในแต่ละโควทแต่ละคำพูดของตัวละครแล้ว หนังแฝงด้วยประเด็นทางสังคมที่แบ่งชนชั้น และดูเหมือนว่ายังไงก็ไม่มีทางเอาชนะความเหลื่อมล้ำนั้นได้เลย

ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : Psychokinesis (2018) Netflix

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...