Steel Rain (2017)

Steel Rain (2017) คู่เดือดปฏิบัติการเพื่อชาติ
#ปีนรั้วรีวิว #Action Director: Woo-seok Yang

      ออมชอลวู (Woo-sung Jung) อดีตสายลับเกาหลีเหนือที่เลิกปฏิบัติภารกิจมาหลายปี ถูกเรียกตัวกลับมาอีกครั้งโดย รีแทฮัน (Kap-su Kim) ผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการลับเกาหลีเหนือ เพื่อให้เขาทำภารกิจลับสังหารนายพล พัคกวังดง (Jae-yong Lee) และพรรคพวกที่ต้องการก่อการปฏิวัติยึดอำนาจท่านผู้นำ แต่ขณะที่ ชอลวู กำลังมองหาเป้าหมายในพิธีเปิดโรงงานใหม่เมืองแคซอง คนที่มาในงานกลับไม่ใช่ พัคกวังดง แต่เป็นท่านผู้นำที่เดินทางไปที่นั่น ยังไม่ทันที่ ชอลวู จะลงมือทำอะไรโรงงานกลับถูกโจมตีด้วยอาวุธสังหาร และกลุ่มนักฆ่าที่หมายจะเอาชีวิตทุกคนในโรงงานร่วมทั้งท่านผู้นำด้วย

      ชอลวู เลยตัดสินใจช่วยชีวิตท่านผู้นำ ที่บาดเจ็บสาหัสและพาเขาไปยังที่ปลอดภัย ซึ่งทางเลือกเดียวในตอนนี้ก็คือ การข้ามฝั่งมายังเกาหลีใต้ เพียงแต่ว่าการตามล่าเอาชีวิตพวกเขามันยังตามมาไม่หยุดหย่อน และยังไม่รู้ด้วยว่าใครกันที่จะไว้ใจได้ เพราะตอนนี้สหายเกาหลีเหนือด้วยกันเองก็ตามล่าเขา แล้วมิตรใหม่อดีตฝ่ายตรงข้ามมาก่อนอย่าง กวักชอลวู (Do-won Kwak) คู่หูเฉพาะกิจล่ะ…เขาจะไว้ใจใครดี

ถึงดูว่าหนังเป็นเรื่องไกลตัวประเทศอื่นก็จริงนะ แต่ตอนดูหนังทำให้เราอินไปด้วยได้พอสมควรเลยกับความกดดันการก่อชนวนสงคราม และเรื่องของการที่ชาติเดียวกันต้องแตกแยก กลายมาเป็นสองชาติเหนือใต้อย่างทุกวันนี้ อาจจะด้วยบริบทปัญหาการเมืองในบ้านเรา ที่เกิดความแตกแยกแบ่งฝ่ายมาเป็นสิบปีด้วยล่ะมั่ง เนื้อหาในหนังมันเลยสะท้อนใจที่คนชาติเดียวกันต้องมาห้ำหั่นกันเอง

      และดูแม้ว่าหนังจะเล่าในสเกลใหญ่ก็จริง แต่ก็ตีความจุดมุ่งหมายของตัวละครในมุมเล็กๆด้วย อย่างการที่ ออมชอลวู ทำเรื่องต่างๆ ในภาพใหญ่อาจจะมองได้ว่าเขาทำมันเพื่อรับใช้ชาติก็จริง แต่สุดท้ายแล้วที่พยายามมาทั้งหมดก็เพื่อไม่ให้เกิดสงคราม ที่มันจะกระทบกับครอบครัวของเขา ซึ่งสาเหตุนี้ก็ไม่ต่างจาก กวักชอลวู ที่พยายามยับยั้งสงครามเช่นเดียวกัน

หนังสร้างสถานการณ์ตึงเครียด บีบคั้น ได้ดีเลยนะ ตอนดูนี่ได้ลุ้นไปกับหนังได้ตลอดทั้งเรื่อง ด้วยข้อจำกัดของตัวละครที่ไม่ใช่แค่การเอาชีวิตรอด แต่ยังต้องปกป้องผู้นำที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งยังต้องหาทางยับยั้งการก่อชนวนสงครามนิวเคลียร์อีกด้วย แต่ถึงโจทย์แต่ละอย่างมันใหญ่ ยากและสำคัญไปหมด แต่หนังก็ไม่ถึงขนาดดูแล้วกดดันเครียดมากนักนะ ด้วยคาแรคเตอร์ของ กวักชอลวู ที่ออกจะกวนบาทามีอารมณ์ขันในสถานการณ์วิกฤติได้ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ถึงขนาดตลกพร่ำเพรื่อจนตัวละครขาดความน่าเชื่อถือนะ

