วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Another Promise (2014)

Another Promise (2014) 
#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director : Tae-Yun Kim 

      หนังสร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับหนุ่มสาวโรงงานชาวเกาหลีใต้  ที่ต้องป่วยเป็นโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงอื่นๆ ซึ่งมันเกิดจากผลของการทำงานในโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์  ของบริษัทชื่อดังม๊ากมากระดับโลกเลยล่ะ แรงงานของบริษัทกว่าสองร้อยชีวิตต้องต่อสู้ทางด้านกฎหมาย  กับบริษัทที่ทรงอำนาจของประเทศอยู่นานหลายปี หลายคนก็ยอมแพ้แต่บางคนก็ยังพยายามที่จะสู้ต่อ  แม้รู้ว่าหนทางที่ชนะมันจะยากเต็มทีก็ตาม

      ฮันซังกู (Cheol-min Park) พ่อที่มีอาชีพขับรถแท็กซี่ได้รับข่าวดีจาก ฮันยูนมิ ลูกสาวของเขา  เมื่อเธอผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานที่ จินซุง บริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์และอุปกรณ์สื่อสารขนาดใหญ่ระดับโลก ที่มีความมั่นคงและสามารถมั่นใจว่าจะมีอนาคตที่ดีได้  แต่หลังจากทำงานไปได้เพียงแค่ 4 ปี ฮันยูนมิ ก็มีอันต้องพบกับข่าวร้าย  เมื่อเธอเองล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว จนทำให้ต้องย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเพื่อให้พ่อแม่ดูแล จากอาการป่วยทำให้ ยุนมิ หยุดงานเป็นเวลานานจนบริษัทส่งตัวแทนมาเพื่อเกลี้ยกล่อม ให้พ่อและเธอยอมรับเงินบางส่วนและลาออกจากงาน  โดยที่ไม่รับเงินชดเชยเต็มจำนวน  ด้วยความจำเป็นต้องใช้เงินในการรักษาลูกสาว ซังกูและยูนมิ จึงต้องจำใจรับข้อเสนอนั้นไว้
      แต่เวลาผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ ยูนมิ ก็ได้รับข่าวแปลกๆจากเพื่อนร่วมงานว่า ทางบริษัทให้ปิดข่าวเรื่องของเธอและห้ามใครมาเยี่ยม  รวมทั้งยังมีคนงานอื่นๆล้มป่วยเหมือนกับเธอ  และต้องออกจากงานไปโดยที่ไม่ได้รับเงินชดเชยเต็มจำนวนเหมือนกัน ทำให้ ยูนมิ พยายามหาทางที่จะต่อสู้เพื่อหาความจริงให้ได้ว่าอาการป่วยของเธอ  ที่จริงแล้วมาจากผลของสารเคมีในโรงงานหรือไม่  แต่ไม่ทันที่จะได้เริ่มต้นสู้ ยูนมิ ก็ต้องจากโลกนี้ไปซะก่อน ฮันซังกู เลยให้คำมั่นสัญญากับลูกสาวของตัวเองก่อนเสียชีวิตว่า  เขาจะหาคนมารับผิดชอบกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น  และต้องคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาวของเขาคนนี้ให้ได้ ไม่ว่าการต่อสู้ครั้งนี้มันจะต้องเจอกับอะไรหรือยาวนานแค่ไหนก็ตาม
      หนังที่สร้างจากชีวิตจริงของ ฮวางซังกิ (Hwang Sang-ki) คนขับรถแท็กซี่ที่ต้องสูญเสียลูกสาวด้วยวัยเพียง 23 จากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว  ที่เขาคิดว่ามันมีสาเหตุของโรคมาจากการทำงาน  ในโรงงานบริษัทอะไรซุงๆนั่นแหละ  ซึ่งหนังมีการเปลี่ยนชื่อจาAnother family ที่ในทีแรกต้องการจะยั่วล้อสโลแกนของบริษัทที่ว่า แต่ก็ต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Another Promise (2014) แทนและเปลี่ยนชื่อตัวละครต่างๆในเรื่องเสียใหม่เพราะเสี่ยงกลัวจะโดนฟ้องเข้าให้  
      หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังดราม่า ความเป็นหนังครอบครัว รวมทั้งการต่อสู้ทางกฎหมายกันในศาล ผลที่ได้ออกมามันกลางๆในทุกส่วนเลยนะ  ความเป็นดราม่ามันก็ไม่ได้บดขยี้ความเศร้าหรือพาเราอินไปได้มากเท่าไหร่นัก  มันได้ผลแค่ในบางซีนเท่านั้นที่พอจะทำให้น้ำตาคลอได้บ้าง  ส่วนการต่อสู้ในข้อกฎหมายในศาลก็ไม่ถึงกับดุเดือดนักนะ  อาจจะมีการชิงความได้เปรียบกันในบางครั้งให้คนดูพอได้ลุ้น

