ReLIFE (2017)

ReLIFE (2017) 
#ปีนรั้วรีวิว #Comedy #Drama #Romance

      คนเราเมื่อถึงวัยทำงานผ่านไปซักระยะหนึ่ง หลายคนคงเคยตั้งคำถามกับตัวเองนะว่า ที่เราทำอยู่ทุกวันนี้มันดีพอแล้วหรือยัง ซึ่งบางครั้งสิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถก้าวไปได้ไกลกว่าจุดที่เป็นอยู่ ก็เพราะสิ่งต่างๆที่เราเคยทำและไม่ได้ลงมือทำมาในอดีต ซึ่งมันก็ฉุดรั้งเราเอาไว้ให้เราไม่สามารถหลุดพ้นจากความไม่เอาไหน ไม่สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนที่มีคุณภาพต่อสังคมได้

      Live Action จากมังงะของ Yayoisô ที่เล่าถึง อาระตะ ไคซากิ หนุ่มใหญ่ที่อายุ 27 แล้ว แต่ชีวิตก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แถมทุกวันนี้ก็ยังวิจัยฝุ่นไม่มีงานประจำทำกับเขาซะที แล้วยิ่งกับวันนี้ที่เพื่อนๆสมัยเรียนโทรตามจิกให้ไปร่วมสังสรรค์กันในวันเงินเดือนออก เจ้าตัวก็ยังหน้าบางออกไปฉลองกับเพื่อน และโกหกเพื่อนๆว่าตัวเองหน้าที่การงานดีมีโปรเจคใหม่ๆให้ทำอยู่ตลอด 

      แถมยังต้องควักเงินที่เหลืออยู่น้อยนิดช่วยเพื่อนออกค่าอาหารเข้าให้อีก เลยได้แต่สมเพชตัวเองแล้วเดินคอตกกลับที่พัก แต่ระหว่างทางกลับดันได้เจอกับ เรียว โยอาเกะ ชายแปลกหน้าที่แต่ตัวซะอย่างเนี๊ยบเข้ามาทักทาย ไคซากิ และเชิญชวนให้เขาเข้ารับการทดลองงานวิจัยที่ชื่อ Relife ที่จะทำให้เขาได้กลับไปเป็นวัยรุ่นเริ่มต้นเรียนรู้ชีวิตใหม่เป็นเวลา 1 ปี

      ซึ่งจะด้วยความกดดัน สิ้นหวัง หรืออะไรก็แล้วแต่ ไคซากิ ก็ตัดสินใจเข้าร่วมงานวิจัย ทำให้เขาได้ย้อนกลับมาเป็นวัยรุ่นอายุ 17 ได้เรียนมัธยมปลายอีกครั้ง ได้พบเจอกับเพื่อนร่วมถึงผู้คนใหม่ๆ ที่ต่างฝ่ายต่างสอนบทเรียนให้กันและกัน และทำให้ชีวิตสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไม่มีอะไรมาฉุดรั้งไว้อีกครั้ง

      ปรกติแล้วไอเดียหนังที่เล่นปมเกี่ยวกับเวลาหรืออายุ มักจะเป็นการพาย้อนกลับไปแก้ไขหรือเรียนรู้เรื่องราวจากอดีต แต่เรื่องนี้เป็นการใช้บทเรียนจากปัจจุบันแล้วย้อนวัยเรากลับมาเป็นเด็กวัยรุ่นอีกครั้ง ให้ได้ลองแก้ไขปัญหาเรื่องราวต่างๆภายในใจ โดยที่ไม่ต้องย้อนกลับไปแก้ไขเรื่องราวที่เป็นต้นเหตุ หรือจะพูดง่ายๆว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้แก้ไขอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้ว เพียงแต่พาผู้คนกลับไปสู่ช่วงวัยที่ยังมีอิสระทางความคิด ไม่มีข้อจำกัด และทำให้เข้าใจตัวตนของตัวเองมากขึ้น

