วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Clash (2009)

Clash (2009) aka Bay Rong Vietnam Movie
#ปันรั้วรีวิว #ActionMartialArt 
      ตริน สาวนักฆ่าของขบวนการค้าอาวุธเถื่อน ได้รับมอบหมายให้นำเงินไปแลกเปลี่ยนอาวุธ เธอจึงต้องรวมทีมขึ้นมาและหนึ่งในสมาชิกใหม่ของทีมเธอก็คือ ควน สายลับของตำรวจที่พยายามแฝงตัวเข้ามาอยู่ในแก๊งค์เพื่อหาหลักฐานที่จะจับ Black Dragon หัวหน้าใหญ่ขององค์กรที่ทางตำรวจยังไม่สามารถระบุตัวได้ว่าคือใคร 

      แต่งานของ ตริน กับทีมกลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นระหว่างแลกเปลี่ยนทำให้งานในครั้งนี้ของเธอล้มเหลว โอกาสสุดท้ายที่ ตริน จะแก้ตัวจากความผิดพลาดก็คือการหาทางขโมยแล็บท็อปของแก๊งค์ค้าอาวุธข้ามชาติที่มีรายชื่อลูกค้าอยู่ในนั้นซึ่งมีมูลค่าหลายล้าน และถ้างานนี้เธอเกิดทำผิดพลาดขึ้นมาอีกล่ะก็ ตริน อาจจะไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวของเธอที่ถูก Black Dragon คุมตัวเอาไว้และยกเอามาเป็นข้อต่อรอง


      ตอนแรกก็ไม่รู้จักเรื่องนี้หรอกกะจะดูหนังของ จอห์นนี่ เหงียน อีกเรื่องนึงแต่พอดีเห็นคลิปจากเพจนึงของฝรั่งตัดฉากแอคชั่นออกมาให้ดู พอเห็นแล้วก็…เอ่อ น่าสนใจดีนี่หว่าก็เลยดูเรื่องนี้ก่อน แต่พอได้ดูแล้วผลออกมากลางๆค่อนไปทางไม่สนุกเท่าไหร่ จริงอยู่ว่าฉากแอคชั่นทำได้ตามมาตรฐาน

      เพราะพระเอกของเรื่องอย่าง จอห์นนี่ เหงียน ตัวร้ายจากต้มยำกุ้งนี่ก็เป็นสตั๊นใน สไปเดอร์แมน เวอร์ชั่น แซม ไรมี่ ถึง 2 ภาค และนางเอกของเรื่องอย่าง เวโรนิก้า โง ก็เคยโกอินเตอร์ใน CROUCHING TIGER, HIDDEN DRAGON 2 และก็ร่วมแสดงใน สตาร์ วอร์ ภาคใหม่ที่กำลังจะเข้าฉาย คือเฉพาะการแสดงและฉากแอคชั่นของนักแสดงสองคนนี้ และก็ตัวร้ายของเรื่องอย่าง Black Dragon ถือว่าโอเคเลย 

      แต่รายละเอียดอื่นๆของหนังถือว่าไม่ผ่าน และดูจะมีปัญหาคล้ายๆกับหนังแอคชั่น Martial Art ของบ้านเราเหมือนกัน ที่ฉากบู๊ทำได้ดีเลย แต่บทหนังและการแสดงของนักแสดงหลายๆคนกลับมีปัญหาเวลาถึงบทพูดหรือฉากแสดงอารมณ์ ฉากแอคชั่นเองแม้จะอยู่ในเกณฑ์ให้ผ่านได้

      แต่ความรู้สึกตอนที่ได้ดูมันก็ไม่ถึงขนาด…ว้าว กับฉากแอคชั่นเหล่านี้เลย มันก็ดีนั่นแหละแต่ก็เหมือนๆกับที่เราเคยดูผ่านๆมาแล้วทั้งหมด ที่มีฉากเตะต่อยโชว์สตั๊นสวยๆ อย่าง จอห์นนี่ เหงียน ก็เหมือนท่าเดิมกับในต้มยำกุ้งเป๊ะๆเลยกระโดดหมุนตัวเตะท่าสวยเท่านั้นเอง ส่วนเนื้อเรื่องของหนังเอาจริงๆมีหลายๆช่วงเกือบๆหลับเหมือนกัน ไม่มีอะไรดึงความสนใจคนดูไว้ได้เลย

      ความรู้สึกส่วนตัวตอนนี้เลยกลายเป็นว่า เหมือนหนัง Action Martial Art อินโดนีเซีย น่าจะแซงประเทศอื่นๆในอาเซียนไปแล้ว เพราะหลังจาก องค์บาก กับ ต้มยำกุ้ง ภาคแรกแล้ว ก็ยังไม่มีหนังแอคชั่นเรื่องไหนสร้างปรากฏการณ์ได้เลย

      แต่ถ้าแนว Action Martial Art นี้ไม่ต้องไปพูดถึงจีนที่ตอนนี้เหมือนอุตสาหกรรมหนังจะกลับมาบูมอีกครั้ง และ จา พนม ก็ดูน่าจะไปหากินยาวๆที่นั่น คงไม่ได้ย้ายกลับมาทำหนังตามแบบฉบับของตัวเองให้คนไทยได้ดูง่ายๆแน่นอน

      บ่นนอกเรื่องซะเยอะขอสรุปเลยแล้วกันว่า ถ้าตัดเฉพาะฉากแอคชั่นล้วนๆถือว่าหนังเรื่องนี้สอบผ่านแน่นอนแม้จะไม่ถึงกับประทับใจ แต่รายละเอียดในส่วนอื่นๆของหนังก็ต้องบอกว่ามีปัญหาไม่ต่างจากหนังแอคชั่นในบ้านเราเรื่องอื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องบทและการแสดงของเหล่านักแสดงที่พอถึงบทพูดหรือดราม่า ไม่น้อยไป…ก็ล้นซะเหลือเกิน

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...