อีจองซู เซลล์ขายรถของบริษัท ฮาโดเกีย เอเยนซี่ กำลังขับรถมุ่งหน้าเพื่อไปห าเมียและลูกสาวของเขา แต่ความซวยกลับมาเยือนแบบไม ่ทันตั้งตัว ขณะที่เขากำลังขับรถผ่านอุโ มงค์ที่ทอดยาวผ่านใต้ภูเขา มันก็เกิดพังถล่มลงมาทับรถปิดทางออกทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถพาตัวเองออกไ ปจากจุดนั้นได้ แต่ อีจองซู ก็โชคดีที่ยังมีชีวิตรอด โดยที่แทบไม่ได้รับบาดเจ็บอ ะไรเลย
เพียงแต่ในตอนนี้เขาต้องติด ในรถที่อยู่ใต้ซากอุโมงค์่ที่พังถล่มลงมา ทันทีที่ตั้งสติได้จึงโทรติ ดต่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งในทีแรกไม่ว่าจะ อีจองซู หรือเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างก ็คิดว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น น่าจะเกิดความเสียหายเพียงเ ล็กน้อยเท่านั้น แต่กลายเป็นว่าการกู้ชีวิตข อง อีจองซู ต้องกลายเป็นเรื่องราวระดับ ชาติ เมื่อหนทางที่จะเข้าไปช่วยเ หลือมันไม่ง่ายดายอย่างที่ค ิด
เพียงแต่ในตอนนี้เขาต้องติด
หนังเรื่องนี้น่าจะแบ่งออกไ ด้เป็นสองช่วงหลักๆจากอารมณ ์ของหนังทั้งหมด ครึ่งแรกของหนังเราจะได้เห็ น อีจองซู ที่มีสติแก้ไขปัญหา ยังทำใจดีสู้เสือ มีอารมณ์ขันแม้ในสถานการณ์ค ับขัน แต่ครึ่งหลังของหนังที่เข้าโ หมดดราม่าเราจะได้เห็น อีจองซู ที่กลายเป็นคนสิ้นหวัง เมียอย่าง เซฮยอน ต้องตกอยู่ในสถานการณ์กระอั กกระอวนใจ กับเรื่องราวทั้งจากภายในอุ โมงค์และอารมณ์ของผู้คนภายน อกที่มีต่อสถานการณ์นี้
เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยต้องต กอยู่ในเหตุการณ์คับขันหรือ ได้เจอกับเรื่องร้ายๆ แอดก็เคยเป็น บางทีเราก็ทำเป็นใจดีสู้เสื อ ไม่อยากทำตัวเองให้หมดหวังห มดกำลังใจ พยายามเอาชนะความกลัวของตัว เอง แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้ช ่วยอะไร กับเรื่องบางเรื่องความกล้า มันอาจจะไม่ได้ทำให้เรามีชี วิตรอด แต่เป็นความกลัวต่างหากที่จ ะทำให้เรามีลมหายใจต่อไป
เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยต้องต
อีจองซู ก็เหมือนๆกับคนอื่นที่พยายา มข่มความกลัวและมองโลกในแง่ ดี ด้วยความหวังว่าจะมีชีวิต อยู่ต่อไป แต่ยิ่งนานวันเข็มนาฬิกามันก็เดินไปเรื่อ ยๆ ความหวังที่จะได้รับการช่วย เหลือมันก็ดูจะยิ่งเลือนราง ลงไปทุกที ยิ่งความสับสนกับสถานการณ์ภ ายนอก ที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเอ งได้รับข้อมูลมานั้นมันเป็น จริงมากแค่ไหน
ยิ่งนานการช่วยเหลือใช้เวลานานวัน ความกดดันมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นกับสถานการณ์ภายนอกอุโมงค์ ห นังพยายามเสียดสีกับนักกา รเมืองที่มองว่าเป็นพวกเอาห น้า จะทำอะไรก็ต้องรอแถลงข่าวรอ ถ่ายรูปกับสื่อ รวมทั้งสื่อเองก็โดนเสียดสี ไม่น้อยกับการหิวข่าวโดยที่ ไม่สนใจถึงความจำเป็นต่างๆใ นการช่วยชีวิตผู้คน ต้องการเพียงแค่ข้อมูลรวมทั ้งภาพสวยๆเอาไปใช้เสนอข่าวเ ท่านั้นเอง
ยิ่งนานการช่วยเหลือใช้เวลานานวัน ความกดดันมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นกับสถานการณ์ภายนอกอุโมงค์ ห
แต่สิ่งที่ผมเองชอบที่สุดใน หนังเรื่องนี้ ก็คือการตั้งค ำถามกับเราเองว่ามันคุ้มค่า ไหมกับการช่วยเหลือคนคนเดีย ว โดยที่ต้องแลกกับกำลังคนกำล ังเงินมหาศาล รวมทั้งอาจจะทำให้ชีวิตคนอื่นๆต้องตกอยู่ในความสุ่มเสี ยงกับความปลอดภัย
เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยดูหนั งแนวภัยพิบัติ หรือหนังที่มีการกู้ภัยกู้ช ีวิต แม้ตัวหนังเองอาจจะไม่ได้ตั้งคำถามในแง่ความคุ้มค่าการ เสียสละของตัวละคร แต่เราเองที่เป็นคนดูอาจจะเ คยมีคำถามทำนองนี้เกิดขึ้นม าบ้าง กับการที่ต้องมีการเสียสละช ีวิตบางคนหรือหลายๆคนเพียงเ พื่อช่วยชีวิตคนเพียงคนเดีย วหรือคนแค่บางกลุ่ม
เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยดูหนั
ใน Tunnel ได้หยิบสถานการณ์กระอักกระอ วนนี้มานำเสนอ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ไม่ม ีผิดถูกนะ แต่ละคนคงมีเหตุผลของตัวเอง รวมทั้งหากเป็นเราเองหรือคน ที่เรารักต้องตกอยู่ในเหตุก ารณ์เดียวกับ อีจองซู เราก็คงไม่มานั่งคำนึงถึงตร รกะความสำคัญ หรือความคุ้มค่าความเสี่ยงอ ะไรแม้แต่น้อย เพราะไม่ว่าจะมีหนทางอะไรที ่ทำได้...เราคงทำทุกทางเพื่อช่ วยเหลือคนของเรา
สรุปแล้ว Tunnel เป็นหนังที่ครึ่งแรกของหนัง อาจจะทำให้เราตายใจกับการทำ ใจดีสู้เสือของ อีจองซู แต่เมื่อโลกของความเป็นจริง มันโหดร้าย ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แม้แต่ความหวังที่เราสามารถ สร้างมันได้ด้วยตัวเองก็เถอ ะ
สรุปแล้ว Tunnel เป็นหนังที่ครึ่งแรกของหนัง
#MovieReview #รีวิวหนัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น