      เข้าใจว่าคงไม่อยากสื่อให้รุนแรงมีผลกระทบด้านลบกับทางบริษัทเขามากนั่นแหละ  เดี๋ยวหนังจะโดนฟ้องซะอีก ที่ดูจะออกมาในด้านลบชัดเจนก็คงจะเป็นตัวละครฝ่ายบุคคล  ที่มาคอยทำหน้าที่หลอกล่อให้เซ็นเอกสาร  แล้วก็คอยหาทางพยายามยัดเงินไกล่เกลี่ยนี่แหละ  ที่คาแรคเตอร์จะดูร้ายชัดเจนหน่อย

      หนังมีตัวละครอย่างซุปเปอร์ไวเซอร์ คิม ที่แม้ตัวเองจะล้มป่วยเพราะงานที่ทำ  แต่ก็ยังจงรักภักดีกับบริษัท  เชื่อว่าหลายคนที่ทำงานกับที่ไหนซักแห่งนานๆ  สร้างเนื้อสร้างตัวได้ก็คงจะรู้สึกอย่างเดียวกับซุป’คิมไม่ต่างกัน  แต่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่คำนึงถึงความถูกต้องเช่นเดียวกับเขา ที่ตัดสินใจให้ข้อมูลแนะนำพยานกับฝ่าย ฮันซังกู เพื่อสู้คดีนำความถูกต้องมาให้กับลูกสาวและแรงงานคนอื่นๆ  ที่มีชะตากรรมเดียวกัน

      งานคือเงิน เงินคืองานบันดาลสุข มันก็จริงที่เราควรรักในงานและองค์กรที่เราทำงานอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะรักจนมากกว่ารักตัวเองและครอบครัว  เหมือนกับ ยูนมิ ที่เมื่อล้มป่วยหมดประโยชน์แล้วก็ถูกผลักไสออกมา  เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทเอาไว้  สุดท้ายคนที่จะอยู่ข้างๆเราก็คือคนที่รักเราและครอบครัว แต่เมื่อโลกความจริงมันโหดร้าย  ชีวิตเราจึงทำได้เพียงแค่ก้มหน้าทำงานหนักต่อไป  สิ่งที่ทำได้คงเพียงแค่นึกในใจไว้เสมอว่า”เราต้องรักตัวเองให้มากเข้าไว้”เพราะหากเฟืองเล็กอย่างเราแตกหรือบิ่นหมดสภาพไป ไม่สามารถขับเคลื่อนระบบได้  เขาก็จะหยิบเอาเฟืองที่เสียอย่างเราโยนทิ้งไป  แล้วแทนที่ด้วยเฟืองชิ้นใหม่ที่สภาพดีกว่าเท่านั้นเอง

      สรุปแล้ว Another Promise (2014)  เป็นหนังที่อาจจะไม่ถึงกับดราม่า ซึ้ง สะเทือนใจเรามากเท่าไหร่นัก แต่รวมๆแล้วก็ยังตอบโจทย์คอหนังดราม่าได้ดีอยู่ ที่สำคัญหนังเรื่องนี้เองก็สร้างจากชีวิตจริงของคนที่ต้องต่อสู้กับองค์กรระดับโลก ที่ทำเงินหล่อเลี้ยงขับเคลื่อนประเทศมากมายมหาศาล ซึ่งใครจะไปคิดว่าเขาจะกล้าทำมัน

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...