วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Himizu (2011)

Himizu (2011) รักรากเลือด
#ปีนรั้นรีวิว #Crime #Drama
      ถามว่าการจะสร้างคนที่มีคุณภาพสถาบันไหนหรือภาคส่วนไหนในสังคมที่สำคัญที่สุด หลายๆคนคงรู้คำตอบแล้วก็คงตอบเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า “สถาบันครอบครัว”👨‍👩‍👧‍👦 แต่คำตอบของคำถามนี้มันก็ย้อนกลับมาให้คำตอบอีกด้านหนึ่งเหมือนกัน แล้วถ้าสถาบันครอบครัวมันย่ำแย่เลวร้ายเกินเยียวยาล่ะ เด็กที่โตมาในสภาพแวดล้อมแบบนั้นจะกลายเป็นอะไร แล้วสิ่งไหนจะช่วยเด็กๆเหล่านั้นได้

      หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น ยูอิจิ (
เด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตไปวันๆไม่มีความฝัน ความหวัง หรือสิ่งสำคัญอะไรในชีวิต แต่ดันมีความคิดพิเรนๆว่าอยากจะเป็นตัวตุ่น(หรือ Himizu ตามชื่อของหนังนั่นเอง) เห็นเป็นแบบนี้ ยูอิจิ เองก็มีเพื่อนร่วมห้องอย่าง เคโกะ (ที่แอบชอบและพยายามหาทางใกล้ชิดอยู่เสมอ แต่สำหรับ ยูอิจิ แล้วสิ่งเหล่านั้นกลับเป็นความน่ารำคาญและพยายามไล่ เคโกะ ไปทุกครั้ง 

      สิ่งที่เป็นสาเหตุให้ ยูอิจิ ต้องกลายเป็นเหมือนคนต่อต้านสังคมก็เพราะพ่อที่ไม่เคยอยู่บ้านเจอหน้ากันแต่ละครั้งก็ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย แช่งให้ ยูอิจิ ตายทุกครั้งเพื่อหวังเงินประกัน  รวมถึงไถเงินที่หามาได้  แม่ที่พาผู้ชายอื่นมานอนที่บ้านไม่ซ้ำหน้า หนำซ้ำในตอนนี้ยังหอบผ้าหนีตามไปอยู่กับผู้ชายคนใหม่ ทิ้ง ยูอิจิ ให้เผชิญเรื่องราวต่างๆตามลำพัง

      กลายเป็นว่าคนที่คอยอยู่เป็นเพื่อนถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ  กลับเป็นกลุ่มคนไร้บ้านจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ที่ขอมาอาศัยในที่ดินของร้านเช่าเรือรวมถึง เคโกะ ที่ยังไม่ยอมแพ้แม้ ยูอิจิ จะผลักไสหรือใช้กำลังลงไม้ลงมือกับเธอกี่ครั้ง 

      แต่ชีวิตของ ยูอิจิ ที่ตอนนี้ที่ว่าเลวร้ายเหมือนเจอแผ่นดินไหวแล้ว ยังต้องเจอกลับคลื่นซึนามิซัดถล่มอีกระลอกเมื่อแก็งค์ยากูซ่ามาตามทวงหนี้ที่พ่อของ ยูอิจิ กู้เอาไว้ถึง 6 ล้านเยน เมื่อทุกอย่างมันถาโถมเข้าใส่แบบนี้เด็ก ม.ต้น อย่าง ยูอิจิ จะทนรับเรื่องราวต่างๆได้แค่ไหนกัน

      หนังเป็นผลงานการกำกับของ Sion Sono ผู้กำกับชาวญี่ปุ่นที่ทำหนังออกมาได้แหวกแนวและดาร์ค😱ได้ใจทุกเรื่อง ส่วนผลที่ออกมาสำหรับเรื่องนี้  ส่วนตัวค่อนข้างผิดคาดไปเยอะทีเดียว ที่ผิดคาดไม่ใช่เรื่องความดีหรือไม่ดีของหนังนะ แต่ในทีแรกที่อ่านเรื่องย่อหรือรีวิวสั้นๆมา ทำให้เข้าใจหนังเรื่องนี้ว่าเป็นธีมหนังรักแบบป่วยๆใช้ความรุนแรงแบบถึงเลือดถึงเนื้อ 

      แต่พอได้ดูจริงๆมันกลายเป็นหนังสะท้อนปัญหาครอบครัว รวมทั้งกล่าวถึงเหล่าผู้ใหญ่ในสังคม ที่จะต้องส่งผ่านอนาคตของประเทศไว้ในมือคนรุ่นใหม่ (ถึงแม้เนื้อหาในหนังจะรุนแรงเรียกว่า 18+🔞เลยก็เถอะ) เหมือนกับประโยคที่บอกว่า “ทุกคนเหมือนดอกไม้ที่มีเพียงดอกเดียว และทุกคนก็มีความพิเศษอยู่ในตัวเอง”

