Platina Data (2013)

Platina Data (2013) 
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Crime #SciFi

      ในโลกบูดเบี้ยวใบนี้ มันคงจะดีนะหากมีเครื่องมืออะไรที่สามารถช่วยเจ้าหน้าที่สืบหาตัวคนร้ายได้อย่างง่ายดาย หลักฐานแน่นหนา แล้วก็นำตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็สามารถสร้างเครื่องมือที่มีความสามารถระบุตัวคนร้ายได้ เพียงแค่มี ดีเอ็นเอ ของคนร้ายเพียงเล็กน้อย ก็จะระบุลักษณะทางกายภาพ รูปพรรณ จำลองใบหน้า รวมถึงหากมีฐานข้อมูล ดีเอ็นเอ ของญาติที่เกี่ยวข้องอยู่ในระบบ...ก็จะสามารถระบุถึงตัวตนของคนร้ายได้ทันที

      อาซาม่า (Etsushi Toyokawa) ตำรวจที่ทำคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง  ที่คนร้ายฆ่าเด็กๆไปแล้วหลายราย แต่กลับไม่สามารถสืบสวนเข้าใกล้คนร้ายได้เลย จนวันหนึ่งที่เขาได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าให้มาพบยังสถานที่แห่งหนึ่ง  แถมบอกด้วยว่าตอนนี้ระบุตัวคนร้ายได้แล้ว เมื่อมาถึง อาซาม่า ก็ได้พบกับ คางูระ (Kazunari Ninomiya) ชายหนุ่มที่ดูแลสถาบันวิจัยแห่งนั้น 

      แล้ว คางูระ ก็ได้โชว์ Platina Data ผลงานชิ้นเอกของเขา เครื่องมือในการระบุตัวคนร้ายเพียงแค่ใช้ ดีเอ็นเอ ของคนร้ายในที่เกิดเหตุ ก็จะสามารถรู้รูปพรรณ ลักษณะการเดิน จำลองใบหน้า ผ่านการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ ได้แล้ว นั่นก็เลยทำให้ อาซาม่า สามารถปิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องของตัวเองได้อย่างง่ายดาย 

      แต่หลังจากผ่านไปไม่นาน อาซาม่า ก็ถูกเรียกมายังโรงพยาบาลซันเซกิ เพื่อทำคดีเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยของ Platina Data สองคนถูกฆาตกรรม โดยที่มีลักษณะการฆ่าคล้ายกับคดีที่เกิดขึ้นติดต่อกันในช่วงนี้ ซึ่งคดีที่ผ่านมาหลักฐาน ดีเอ็นเอ ในที่เกิดเหตุไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ แต่กับคดีล่าสุดนี้กลับสามารถระบุตัวได้ถึง 99.99 % ว่าคนร้ายก็คือ คางูระ นั่นเอง...?

      ความไม่สมบูรณ์แบบอยู่คู่กับโลกและมนุษย์ฉันใด Platina Data ก็ไม่สมบูรณ์แบบฉันนั้น เพียงแต่ว่าความไม่สมบูรณ์แบบนั้นถูกทำให้เกิดโดยจงใจจากคนบางกลุ่ม หนังเรื่องนี้ก็เหมือนยกเอา Platina Data มาเสียดสีกับกฎหมายที่ออกแบบโดยคนไม่กี่คน แต่ต้องบังคับใช้กับผู้คนทั้งหมด ซึ่งคนที่สร้างกลไกนั้นๆขึ้นมา  ก็ได้สร้างเงื่อนไขหรือช่องโหว่เอาไว้แล้วเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง 

      เหมือนกับคำที่เราได้ยินกันบ่อยๆอย่าง "กฎหมายก็เหมือนกับใยแมงมุม ที่จะดักจับได้เฉพาะคนอ่อนแอและยากจน แต่จะแหลกสลายไม่เป็นชิ้นดีเมื่อเจอกับคนรวยและผู้มีอิทธิพลบารมี" "Written laws are like spider's webs; they will catch, it is true, the weak and the poor, but would be torn in pieces by the rich and powerful." อแนคคาซิส (Anacharsis) นักปรัชญาชาวไซเทียน (Scythians) ศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล

      Platina Data ก็เลยเปรียบเสมือนใยแมงมุม ที่ดักจับได้เฉพาะคนที่ไม่ได้มีอำนาจ หรือความสำคัญอะไร แต่สำหรับคนที่มีพลังอำนาจทั้งทางการเงินและกฎหมายอยู่ในมือ ก็จะสามารถหลุดรอดจากใยแมงมุมจาก ระบบของ Platina Data ได้ 

      ซึ่งภายในหนังเรื่องนี้ก็ยังสะท้อนให้เห็นอีกมุมมองนึงนั่นก็คือ คนที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงใยแมงมุมที่มันบิดเบี้ยวไม่สามารถดักจับสัตว์อะไรที่มันแข็งแกร่งได้ ก็คือประชาชนที่อยู่ในระบบนั้นเองว่าจะเข้มแข็งพอที่จะตรวจสอบระบบที่ว่านั้นมั้ย

      เหมือนกับที่ อาซาม่า ไม่ยอมเป็นเพียงแค่เศษซี่ของกงล้อที่ทำให้ระบบมันขับเคลื่อนไป แต่เขากลับค้นหาความจริงของเรื่องราวผิดปรกติที่เกิดขึ้นรอบตัว ไม่ว่าจะ คางูระ นั้นทำผิดจริงหรือไม่ สาเหตุการตายของเจ้าหน้าที่โครงการวิจัย รวมทั้งความเกี่ยวข้องของคนอื่นๆที่มีอำนาจอยู่เหนือตัวเองขึ้นไป

      ส่วน คางูระ นั้นก็เสมือนเป็นผลพวงที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนป่วย ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของตนเองได้ทั้งหมด จึงถูกใช้ความสามารถที่มีเพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้าง Platina Data ขึ้นมา ซึ่งความไม่สมบูรณ์แบบของเครื่องมือชิ้นนี้  มันก็ได้ย้อนกลับมาส่งผลต่อตัวเขาเอง 

      ทางเดียวที่จะหาคำตอบให้กับตัวเองว่าเขาลงมือฆ่าเพื่อนร่วมงานจริงหรือไม่  รวมทั้งสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ก็คือ   คางูระ ต้องพยายามตามหาของบางอย่างที่ ซากิ (Kiko Mizuhara) หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ถูกฆ่าตายสร้างเอาไว้  เพื่อให้ Platina Data กลับมาเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบอีกครั้ง

      สรุปแล้ว Platina Data เป็นหนังที่เสมือนการวิพากษ์  เครื่องไม้เครื่องมือ  ที่ใช้ควบคุมสังคมอย่าง กฎหมายที่เมื่อมันไม่สมบูรณ์แบบ มันก็ย่อมส่งผลกับคนที่ถูกนำมาใช้  ซึ่งความไม่สมบูรณ์ที่ว่ามันจะส่งผลกระทบกับใคร ขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่า….คนคนนั้นคือใคร? อยู่ระดับไหนของสังคม?

#MovieReview #รีวิวหนัง