      ไคซากิ เองปรกติแล้วโดยพื้นฐานก็เป็นคนที่ตั้งใจดี แต่ก็ด้วยความตั้งใจดีแต่ไม่รู้จักโตเป็นผู้ใหญ่นี่แหละ ทำให้ตัวเองมักจะพูดหรือตัดสินใจเรื่องราวต่างๆรอบตัวแบบไม่คิดให้รอบคอบถี่ถ้วน จนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเองมันสร้างปมในใจขึ้นมาแล้วสลัดมันไม่ออก ซึ่งการได้กลับมาเป็นวัยรุ่นอีกครั้งของ ไคซากิ ก็ได้มาเจอกับปัญหาของเพื่อนร่วมชั้นเรียนอย่าง ชิซึรุ เด็กสาวมาใหม่ที่เรียนเก่งแต่ไม่สามารถเข้ากับใครได้ เพราะไม่เก่งในการแสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเอง 

      ซึ่งการที่เก่งแต่เรื่องเรียนแต่แสดงออกไม่เป็นนี่แหละ เลยทำให้ ชิซึรุ ต้องมีเรื่องผิดใจกับ เรนะ เด็กเรียนเก่งประจำห้องที่มักจะได้เป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ แต่ตอนนี้ต้องถูกท้าทายและกำลังแย่งตำแหน่งที่จะได้อยู่เคียงข้าง โอกะ หนุ่มหล่อหัวกะทิประจำห้องที่เธอแอบชอบไป

      การที่ ไคซากิ ที่เป็นผู้ใหญ่ในร่างของเด็กหนุ่มในทีแรกก็คิดว่าจะแค่อยู่ให้ครบ 1 ปี โดยที่ไม่ทำอะไร ก็เพราะจากการที่เคยพยายามแก้ไขบางเรื่องให้ถูกต้องเมื่อเป็นผู้ใหญ่ มันกลับสงผลเสียตามมา แต่กลายเป็นว่าเมื่อได้กลับมาเป็นวัยรุ่น ความที่เป็นคนไม่ปล่อยให้เรื่องราวมันผ่านไปโดยที่ไม่พยายามแก้ไขอะไรมันก็ได้กลับมาอีกครั้ง 

      ซึ่ง ไคซากิ ก็ได้ใช้ประสบการณ์จากความเป็นผู้ใหญ่ที่ตัวเองเคยได้พบเจอมา คอยแก้ไขปัญหาความไม่เข้าใจต่างๆระหว่างเพื่อนให้มันดีขึ้น ซึ่งการได้กลับมาเรียนรู้ตัวเองอีกครั้ง มันก็ได้ช่วยปรับทัศนคติของ ไคซากิ ทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง ให้ได้เข้าใจว่าชีวิตที่ผ่านมาให้บทเรียนอะไรกับตัวเองบ้าง แล้วตัวเขาเองจะนำบทเรียนที่ได้มา สามารถเอาไปใช้ทำอะไรต่อเมื่อได้กลับมาเป็นผู้ใหญ่อีกครั้ง

      นอกจากเนื้อหาของหนังที่สนุกและแฝงด้วยสาระแล้ว อีกอย่างนึงของหนังเรื่องนี้ที่จะทำให้ทั้งหนุ่มๆและสาวๆน่าจะชอบได้ไม่ยากเย็นเลยก็คือนักแสดง ที่น่าจะถูกใจทั้งคนดูทั้งสองกลุ่มนี้แน่นอน

      สรุปแล้ว Relife (2017) เป็นหนังที่สนุกและสอดแทรกสาระได้ดีเรื่องนึงเลยนะ กับหลายๆคนที่อาจจะเป็นผู้ใหญ่ในตอนนี้ที่อาจจะหลงลืมหรือว่ายังหาตัวเองยังไม่เจอ หรือมีบางเรื่องคาใจที่จริงๆแล้วคำตอบมันก็อยู่กับตัวเองเสมอมาเพียงแต่เราอาจจะยังไม่เข้าใจมัน

#MovieReview #รีวิวหนัง