วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Moby Dick (2011)

Moby Dick (2011) เจาะข่าวข้น คนในเงา
#ปีนรั้วรีวิว #Action Director: In-je Park

      ในวันที่ 20 พฤษจิกายน ปี 1994 เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ สะพานบารัมคโย เขตคยองกี มีผู้เสียชีวิตสองรายและบาดเจ็บสาหัสหนึ่งคน ซึ่งทั้งสามคนต่างตกเป็นผู้ต้องสงสัยของคดีก่อการร้ายนี้ ทันทีที่นักข่าวหัวเห็ดอย่าง อีบังวู (Jung-min Hwang) ทราบเรื่องจึงรีบเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุและติดต่อนักสืบเจ้าของคดี เพื่อขอข้อมูลลับกลับมาเขียนบทความ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะลงมือเขียนข่าวข้อมูลลับที่ว่า ซนจินกิ (Sang-ho Kim) นักข่าวหน้าใหม่ของสำนักพิมพ์ก็รู้ด้วยเช่นกัน และตัดหน้าเขานำเสนองานต่อ บก. ไปแล้ว

ไม่กี่วันถัดมา บังวู ได้รับการติดต่อจาก ยูนฮยอก (Goo Jin) อดีตคนรู้จักที่เคยให้ความช่วยเหลือกันมาก่อนขอพบกับเขา และก่อนที่ ยูฮยอก จะหายตัวไป เขาได้ทิ้งกระเป๋าที่เต็มไปด้วยแผ่นดิสค์และเอกสารสำคัญต่างๆเอาไว้ ซึ่งมันอาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่สะพานบารัมคโย บังวู ที่ต้องการตามหาความจริง จึงพยายามนำข้อมูลที่ได้มาเสนอ บก. แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ หากเขาต้องการทำข่าวนี้จริงๆล่ะก็ บังวูจะต้องร่วมมือกับผู้มาใหม่ ที่เพิ่งทำข่าวตัดหน้าเขาไปอย่าง ซนจินกิ และเด็กรุ่นน้องอย่าง ซองฮโยกวัน (Min-hee Kim)


      หนังที่ดูแล้วบางอย่างในหนัง ทำให้นึกถึงเรื่อง Inside Men (2013) อยู่เหมือนกัน แม้มุมมองที่หนังสื่อสารจะต่างกัน เพราะเรื่องนี้พูดถึง สื่อสารมวลชน ส่วน Inside Men นั้นพูดถึงการเมืองเป็นหลัก แต่สิ่งที่ทำให้นึกถึงก็คือ การมีรัฐบาลซ้อนรัฐบาล พูดให้เข้าใจง่ายหน่อยก็คือ อำนาจทางกฎหมายอาจจะอยู่ในมือรัฐบาลก็จริง ทว่ายังมีกลุ่มคนที่มีอำนาจคอยกำหนดทิศทางของบ้านเมือง อยู่เหนือรัฐซ้อนอยู่อีกชั้นหนึ่ง ไม่ว่าจะการควบคุมสื่อหรือกระทั่งควบคุมการบังคับใช้กฎหมาย เพียงแต่ใน Moby Dick ไม่ได้ขับเน้นในแง่มุมการเมือง หรือลงรายละเอียดส่วนนี้มากนัก แต่จะให้ความสำคัญไปที่ตัวข่าวและสื่อสารมวลชน ที่ต้องต่อสู้กับกลุ่มคนนอกกฎหมาย เพื่อนำความจริงออกมาสู่สาธารณะ
      ตัวละคร อีบังวู เองเอาจริงในทีแรก ก็ยังมีอาการกล้าๆกลัวๆอยู่เหมือนกัน เมื่อรู้สึกว่าเรื่องที่พวกเขากำลังทำมันชักจะใหญ่เกินตัว แต่เมื่อเรื่องราวมันดำเนินไป สิ่งที่พวกเขาโดนกระทำมันชักเริ่มแรงขึ้นและเล่นกันถึงชีวิต มันเลยถึงจุดที่เลือดขึ้นหน้า จนคิดว่าเอาไงเอากันตายเป็นตายวะ แค่ขอให้ได้ความจริงออกมาแฉเป็นพอ ผิดจากนักข่าวอย่าง ซนจินกิ ที่ดูจะมุ่งมั่นและจริงจัง กับหน้าที่ของตัวเองมาโดยตลอด แม้จะรู้ว่าเสี่ยงก็ตาม แต่ส่วนที่ทำให้ ซนจินกิ มีความกล้านั้น ไม่รู้ว่าจะด้วยเพราะปมเรื่องราวของครอบครัวด้วยหรือเปล่า ที่เป็นแรงขับให้เขาทำงานแบบไม่แคร์สิ่งที่จะเกิดกับชีวิต
      ส่วนรุ่นน้องนักข่าวสาว ซองฮโยกวัน นั้น ใหม่ๆเธอเองก็ไม่ค่อยอยากยุ่งด้วยซักเท่าไหร่หรอก เพียงแต่จะด้วยภาคบังคับหรืออะไรก็แล้วแต่ เมื่อร่วมหัวจมท้ายกันไปแล้ว เธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มกำลัง และตัวละครหลักอีกคนอย่าง ยูนฮยอก คงเรียกได้ว่าเป็นโจรกลับใจ แต่จากสาเหตุอะไรให้ไปดูกันเอง เพราะหากเป็นคนที่ทำไม่ดีกับเรา ตัวเราเองคงจะหักหลังคนนั้นได้ไม่ยากและไม่รู้สึกอะไร แต่หากคนที่เราหักหลังนั้น เป็นคนที่เปรียบเสมือนพี่ชาย เป็นคนที่ดีกับเรา สิ่งที่เราทำไม่ดีลงไปมันก็คงคอยตามหลอกหลอน หากยังไม่แก้ไขให้มันถูกต้องเสียก่อน
      หนังค่อนข้างเรื่อยๆมาเรียงๆนะ ไม่มีจุดพีคอะไรแค่ถือว่าพอได้ลุ้นประมาณนึง เนื้อหาเข้มข้นและต้องหาความจริงแข่งกับเวลา แต่หนังไม่ค่อยเอาข้อจำกัดเรื่องเวลามาใช้ประโยชน์เท่าไหร่ ตอนดูมันจึงไม่ค่อยมีความลุ้นในข้อจำกัดส่วนนี้เลย หนังกลับไปเน้นดราม่าการตามหาความจริง กับการแก้ปมในใจของ ยูนฮยอก แง่มุมความสนุกแบบหนังทริลเลอร์ ความตื่นตื่น บันเทิงเลยอาจจะน้อยไปหน่อย และหนังเองก็ดูจะทำให้ สื่อสารมวลชน ออกมาดูดีแบบในอุดมคติ ที่ยอมตายเพื่อทำข่าวและเปิดโปงความจริงเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้
      สรุปแล้ว Moby Dick (2011) เจาะข่าวข้น คนในเงา เป็นหนัง ดราม่า สืบสวนงานข่าว ที่อาจจะไม่ถึงขั้นแย่ แต่ก็ไม่ตอบโจทย์ความ ระทึกขวัญบันเทิงเท่าไหร่ พอผ่านมาตรฐานหนังทริลเลอร์เกาหลีแต่ก็ไม่มีอะไรน่าจดจำมากนัก หากเป็นคอหนังเกาหลีแล้วไม่คาดหวังไว้มากก็น่าจะพอสนุกไปกับหนังได้อยู่

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...