Chihayafuru Part III (2018) จิฮายะ กลอนรักพิชิตใจเธอ
#ปีนรั้วรีวิว #Comedy #Drama #Romance Director: Norihiro Koizumi บทสรุปเรื่องราวรักสามเศร้าเราสามคน และไพ่คารุตะของสาวน้อย จิฮายะ เนื้อเรื่องในภาคสามนี้ดำเนินต่อจากฉากสุดท้ายของภาคสอง หลังจากการแข่งขันชิงตำแหน่งควีนจบลง จิฮายะ ได้เพียงอันดับที่สาม และไม่ได้เข้าไปถึงนัดชิงกับ วากามิยะ ชิโนบุ (Mayu Matsuoka) เจ้าของตำแหน่งควีนคนเดิมเสียด้วยซ้ำ แต่ปัญหาปัจจุบันทันด่วนของ จิฮายะ ในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องการแข่งขันคารุตะ แต่ตอนนี้ที่เธอเป็นรุ่นพี่ปีสุดท้ายแล้ว สิ่งสำคัญในก็คือการพยายามหาสมาชิกมาเข้าชมรมเพิ่มให้ได้ ไม่เช่นนั้นชมรมไพ่คารุตะของเธออาจจะต้องปิดตัวลง
แน่นอนว่าด้วยความหล่อสวยของสองผู้นำชมรมอย่าง ไทชิ (Shûhei Nomura) กับ จิฮายะ (Suzu Hirose) ก็สามารถดึงเด็กปีหนึ่งเข้ามาติดกับได้ไม่ยาก แต่ด้วยความที่พวกนั้นไม่ได้มาเพราะอยากเล่นคารุตะจริงๆ สุดท้ายแล้วจึงได้สมาชิกใหม่เพิ่มมาแค่ ซุมิเระ ฮานาโนะ (Mio Yûki) กับ อากิฮิโระ สึคุบะ (Hayato Sano) เพียงแค่สองคนเท่านั้น แถม ซุมิเระ นั้นก็เข้าชมรมมาเพราะแอบชอบ ไทชิ เสียด้วยซ้ำ
ไทชิและจิฮายะ ต้องพยายามเตรียมทีมใหม่อีกครั้ง เพราะปีนี้พวกเขามีคู่แข่งสำคัญเมื่อ อาราตะ วาตายะ (Mackenyu) ตัดสินใจตั้งชมรมขึ้นมาในโรงเรียนเพื่อลงแข่งขันประเภททีม แน่นอนว่าศึกครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อชัยชนะในเกมคารุตะเท่านั้น แต่ยังสำคัญถึงหัวใจของ จิฮายะ ว่าสุดท้ายแล้วเธอจะตัดสินใจเลือกใครหรือไม่ ดำเนินมาถึงภาคจบจนได้สำหรับหนังไพ่คารุตะและการตามหาตัวตนของช่วงวัยรุ่น ที่หนังสรุปเรื่องราวได้ดีนะภาคนี้ประเด็นแรกที่เด่นชัดแต่ต้นเรื่องเลยก็คือ การเรียนปีสุดท้ายของทุกคนในชมรมคารุตะ พวกเขาไม่ได้มีแค่ภาระหน้าที่อย่างการไปแข่งขันอย่างเดียวแล้วเท่านั้น แต่ยังมีภาระหน้าที่ต่ออนาคตของตัวเองว่า หลังจากเรียนจบแล้วพวกเขาจะเดินไปในทิศทางไหนต่อ ไทชิ จะยังคอยตาม จิฮายะต้อยๆอยู่ไหม เมื่อ คารุตะ มันไม่ใช่ความฝันของเขา
จิฮายะ ล่ะเธอจะทำยังไงหลังเรียนจบ ม.ปลาย เมื่อ คารุตะ มันไม่ใช่อาชีพ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอทุ่มเทให้กับมันจนหมดหน้าตัก ผลการเรียนจึงออกมาแย่ แล้วเธอจะแก้ไขหรือทำยังไงกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ไม่ต่างจากคนอื่นๆในชมรมที่สุดท้ายแล้วก็ต้องมีหนทางให้ไป
ผมชอบตรงส่วนนี้ของหนังนะ เพราะมันเป็นการบอกว่าหนังไม่ลืมรายละเอียดเล็กน้อย ไม่ได้อยู่กับแฟนตาซีเพ้อฝันอย่างเดียว เมื่อความจริงมันมาอยู่ตรงหน้า พวกเขาก็มีเรื่องให้หนักใจแล้วก็มีหนทางที่ต้องเลิกเช่นกัน ไม่ใช่โลกสวยหลงอยู่ในวังวนคำว่า ชื่นชอบ คำว่าความใฝ่ฝันอย่างเดียวอีกอย่างหนึ่งก็คือ การส่งต่อเรื่องราวดีๆจากรุ่นไปสู่รุ่น เหมือนกับกลอนที่ใช่แข่งขันที่มีอายุถึงพันปี แต่ก็ยังมีความหมายตรงใจคนในปัจจุบัน จิฮายะ ที่คอยผลักดันให้โอกาสรุ่นน้อง เพื่อสานต่อชมรมและสิ่งที่เธอรัก เพื่อให้ทั้งหมดที่ลงแรงมา แล้วมันก็ทำให้พวกเธอเป็นคนที่ดีขึ้น ได้รู้จักการแข่งขันอย่างยุติธรรม ได้เพื่อน ได้ความรักสามัคคี มันไม่สูญเปล่าไป
ส่วนประเด็นสำคัญสุดท้ายอย่างเรื่องราวความรักแล้ว ออกจะผิดคาดไปนิดนึงนะที่หนังเลือกจบแบบนั้น คือในใจคิดไว้เหมือนกันว่า จิฮายะ จะตัดสินใจเลือกใคร แต่สุดท้ายแล้วหนังเลือกให้เธอตัดสินใจแบบนั้น ก็นะสวยงามตามท้องเรื่อง แต่ว่าผิดคาดไปหน่อย ฮ่าฮ่าสรุปแล้ว Chihayafuru Part III (2018) จิฮายะ กลอนรักพิชิตใจเธอ ภาคปัจฉิมนี้ถือว่าเป็นบทสรุปจบของหนังที่ทำได้ลงตัวมากนะ ขมวดปมได้ทุกประเด็น ก่อนที่ตัวละครจะตัดสินใจเลือกตามเส้นทาง ไม่ว่าจะความฝัน การเรียนและความรัก หนังปิดท้ายได้สวยงามหมดจด แต่ว่าดูมาสามภาค…ก็ยังไม่เข้าใจเกมไพ่คารุตะอยู่ดี ฮ่าฮ่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น