วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

The Client (2011)

의뢰인(The Client, 2011) หักแผนฆ่า ล่าตัวบงการ 
#ปีนรั้วรีวิว #Crime #Mystery #Thriller Director: Young-Sung Sohn

      หนังแนวที่ไม่ค่อยได้ดูและทำกันออกมาน้อยพอสมควรในช่วงหลายปีหลัง  ก็คงจะเป็นหนังแนวการต่อสู้ในกระบวนการทางศาล เท่าที่จำได้หนังสืบสวนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการพิจารณาคดีในชั้นศาล  ช่วงยุค 90s มีทำกันออกมาเรื่อยๆแล้วก็ค่อนข้างสนุก  มีทั้งฝั่งฮอลลิวู้ดและหนังจากฮ่องกงก็พอจะมีให้เห็นบ้างเหมือนกัน ซึ่งแตกต่างจากระยะหลังที่มีน้อยถึงน้อยมาก

      The Client (2011) หนังที่เล่าถึง ฮันชอนมิน (Hyuk Jang) ชายหนุ่มที่เพิ่งขับรถกลับมาถึงอพาทเมนต์ ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ  เนื่องจากที่นั่นกลายเป็นสถานที่ก่อเหตุฆาตกรรมภรรยาของ ฮันชอนมิน แต่ในสถานที่เกิดเหตุกลับไม่พบศพของเธอ  สิ่งที่หลงเหลืออยู่มีเพียงแค่กองเลือดเท่านั้น ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นตัว ฮันชอนมิน นั่นเอง  ในกระบวนการพิจารณาคดีทาง มินโฮ (Hee-soon Park) อัยการที่ทำคดี มีเพียงหลักฐานแวดล้อมเท่านั้นที่เชื่อมโยงไปหา ฮันชอนมิน ในเมื่อไม่พบศพและอาวุธสังหาร 
      ส่วน ฮันชอนมิน ได้ขอร้องให้ ทนายคัง (Jung-woo Ha) ช่วยเหลือในการเป็นทนายว่าความในคดีของเขา ซึ่ง ชอนมิน ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่การว่าความในคดีนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อ ทนายคัง เองก็มีปัญหาเดิมอยู่กับทางสำนักงานอัยการอยู่ก่อนแล้ว ซ้ำยังดูเหมือนว่าทางอัยการและเจ้าหน้าตำรวจจะตั้งธงในใจอยู่แล้วว่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน…ก็จะต้องทำให้ ฮันชอนมิน รับโทษให้ได้ ทนายคัง จึงต้องพยายามทำทุกอย่าง  เพื่อหาทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์องลูกความตัวเองให้ได้

      เป็นหนังที่ทำให้นึกย้อนไปถึงหนังฮอลลิวู้ดเรื่องหนึ่งในปี 1996 แต่ไม่ขอบอกแล้วกันว่าเรื่องไหนเดี๋ยวจะกลายเป็นสปอย คือเนื้อเรื่องของหนังมันไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียวหรอก แต่พล็อตและการสร้างตัวละครบางตัวของหนังมันออกมาในแนวทางเดียวกัน ซึ่งหากใครเคยได้ดูเรื่องนั้นมาแล้วเหมือนกันน่าจะพอนึกออกได้

      พอเราคิดว่า The Client มันคล้ายกันกับเรื่องที่ว่ามา เราก็จะคอยลุ้นว่ามันจะจบแบบเดียวกันไหม แม้เราจะคิดว่ามันมีความคล้ายกัน  ข้อดีของ The Client ที่ทำได้ก็คือ ยังทำให้เราลังเลกับคำถามกับข้อสันนิษฐานที่ว่า ฮันชอนมิน ผิดจริงหรือเปล่าได้ หรือฝ่ายอัยการต่างหาก  ที่ซ่อนความลับอะไรเอาไว้ โจทย์มันจะต่างกับหนังเมื่อปี 1996 เรื่องนั้นที่ต้องทำให้คนดูกับทนายเชื่อว่าจำเลยไม่ผิดจริง แต่โจทย์สำหรับ The Client คือการทำให้คนดูลังเลกับการคาดเดาของตัวเอง  ว่าหนังจะจบในแบบเดียวกันหรือเปล่า

      ความสนุกของหนังแนวว่าความในศาลก็คือการตอบโต้กันด้วยข้อมูลหลักฐาน พยาน และเทคนิคการพูดโน้มน้าวใจลูกขุนและคนดูให้คล้อยตาม ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น  ยิ่งฉากท้ายเรื่องในการกล่าวสรุปคดีต่อหน้าลูกขุน ก็สื่อสารถึงใจความสำคัญได้ดีและเราสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมคำตัดสินจึงออกมาเป็นอย่างนั้น

      เพียงแต่ส่วนตัวจะติดอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ยังรู้สึกว่าคาแรคเตอร์ของ ทนายคัง ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่นักว่าเขามีแนวความคิดอย่างไร ซึ่งกว่าเราจะทราบชัดเจนก็เมื่อหนังดำเนินมาจนถึงตอนจบ  มันเสียดายที่ระหว่างทางหนังน่าจะใส่ประเด็นที่ว่า ทนายคัง เป็นคนมีแนวความคิดอย่างไร เขาต้องการช่วยเหลือคนบริสุทธิ์จริงๆ เขาทำเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว หรือว่าแค่ต้องการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามเขาเพียงเท่านั้น หากหนังพาเราลงไปสำรวจจิตใจตัวละครมากกว่านี้ ก็น่าจะเพิ่มความกดดันความเข้มข้นได้อีก ซึ่งหนังเมื่อปี 1996 นั้นทำตรงจุดนี้ได้ดีมากๆของทั้งสองตัวละครเอกเลย

      อีกอย่างนึงที่หนังกล่าวถึงด้วยก็คือ การได้มาซึ่งหลักฐานในคดี หากหลักฐานที่ว่ามามันได้มาอย่างไม่ถูกต้องแล้วล่ะก็แทนที่จะได้นำมาใช้ประโยชน์มันอาจจะกลายเป็นส่วนที่ทำความเสียหายที่สุด เพราะแม้มันจะเป็นความจริงแต่เราก็จะไม่สามารถนำมันมาใช้ได้ หรือกระทั่งลดความน่าเชื่อถือของฝั่งตัวเองด้วยซ้ำไป

      สรุปแล้ว The Client (2011) จัดว่าเป็นหนังว่าความในศาลอีกเรื่องหนึ่งที่ดูสนุก มีอะไรให้ลุ้น แล้วเราที่เป็นคนดูก็มีความรู้สึกแบบเดียวกับลูกขุนจน(เกือบ)ถึงการตัดสินพิจารณาคดี ที่จะได้รู้ความจริงและความลับที่ซ่อนเอาไว้

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...