      ในทีแรกก็งงๆนะว่าหนังเกี่ยวอะไรกับแผ่นดินไหว แล้วฉากในห้องเรียนทีแรกครูก็พูดถึงเรื่องราวของประเทศหลังจากผ่านการแพ้สงคราม  แล้วคนรุ่นก่อนก็นำพาชาติผ่านพ้นเรื่องต่างๆมาได้ แต่พอดูไปเรื่อยๆตัวละครผ่านเหตุการณ์ต่างๆก็ทำให้เข้าใจได้เลยว่า 

      มันเป็นหนังที่คนในรุ่นก่อนกำลังสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ว่า พวกคุณคืออนาคตของประเทศ ความหวังอยู่ที่พวกคุณแล้ว รวมทั้งบอกกับคนรุ่นเดียวกันว่า ให้ช่วยกันประคับประคอง อย่าทอดทิ้งคนรุ่นใหม่ในขณะที่พวกเขากำลังเจอกับปัญหา

      เพราะ ยูอิจิ และ เคโกะ ทั้งสองคนมีปัญหาแทบจะไม่ต่างกันเลยสักนิด ยูอิจิ มีแม่ที่ไม่สนใจลูก พ่อที่ใช้กำลังและอยากจะให้ลูกตาย ส่วน เคโกะ ก็มีแม่ที่ติดพนันแล้วยังทำที่แขวนคอฆ่าตัวตายเอาไว้ให้ลูกอีก เรียกได้ว่าทั้งสองคนเป็นคู่สร้างคู่สมกันจริงๆ เพียงแต่ เคโกะ นั้นในทีแรกเราอาจจะมองเธอเหมือนเด็กรั่วๆไม่น่าเป็นที่พึ่งพาของใครได้ 

      แต่กลับกลายเป็นเธอนี่เองที่คอยตื้อและพยายามดึงให้ ยูอิจิ อยู่ในร่องในรอย แม้จะโดน ยูอิจิ ใช้กำลังกับเธอทำร้ายเธอยังไงก็ตาม แต่เธอก็เพียงแค่เก็บหินมาหนึ่งก้อนแล้วก็บอกกลับไปว่า “นี่คือหินแห่งความโกรธฉันจะเก็บมันจนเต็มกระเป๋า เมื่อมันเต็มเมื่อไหร่ฉันจะขว้างมันใส่เธอ " หรือจะพูดง่ายๆว่าแม้ครอบครัวของ เคโกะ กับ ยูอิจิ แทบจะไม่แตกต่างกันแต่ เคโกะ กลับมีวิธีจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดีกว่า

      สำหรับทุกคนแล้วใครๆก็คงอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์อบอุ่นมีความสุข แต่ถ้าเด็กๆอยู่ในครอบครัวที่มีปัญหาแล้ว คนที่อยู่รายล้อม ไม่ว่าจะเพื่อนบ้าน เพื่อน คนรัก หรือใครก็ตามในสังคม บางครั้งถ้ายื่นมือช่วยเหลือกัน🤝 จากปัญหาที่มันจะลุกลามใหญ่โต 

      สุดท้ายแล้วมันอาจจะกลายเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยและจะกลายเป็นบทเรียนเมื่อเราโตขึ้น หรือแม้กระทั้งเมื่อเขาก้าวพลาดทำสิ่งผิดไปแล้ว ถ้าคนเหล่านั้นระลึกถึงความผิดโดยบริสุทธิ์ใจ สำนึกต่อความผิดที่กระทำและรับโทษในสิ่งที่ก่อแล้ว เขาก็ยังสามารถกลับคืนสู่สังคมได้

      ในฉากท้ายๆก่อนจบนี่ยิ่งบีบคั้นหัวใจเรามาก ด้วยความที่เราผ่านเรื่องราวต่างๆมาพร้อมกันกับตัวละคร ได้เห็นสิ่งที่ ยูอิจิ ต้องได้เจอ จากการที่เป็นหนังรุนแรงสายดาร์ค แต่มันกลับทำให้เราเสียน้ำตาออกมาได้กับแค่คำพูดไม่กี่คำของ เคโกะ ที่พูดกับ ยูอิจิ😭

      ส่วนจะพูดว่ายังไงไม่สปอยแล้วกันเผื่อใครอยากดูจะได้อินไปกับเนื้อเรื่องส่วนนี้ได้เต็มที่ เพียงแต่ถ้าคิดจะดูต้องเตรียมใจไว้หน่อยว่าหนังมันค่อนข้างมีแนวทางเฉพาะ และเนื้อหารุนแรง 18+

      สรุปสุดท้ายแล้วหน้าหนังและคำโปรยคำโปรโมทของหนังเรื่องนี้อาจจะทำให้คนเข้าใจจุดประสงค์ของหนังคลาดเคลื่อนไปบ้าง รวมถึงแม้เนื้อหาของหนังจะรุนแรงระดับ 18+ ก็จริง แต่ก็ไม่ได้ลดทอนสิ่งที่หนังพยายามสื่อสารกับสังคมหรือคนดูลงไปได้เลย

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...