Hwayi : A Monster Boy (2013)

Hwayi : A Monster Boy (2013) ฮวาอี้ เด็กปีศาจ
#ปีนรั้วรีวิว #Action #Thriller Director: Joon-Hwan Jang

      แก๊งค์โจร 5 คนเจ้าของฉายา Day Breakers พวกเขาทั้ง 5 คนเรียกได้ว่าเป็นแก๊งที่ครบเครื่อง ไม่ว่าจะความฉลาดเป็นกรด แผนที่รอบคอบไร้ช่องโหว่ อาวุธที่ใช้พวกเขายังประดิษฐ์มันขึ้นมาเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตามรอยได้ลำบาก ทั้งยังโหดไม่เคยปราณีใคร หลายปีก่อนหน้าพวกเขาทำการลักพาตัวเด็กคนหนึ่งมาเพื่อเรียกค่าไถ่ จากความผิดพลาดที่ครอบครัวเด็กโทรแจ้งตำรวจ ทำให้พวกเขาต้องยอมสูญเงินไป แต่เมื่อไม่ได้เงินพวกเขาจึงตัดสินใจเก็บเด็กเอาไว้ และทำให้ตัวเองกลายเป็นพ่อทั้ง 5 คน รวมทั้งตั้งชื่อใหม่ให้เด็กน้อยว่า ฮวาอี้ และสอนทุกอย่างที่พวกเขารู้ เพื่อที่ว่าวันหนึ่งเมื่อเด็กชายคนนี้โตขึ้นจะกลายมาเป็นเหมือนอย่างพวกเขา

      กระทั่งในวันหนึ่งที่พวกเขาตัดสินใจรับงานของบริษัทพัฒนาที่ดิน เพื่อกำจัดใครก็ตามที่ยังไม่ยอมย้ายออกไป ซอกแท (Yoon-Seok Kim) หัวหน้าแก๊งตัดสินใจพา ฮวาอี้ (Jin-gu Yeo) เริ่มประเดิมงานชิ้นแรกของเขา ทว่าเหมือน ซอกแท จะตัดสินใจผิดพลาดที่สั่งให้ ฮวาอี้ ลงมือทำอะไรบ้างอย่างลงไป เพราะมันไม่ใช่แค่การเปิดโลกแห่งการฆ่าให้เด็กหนุ่มคนนี้ แต่ความลับที่พ่อทั้ง 5 คนปกปิดเอาไว้มันก็ถูกเปิดเผยออกมาเช่นเดียวกัน

หนังเรื่องนี้เปรียบไปก็เหมือนการ “ปลูกถั่วเขียวได้ถั่วงอก” (ถั่วงอกก็คือ ต้นอ่อนของถั่วเขียวนั่นแหละ ฮ่าฮ่า) ยังไงยังงั้น เมื่อ ซอกแท และพรรคพวกหวังที่จะเลี้ยง ฮวาอี้ ให้กลายมาเป็นอาชญากรเหมือนพวกเขา แต่กลายเป็นว่าสิ่งต่างๆที่พวกเขาสั่งสอน ฮวาอี้ ไป เพื่อที่ว่าวันหนึ่งจะได้มาทำงานด้วยกัน สิ่งเหล่านั้นมันกลับย้อนมาทิ่มแทงพวกเขาเองในภายหลัง

      แต่ถึงหนังจะบอกว่าแก๊งโจร แทนตัวเองด้วยการเป็นพ่อทั้ง 5 คนก็เถอะ แต่เอาจริงๆก็มีเพียงสามตัวละครที่ดูจะทำหน้าที่การเป็นพ่อในมุมที่แตกต่างกันไป อย่าง ซอกแท ก็เป็นพ่อที่เปรียบเสมือนผู้นำที่เข้มงวดและควบคุมความคิดของเขาทุกอย่าง จินซอง (Hyun-Sung Jang) พ่อที่ไม่ต้องการให้ ฮวาอี้ มีชีวิตเป็นอาชญากรเหมือนเขา กีแท (Jin-Woong Cho) พ่อที่อ่อนโยนรักและเป็นห่วง ฮวาอี้ เสมือนลูกแท้ๆของตัวเอง ส่วนอีกสองคนอย่าง บอมซู (Hae-Joon Park) และ ดองบอม (Seong-gyoon Kim) ดูจะบทบาทน้อย และไม่ค่อยให้ความสนใจ ฮวาอี้ ซักเท่าไหร่หรอก