      หนังสนุก ตื่นเต้น มีฉากแอคชั่นเยอะประมาณนึงเลย ไม่ถึงกับพิเศษอะไรกว่าเรื่องอื่นนะ แต่ก็ทำได้ตามมาตรฐานแอคชั่นบันเทิงอย่างที่ควรจะเป็น มีทั้งสู้กันด้วยอาวุธและมือเปล่าในระยะประชิด ซึ่งคนที่รับหน้าที่บู๊ก็คือ จองวูซอง ที่รับบทเป็น ออมชอลวู นี่แหละ ซึ่งพักหลังๆเจ้าตัวก็รับงานหนังแอคชั่นอยู่บ่อยๆ แล้วก็เล่นได้ทะมัดทะแม่งดูแล้วไม่รู้สึกขัดเขิน หรือทำให้ตัวละครขาดความน่าเชื่อถือ ถือว่าเป็นนักแสดงที่เล่นบทบู๊ได้ดีคนนึงเลยล่ะ สำหรับคนที่ไม่ได้สายตรงแอคชั่นสตาร์มาแต่แรก

การก่อสงครามสำหรับมนุษย์แล้ว มันเป็นอะไรที่เข้าใจได้ยากตามมุมมองของผมนะ ถึงแม้ชนวนของสงครามอาจจะเกิดขึ้นได้จากเหตุผลหลายอย่างก็จริง แต่สุดท้ายแล้วในยุคสมัยที่แต่ละประเทศมีอาวุธหนักในมือ ความยับยั้งชั่งใจและความถี่ถ้วนในการวิเคราะห์สถานการณ์จำเป็นอย่างมาก เพราะแค่การกดปุ่มปุ่มเดียว ก็สามารถลบเมืองบางเมืองออกจากแผนที่โลกได้เลย นั่นหมายความว่าคนบริสุทธิ์มากมายต้องจบชีวิตไปด้วย ยิ่งกับการที่คนเชื้อชาติเดียวกันสายเลือดเดียวกันยิ่งแล้วใหญ่ ที่ต้องมาฆ่ากันให้ตายไปข้างนึง

      หนังพยายามขับเน้นแง่มุมมิตรภาพระหว่างตัวละคร ออมชอลวูกับกวักชอลวู ที่แม้จะผูกโยงกันไว้หลวมๆก็จริง เพราะตัวละครไม่มีแบล็กกราวน์อะไรเชื่อมโยงกันมาก่อน นอกจากชื่อตัวละครที่เหมือนกัน แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าพอมันเป็นเรื่องของคนเชื้อชาติเดียวกันสายเลือดเดียวกัน มันก็ทำให้มีคำว่าพรรคพวกมีคำว่าเพื่อนร่วมชาติอยู่ลึกๆ ซึ่งคนที่แม้จะต่างอุดมการณ์แต่มีเป้าหมายเดียวกัน มาร่วมหัวจมท้ายฝ่าวิกฤติไปด้วยกันแม้จะระยะสั้นๆ

แต่หนังก็ทำให้เราเชื่อได้ว่า ทั้งสองจะสามารถร่วมมือและเชื่อใจกันได้ พูดง่ายๆคือหนังจะสื่อว่าทั้งสองชาติสามารถเชื่อใจกันได้นั่นแหละ จากหนังเราจะสังเกตได้ว่าตัวละครชาติอื่นๆนั้น แทบจะไม่สามารถไว้ใจได้เลยไม่ว่าจะพวกสายลับ CIA หรือสายลับจากจีน กระทั่งพันธมิตรที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบและตัดสินใจอย่างอเมริกา พวกนี้ไม่หวังประโยชน์ทางข้อมูลข่าวสาร ก็พยายามหาทางดีดตัวเองออกจากปัญหาทั้งนั้น

      สรุปแล้ว Steel Rain (2017) คู่เดือดปฏิบัติการเพื่อชาติ เป็นหนังแอคชั่น ทริลเลอร์ ที่สนุกตื่นเต้นดีนะ ได้ลุ้นตลอดทั้งเรื่อง มีสถานการณ์อะไรมาให้ตัวละครได้แก้ไขตลอด แต่หนังก็ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากมายหรอก ดูง่ายเดาง่ายไม่ต้องคิดเยอะให้หนักสมอง ว่าใครดีใครร้ายแม้หนังจะสับขาหรอกอยู่บ้างก็เถอะ

#MovieReview #รีวิวหนัง