The Brain Man (2013)

The Brain Man (2013)
#ปีนรั้วรีวิว #Mystery 

      หลายคนคงเคยมีความคิดอยากที่จะมีฮีโร่คอยปราบเหล่าร้ายในชีวิตจริง  แต่กลับกลายเป็นว่าในชีวิตจริงกลับมีฮีโร่ที่คอยปกป้องเหล่าร้ายจากความผิดของตัวเอง ไม่ว่าจะกระบวนการยุติธรรมที่คนกระทำผิดสามารถใช้ช่วงโหว่ต่อสู้ได้ หรือแม้กระทั่งการเรียกร้องสิทธิต่างๆที่พวกเขามองว่าคนกระทำผิดเหล่านั้นควรจะได้รับ โดยบางทีแทบจะลืมนึกถึงการเยียวยาความรู้สึกของเหยื่อรวมทั้งครอบครัวของผู้สูญเสีย

      เกิดเหตุการณ์รอบวางระเบิดหลายครั้งทั่วประเทศญี่ปุ่น   แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายหรือกระทั่งได้รับเบาะแสอะไร  นอกจากคนร้ายจะใช้ตัวคนที่เย้ยหยันพวกเขาผ่านสื่อต่างๆ   เป็นเครื่องมือในการวางระเบิดในครั้งต่อไป  แต่สุดท้ายคนร้ายที่คิดว่าตัวเองฉลาดก็มีวันทำพลาด  เมื่อตำรวจได้ข้อมูลจนสามารถพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่คิดว่าเป็นที่กบดานของคนร้ายได้ แต่ขณะที่เข้าไปจับกุมกลับเกิดระเบิดขึ้น ทำให้คนร้ายบางคนสามารถหนีไปได้ จะเหลือก็แต่เพียงชายที่ชื่อว่า ซูซูกิ อิจิโร่ (Tôma Ikuta) ชายที่ไร้กระทั่งความรู้สึกเจ็บปวด

      หลังจากที่ถูกจับกุมได้อย่างงายดาย อิจิโร่ ถูกส่งมาประเมินสภาพจิตใจกับ ดร. มาริโกะ (Yasuko Matsuyuki) ซึ่ง อิจิโร่ ก็ทำให้ มาริโกะ ประหลาดใจอย่างมากกับผลวิเคราะห์ที่ออกมา กับการที่เขาเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึก ความเจ็บปวด แม้กระทั่งสามัญสำนึก แต่กลับมีมันสมองระดับอัจฉริยะ ที่มีความสามารถการได้ยินเป็นเลิศ รวมทั้งจดจำทุกอย่างรอบตัวได้เป็นอย่างดี  ทำให้เธอสนใจอยากจะศึกษา อิจิโร่ มากขึ้นไปอีก แต่ทางตำรวจกลับอยากจะใช้ประโยชน์จาก อิจิโร่ ในทางคดีซะมากกว่า

       เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่แนวคิดและวัตถุดิบดีมากเลยนะ แต่พอนำเสนอออกมาในมุมดราม่าเคร่งเครียดมากเกินไปหน่อย ทำให้ความสนุกดรอปลงพอสมควร แล้วหนังเองก็มีความเสียดสีแนวคิดบางอย่างค่อนข้าชัดเจนอย่างมาก

      ดร.มาริโกะ คนที่พยายามทำวิจัยในการช่วยเหลือเยียวยาคนร้ายและเหยื่อ  ด้วยการให้ทั้งสองฝ่ายมาเผชิญหน้ากัน  เพื่อพูดคุยระบายสิ่งต่างๆที่อยู่ภายในจิตใจ จนสามารถเปิดใจยอมรับและอภัยให้กัน แต่หนังชัดเจนมากในการเย้ยแนวคิดแบบนี้ด้วยการทำให้ มาริโกะ ต้องหน้าชากับเหตุการณ์บางอย่างที่แทบจะทำลายความเชื่อมั่นของเธอลง 

      เพราะบางคนก็ไม่สมควรได้รับการให้อภัย ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถรู้สึกสำนึกกับการกระทำของตัวเองได้  ถ้าจะฟันธงฉับลงไปเลย  หนังเรื่องนี้ชัดเจนกับการสนับสนุนการลงโทษด้วยการประหารแน่นอน สำหรับอาชญากรที่ไม่สามารถเยียวยาแก้ไขอะไรได้แล้ว

      ตัวละคร Brain man อย่าง อิจิโร่ นั้นขอยกไปเปรียบเทียบกับหนังเรื่อง Platina Data ที่มีโปรแกรมเอาไว้เพื่อระบุตัวคนร้าย อิจิโร่ เองก็ไม่ต่างจากโปรแกรม Platina Data ที่มีความสามารถเหมือนพระเจ้าประทานมาให้ จึงถูกปู่ของตัวเองสร้างขึ้นมา  เพื่อให้เป็นเครื่องมือลงทัณฑ์พวกอาชญากรทั้งหลาย จากความแค้นที่ปู่ของ อิจิโร่ ต้องสูญเสียลูกชายซึ่งก็คือ พ่อของ อิจิโร่ ไปจากการถูกฆาตกรรม

      แต่ก็อีกนั่นแหละ….เมื่อมันไม่มีระบบที่สมบูรณ์แบบ แล้วชีวิตจริงเราไม่มีคนแบบ อิจิโร่ ที่สามารถแยกแยะคนดีคนเลวออกจากกันได้ หรือเอาจริงๆ อิจิโร่ ก็เป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ถูกปู่ของตัวเองสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ในการลงโทษอาชญากรเท่านั้น ไม่ต่างจาก โนริโกะ (Fumi Nikaidô) เด็กสาวอัจฉริยะที่ใช้ความสามารถของตัวเองในการก่อการร้าย  เพียงแต่ทั้งสองคนอยู่คนละฝั่งอุดมการณ์แล้วความต้องการในการฆ่า  ก็คนละจุดประสงค์กันเท่านั้นเอง  แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ คร่าชีวิตผู้คน

      ตัวละครอีกคนอย่า ชิมูระ (Shôta Sometani) ที่แทบจะไม่มีส่วนกับเนื้อเรื่องหลัก แต่กลายเป็นตัวละครที่มีอิมแพ็คกับหนังทั้งเรื่อง เมื่อเขาคืออาชญากรที่ ดร.มาริโกะ พยายามช่วยเหลือจนสามารถกลับออกมาใช้ชีวิตตามปรกติได้อีกครั้ง แต่เรื่องราวที่เราได้รับรู้ต่อจากนั้นถึงความเกี่ยวข้องกัน ก็ต้องย้อนกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองนะว่า มันมีหรอคนแบบ มาริโกะ เธอเชื่อแบบนั้นจริงๆ หรือว่าเธอกำลังโกหกตัวเองอยู่ ซึ่งหนังมีคำตอบให้ชัดเจนกับความเชื่อของเธอ

      สรุปแล้ว Brain man (2013) เป็นหนังที่ถ้าจะพูดถึงความบันเทิงอาจจะน้อยไปนิด เพราะค่อนข้างเรื่อยๆและดราม่ามาเต็ม แต่เอาจริงหนังก็ไม่น่าเบื่ออะไร เล่าได้น่าติดตามดี แนวคิดของหนังยิ่งชัดเจนและตอกย้ำไม่ต้องให้เราตีความกันซับซ้อนหรือกระอักอวนใจ เพราะมันไม่ใช่ทุกคนที่ควรได้รับการอภัยให้

#MovieReview #รีวิวหนัง