      หากพูดถึงความ สนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก หนังค่อนข้างจัดเต็มนะ มีฉากโหด ความรุนแรงประมาณนึงเลย แต่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรเกินคาดเดาได้ อาจจะมีการพยายามขมวดปม หาเหตุผลมารองรับการกระทำของตัวละครในช่วงท้ายบ้าง แต่ส่วนตัวมองว่าหนังแค่เอามาขยาย ให้ตัวละครดูมีมิติเพิ่มขึ้นเท่านั้นซึ่งมาช้าไปหน่อย หากปูเกริ่นมาก่อนซักนิดแต่ยังไม่เฉลยปม ฉากท้ายๆไคล์แม๊กซ์มันน่าจะมีพลังมากกว่านี้

อีกสิ่งหนึ่งที่รู้สึกขัดใจก็คือ ฉากบ้าน้ำลายนี่แหละ เอาปืนจ่อกันไปกันมาแล้วก็ยืนคุยกันเป็นวรรคเป็นเวรไม่ยิงกันซักที คือ…คนอื่นอาจจะไม่รู้สึกอะไรกับฉากแบบนี้นะ เพราะมีให้เห็นเป็นปรกติในหนังแอคชั่น 

      แต่สำหรับผมเองสารภาพตามตรง ว่าไม่ถูกจริตจริงๆกับฉากแบบนี้ อาจจะเพราะด้วยเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ ในหนังแอคชั่นอาชญากรรมฮ่องกงบ่อยแล้ว คือรู้สึกว่าฉากแบบนี้อาจจะมีได้ แต่ไม่ควรถูกใส่เข้ามาหลายครั้ง หลายฉากในหนังเรื่องเดียวกัน จุดที่รู้สึกขัดใจในหนังก็มีเพียงจุดเล็กๆพวกนี้แหละ นอกนั้นหนังตอบโจทย์ความระทึกขวัญบันเทิงได้ดีทีเดียว มาเกือบครบไม่ว่าจะฉากดวลปืน การต่อสู้ระยะประชิด การใช้สไนเปอร์ยิงจากระยะไกล ฉากขับรถไล่ล่า

เรียกว่าเอาซีนหลักๆจากหนังแอคชั่น มาผสมรวมกันแล้วทำออกมาได้สนุกทีเดียว การแสดงของเหล่าพ่อแก๊งค์โจรทั้ง 5 ก็ทำได้โหดสุดทางของแต่ละคน แต่คนที่โดดเด่นที่สุดคงไม่พ้นลูกพี่ใหญ่ ซอกแท ที่มีปมร่วมกับตัวละครหลักอื่นๆในหนัง ส่วน ยอจินกู ที่แสดงเป็น ฮวาอี้ หากพูดถึงแง่มุมบทบาทความดราม่าการแสดงออกทางสีหน้าท่าทางแล้ว ถือว่าทำได้ดีเลยนะ แต่หากว่ากันที่การแสดงฉากแอคชั่น หนังเองก็ไม่มีอะไรให้เจ้าตัวได้โชว์มากมายเท่าไหร่

      สรุปแล้ว Hwayi : A Monster Boy (2013) ฮวาอี้ เด็กปีศาจ เป็นหนังแอคชั่น ระทึกขวัญ ที่บันเทิง สนุกเรื่องนึงเลยนะ หนังมีความโหดดิบ และแอบหน่วงประมาณนึงเลย เมื่อตัวละครต้องตัดสินใจล้างแค้นคนที่เลี้ยงเขามาด้วยมือตัวเอง

#MovieReview #รีวิวหนัง