วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Swing Girls (2004)

Swing Girls (2004) สาวสวิง กลิ้งยกแก๊ง
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Comedy #Music Director: Shinobu Yaguchi

      ทำไม่ได้ ไม่ได้ทำ หรือลงมือทำแต่ไม่ใช้เวลากับมันมากพอ น่าจะเป็นอีกหนึ่งข้อความที่หนังเรื่องนี้พยายามสื่อสารกับคนดู Swing Girls หนังที่มีจุดเริ่มต้นจากช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนของนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งนำโดย โทโมโกะ (Juri Ueno) ที่ต้องมาโรงเรียนเพื่อซ่อมวิชาคณิตศาสตร์ ขณะที่เพื่อนคนอื่นๆที่มาโรงเรียนเหมือนกันอย่างวงดนตรีเครื่องเป่า กลับได้ไปต่างเมืองเพื่อนำเชียร์ให้กับทีมนักกีฬาเบสบอลของโรงเรียน

      แต่โชคชะตาเหมือนจะเข้าข้างพวกเธอ  เมื่ออาหารที่จะต้องนำไปเลี้ยงทีมนักกีฬาและกองเชียร์มาไม่ทัน เหล่าสาวๆก็เลยอาสาขอโดดเรียนซ่อมเพื่อนำอาหารไปส่งให้นักกีฬา ด้วยความยุ่งเหยิงระหว่างทางอาหารที่เหล่ากองเชียร์กินเข้าไปมันทำให้ทุกคนล้มป่วยจนไม่สามารถที่จะเดินทางไปเชียร์ในการแข่งขันครั้งถัดไปได้


      โทโมโกะ ผู้หัวใสและขี้เกียจเรียนจึงออกความเห็นชวนให้เพื่อนๆเสนอตัวเข้าชมรมเครื่องเป่า เพื่อจะได้ไม่ต้องเรียนซ่อมในช่วงปิดภาคเรียน จากที่คิดจะเข้ามาเล่นๆแต่เมื่อเข้ามาแล้วเหล่าสาวๆกลับหลงเสน่ห์ของเสียงดนตรีจนถอนตัวไม่ขึ้น และไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งไม่ให้พวกเธอโชว์เสียงเพลงแจ๊ส…อันสุดสวิงริงโก้ได้

      หลงเสน่ห์สาว จุรี(จุริ อุเอะโนะ) มาจากเรื่อง Girl in the sunny place เลยหาเรื่องอื่นๆของเธอมาดูบ้าง กลายเป็นว่าก็มีแต่ใน Girl in the sunny place นี่แหละมั้งที่ดูจะละมุนหน่อย ส่วนใน Rainbow Song ก็ออกจะเป็นสาวห้าว หรือ Swing Girls เรื่องนี้ก็ออกจะเป็นสาวแก่นเซี้ยวเข็ดฟัน ซึ่งก็นะ 555

      Swing Girls (2004) สาวสวิง กลิ้งยกแก๊งค์ ถือว่าเป็นหนังที่ สนุก ดูเพลิน แล้วก็สาระที่แฝงในหนังจัดว่าว่าดีสำหรับคนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นเหมือนกันนะ อย่าง โทโมโกะ เองน่าจะคล้ายๆกับหลายคนในช่วงวันรุ่นที่มักจะทำอะไรไม่จริงจังมากพอ เหมือนกับในช่วงต้นเรื่องที่หนังเล่าถึง โทโมโกะ ที่อยากได้คอมพิวเตอร์แต่พอได้ของมาแล้ว เธอกลับไม่สนใจและปล่อยให้มันเป็นเพียงของตกแต่งบ้าน

      เพียงเพราะว่ามันเข้าใจยากและตัวเธอเองก็ไม่พยายามที่จะใช้เวลากับการเรียนรู้มันมากพอ อีกคนนึงที่คล้ายกับ โทโมโกะ ก็คือ ครูโอซาว่า คุณครูสอนคณิตศาสตร์ที่รักในดนตรีแจ๊สและแซ็กโซโฟน แต่เมื่อลองที่จะเรียนรู้แล้วไม่สามารถเข้าใจกันมันได้โดยง่าย เขาก็เลือกที่จะละทิ้งมันไว้ข้างหลังแทนเช่นกัน

      โอกาสที่สองของ โทโมโกะ ก็คือเมื่อมีโอกาสได้มาเรียนรู้ดนตรีคลาสสิก ที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะจริงจังกับมันในทีแรกแต่ โทโมโกะ ก็ยอมที่จะใช้เวลาเรียนรู้และอยู่กับสิ่งนี้มากพอจนเริ่มเก็บเกี่ยวผลสำเร็จของความพยายามได้ ซึ่งไม่ใช่อะไรมันก็คือความภาคภูมิใจในตัวเองกับการที่เธอลงมือทำอะไรบางอย่างจนมันสำเร็จ

      แต่จะว่ากันตรงๆหนังเองมีธีมหลักเป็นคอมเมดี้ ถามว่าเนื้อหาหนังขยี้ในเนื้อหาสาระส่วนนี้ชัดเจนจนเราสัมผัสกับมันได้ลึกซึ้งไหมมันก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะ เรียกว่าใส่เข้ามาในช่วงแรกๆเพื่อให้เราเข้าใจสิ่งที่หนังพยายามสื่อสาร ก่อนที่จะเข้าโหมดบันเทิงอย่างเต็มที่ เอาจริงๆเหมือนว่าภารกิจของ โทโมโกะ และเพื่อนๆออกจะทางสะดวกง่ายดายซะด้วยซ้ำไป เพราะมักจะมีความโชคดีบังเอิญมาช่วยพวกเธออยู่เสมอ 

      จนส่วนตัวคิดว่าบางทีความง่ายเกินไปนี่แหละมันกลับย้อนมาลดความน่าเชื่อถือของสาระที่หนังสื่อสารออกมา(แต่หากดูแบบไม่ได้คิดมากเสพความบันเทิงและเลือกจับเฉพาะใจความมันก็ไม่หลุดจากสาระที่หนังพยายามสื่อสารหรอก)

      หากยกเรื่องสาระของหนังออกไปพูดกันถึงความบันเทิงล้วนๆก็บอกได้เลยว่า หนังเรื่องนี้มีทั้งความฮาและน่ารักของเหล่าสาวๆที่มีบุคลิกแตกต่างกันไป แต่ก็สามารถรวมตัวยืนอยู่ในจุดเดียวกันได้ด้วยเสียงดนตรี

      สรุปแล้ว Swing Girls (2004) สาวสวิง กลิ้งยกแก๊งค์ เป็นหนังญี่ปุ่นที่เกือบๆจะครบรสเรื่องนึงเลยนะ ทั้งสนุก ฮา ได้ทั้งความบันเทิงและสาระ ที่มันกระตุกเราให้รู้สึกตัวได้ว่า ที่ผ่านมาเราลงมือทำแล้วหรือยัง หรือเราลงมือทำแล้วเราถอดใจกันมันง่ายเกินไปหรือเปล่า ให้เวลาตัวเองเรียนรู้กับสิ่งที่ทำมากพอแล้วหรือยัง

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...