วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Crying Out Love in the Center of the World(2004)

Crying Out Love in the Center of the World(2004) พร่ำหัวใจเพรียกหารักที่กลางโลก
#ปีนรั้วรีวิว #Melodrama #Romance
      คนเราจะรักกันมากขึ้นเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะเมื่อได้อยู่ด้วยกันเราก็จะเห็นข้อเสียของอีกฝ่าย คนที่ไม่สมหวังในความรักก็เลยสามารถเฝ้ารออีกฝ่ายได้เสมอ ก็ไม่รู้ว่าความคิดแบบนี้มันถูกต้องหรือเปล่านะ เพราะบางทีคนเราก็รักกันมากขึ้นเพราะเมื่ออีกฝ่ายทำผิดพลาด แล้วเราสามารถให้อภัยคนรักของเราได้เช่นกัน

      ซากุทาโร่ ชายที่ใกล้จะถึงวันแต่งงานของตัวเองกับ ริทซึโกะ เข้าไปทุกที  แต่ก็ยังทำงานดึกดื่นไม่ค่อย กลับบ้าน ด้าน ริซึโกะ ที่กำลังเก็บข้าวของในบ้านอยู่ก็ได้เจอกับเทปคลาสเซ็ทม้วนนึงที่มันช่วยเตือนความทรงจำบางอย่างในอดีตขึ้นมา เธอจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปยัง ทาคามัตซึ บ้านเกิดของเธอเอง


      แต่ ริทซึโกะ ก็ไม่ใช่เพียงคนเดียวที่มีความทรงจำกับเมืองนั้น  เมื่อ ซากุทาโร่ ตัดสินใจที่จะไปยัง ทาคามัตซึ เช่นเดียวกัน เพียงแต่อาจจะไม่ใช่การไปตามหา ริทซึโกะ ซะทีเดียว แต่อาจจะเป็นการกลับไปตามหาบางคนในอดีตที่จากมานานและยังอยู่ในความทรงจำของเขาเสม

      สำหรับหนังรักเมโลดราม่าญี่ปุ่นแล้วเอาจริงๆสำหรับแอดเองแล้วสารภาพเลยว่าไม่ค่อยใช่ทางเท่าไหร่ ด้วยความที่สไตล์ของหนังค่อนข้างจะเนิบนาบเรื่อยๆดูเพลินๆ มีความละมุนที่ให้คนดูค่อยๆซึมซับกับเรื่องราวต่างๆ ซึ่งไม่ค่อยจะทันใจวัยโจ๋อย่างแอด(รึเปล่า)เท่าไหร่เลย 

      แต่ก็ต้องยอมรับอีกเหมือนกันว่าหนังรักโรแมนติคจากญี่ปุ่นเขาดีจริง อย่างเรื่องนี้ก็ถูกนำไปรีเมคเท่าที่ทราบก็อีกสองเวอร์ชั่น เรื่องแรกก็คือ My Girl & I ปี 2005 ของเกาหลีและ Crying out in love ของจีนเมื่อปี 2016 และก็มีฉบับซีรี่ย์ญี่ปุ่น ที่ได้ ฮารุกะ อายาเซะ แสดงนำในบทของ อากิ ซึ่งถ้าได้ดูเมื่อไหร่คงได้นำมาเขียนถึงกัน(แต่ฉบับซีรี่ย์อาจจะไม่ได้ดูแน่ท่าทางจะยาว555)

      พอดูหนังเรื่องนี้จบก็จะสังเกตรูปแบบความรักของคนที่ยังรอคอยใครบางคน   หรือว่ามีความรักในอดีตที่ไม่สามารถลืมได้   มันมักจะมาจากความรู้สึกผิดหรือว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ยังติดค้างอยู่ในใจ  เลยทำให้ยังไม่สามารถที่จะก้าวต่อไปได้ สำหรับ ซากุ แล้ว   คงจะเป็นความรู้สึกติดค้างอยู่ในใจที่ตัวเองยังไม่สามารถทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับ อากิ ได้

      ส่วน ริทซึโกะ นั้น ตัวเธอเองแม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรักในอดีตของทั้ง ซากุ และ อากิ โดยตรงแต่เธอก็มีความรู้สึกค้างคาภายในใจไม่ต่างจาก ซากุ เลยแม้แต่น้อย   แถมยังอาจจะรู้สึกผิดอยู่ลึกๆในใจด้วยซ้ำ เธอเลยไม่สามารถโกรธคนที่เธอรักได้แม้เขาจะยังไม่สามารถลืมคนรักในอดีตได้ เพราะเธอเองก็มีส่วนที่ทำให้เขาเป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน

      ส่วน อากิ ก็เป็นเด็กสาวที่เพิ่งรู้จักกับความรัก ที่พยายามหาคำตอบให้กับตัวเองว่า “จะรู้สึกยังไงนะถ้าคนที่เรารักต้องจากไปก่อน” และคำถามที่ว่า “หากตัวตายความรักจะตายไปด้วยรึเปล่า” แต่หลังจากดูหนังจบแล้วเราก็ไม่สามารถรู้หรอกว่ามันเป็นยังไงอยู่ดี 

      มันอาจจะจบลงไปพร้อมกับความตายก็ได้ แต่คนที่ยังอยู่ต่างหากที่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร   ที่จะไม่ให้ความสุขความทรงจำในอดีตมาฉุดรั้งเอาไว้  ซึ่งคำตอบเหล่านี้มันก็อยู่ในเทปม้วนสุดท้ายที่ อากิ ยังไม่สามารถส่งให้ถึงมือของ ซากุ เพื่อที่จะทำให้เขาเดินหน้าต่อไป

      เป็นหนังรักโรแมนติคอีกเรื่องนึงที่มีทั้งช่วงเวลาของ ความสนุก ความสุข และความเศร้า ทั้งยังกล่าวถึงการใช้ชีวิตอยู่หลังจากการสูญเสียคนที่รัก เพราะยิ่งเรามีความสุขกับช่วงเวลานั้นมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งฉุดรั้งเรามากเท่านั้น สิ่งที่คนที่กำลังจะจากไปทำได้

      ก็เหมือนกับอย่างหนังเรื่อง Never Say Goodbye (2016) พยายามสื่อนั่นแหละ จะบอกลายังไงให้คนที่รักเจ็บปวดน้อยที่สุด และทำให้เขาสามารถก้าวเดินต่อไปได้โดยที่ช่วงเวลาความสุข ความทรงจำ ระหว่างทั้งสองคนไม่ฉุดรั้งกันไว้

      สรุปแล้วใครที่ชอบหนังรัก โรแมนติค ดราม่า คงถูกใจเรื่องนี้แน่นอนใครที่ยังไม่ได้ดูก็ไม่อยากให้พลาดกัน ถ้าไม่ดีงามคงไม่มีรีเมคตามมาอีกถึงสองเวอร์ชั่นแน่นอน ขนาดส่วนตัวแอดเองไม่ไม่ค่อยถูกกับหนังเมโลดราม่ายังยอมรับเลยว่าของเขาดีจริง


#MovieReview #รีวิวหนัง





2 ความคิดเห็น:

  1. หลงรักมาซามิจากเรื่องนี้เลย บ่อน้ำตาแตกกันทีเดียว

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่รู้ว่าดู Tear for you (2006) รักแรก รักเดียว รักเธอ หรือยัง อาจจะไม่ดีเท่า Crying Out Love in the Center of the World(2004) แต่ก็ก็พอได้น้ำตาคลอเหมือนกันครับ

      ลบ

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...