วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

So I Married An Anti-Fan (2016)

So I Married An Anti-Fan (2016) ไอดอลหน้าใสกับยัย anti-fan 
#ปีนรั้วรีวิว #Romance #Comedy

      สำหรับดารานักร้องศิลปินหรือว่าจะไอดอลเซเลปคนดังทั้งหลายสิ่งที่คอยผลักดันให้มีผลงาน หรือความก้าวหน้าในอาชีพคงไม่พ้นเหล่าแฟนคลับ  หรือจะเรียกโดยใช้คำที่หลายๆคนไม่อยากจะถูกเรียกก็คือ ”ติ่ง” นั่นเอง แต่คนเราเมื่อมีคนรักมันก็ย่อมต้องมีคนเกลียดเป็นธรรมด

      เหมือนกับ ฮูจูน (ปาร์ค ชานยอล) นักแสดงหนุ่มชาวเกาหลีไต้ที่กำลังโด่งดังในประเทศจีน แต่ในคืนนึงขณะที่ตัวเองกำลังคุยอยู่กับ ไอรีน (ซอฮย็อน) ดาราสาวในห้องแต่งตัวสองต่อสองแล้วเหยี่ยวข่าวจอมแฉอย่าง เมียวเมียว ดันไปแอบเห็นแล้วแชะรูปมาหวังจะเอาไปทำข่าว แต่ ฮูจูน ดันมาเห็นซะก่อนจึงตามมาแย่งและพังโทรศัพท์ของเธอซะเลย 


      ทั้งสองคนก็เลยกลายเป็นคู่กัดกันตั้งแต่นั้น เพราะว่า เมียวเมียว ต้องตกงานก็ด้วยผลพวงจากวีรกรรมนี้ของเธอเอง เมียวเมียว จึงสถาปนาตัวเองเป็น anti-fan ของ ฮูจูน และตามไปล้างผลาญเขาทุกที่ แต่ก็เหมือนจะไม่สำเร็จแถมยังโดนเหล่าแฟนคลับรุมถล่มมาหลายครั้ง555 หลังจากที่ต้องกระเด็นตกงานแทบไร้ที่ซุกหัวนอนแถมแก้แค้นก็ไม่สำเร็จ

      เทพีแห่งโชคก็เหมือนจะหันมาเข้าข้างเธอบ้าง เมื่อมีรายการเรียลลิตี้โชว์ที่ต้องการชวน anti-fan อย่างเธอให้ไปใช้ชีวิตร่วมกันซุปตาร์คู่อาฆาตอย่าง ฮูจูน เป็นเวลา 4 เดือน เอาล่ะซิงานนี้คงเป็นเรื่องสนุกของ เมียวเมียว แน่ๆ ที่จะได้หาข้อมูลล้วงลึกความลับดำมืดของ ฮูจูน ออกมาแฉให้แฟนคลับตาสว่าง หรือจะกลายเป็นเธอเองต้องเป็นคนไปหลงเสน่ห์ไอดอลซุปตาร์คนนี้กันแน่

      เป็นหนังที่ค่อนข้างสนุกนะแล้วก็เซอร์วิสแฟนตาซีของเหล่าแฟนๆค่อนข้างสูงนะ เพราะมันเป็นเรื่องที่วนเวียนอยู่รอบตัวศิลปินที่ทุกคนต้องได้เจอกับ  นักข่าวบันเทิงที่ชอบนั่งเทียน แฟนคลับ และ แอนตี้แฟน ซึ่งหนังก็เอามาขย้ำๆรวมกันสื่อความหมายออกมาได้ดี เพียงแต่อาจจะเล่าแบบเบาๆไม่ได้ขยี้เนื้อหาสาระมากนัก อาจจะตกหล่นไปบ้างตรงมุมมองของเหล่าแฟนคลับที่ว่า  ทำไมถึงชื่นชอบและติดตามศิลปินคนนั้นๆ หนังจะเน้นไปที่แอนตี้แฟนอย่าง เมียวเมียว กับการสร้างข่าวลือการขายข่าวมากกว่า แต่ที่ว่าเน้นก็ยังถือว่าเบาอยู่ดี 555

      หนังเรื่องนี้เหมือนจะทำออกมาเพื่อเซอร์วิสแฟนคลับกลายๆก็ว่าได้  เอาจริงๆเวลาเราเป็นแฟนคลับของดาราหรือศิลปินคนไหนก็คงเคยมีคิดกันบ้างว่าอยากจะได้ไปอยู่ใกล้ชิดศิลปิน ไอดอล คนที่เราชอบ อีกด้านนึงก็เหมือนบอกกับเหล่าๆ anti-fan ตัวจริงทั้งหลายว่าอย่าเพิ่งด่วนตัดสินดาราศิลปินเหล่านี้จนเกินไปหากยังไม่ได้รู้จักตัวตนกันจริงๆ 

      บางครั้งอาจจะด้วยงาน บทบาทที่ได้รับ หรือหลายๆครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าว gossip เมื่อใครไปเจอดาราในเวลาส่วนตัวของเขา แล้วอาจจะไปเจอการแสดงออกที่ไม่เหมือนกับที่คาดหวังไว้  ก็อาจจะทำให้รู้สึกผิดหวัง  ซึ่งที่เราเห็นมันก็เป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียว มันคงจะไม่ยุติธรรมนักหากเราจะไปตัดสินใครเพียงข่าวลือหรือภาพจากหน้าฉากการแสดงที่เขาได้รับ

      ยิ่งกับยุคสมัยโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คแล้ว เราสามารถดับอนาคตใครก็ได้เพียงปลายนิ้ว ถึงเราอาจจะไม่ได้เป็นคนสร้างเรื่องสร้างข่าวลือขึ้นมาเอง แต่เพียงแค่กดไลค์ กดแชร์ แบบที่ไม่ใช้วิจารณญาณแล้วล่ะก็ แค่คลิกเดียวก็อาจจะทำให้ใครสักคนที่เราไม่รู้จักเขาดีแม้แต่น้อยเจอกับเรื่องวุ่นวายในชีวิตได้

      ซึ่งหนังเรื่องนี้แม้จะยกเรื่องของศิลปิน ดารามาก็จริง แต่สิ่งที่หนังพยายามสื่อมันก็ไม่ต่างจากคนทั่วไป ที่บางครั้งเราก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใครเร็วจนเกินไป จากการที่เราเห็นพฤติกรรมเพียงครั้งเดียวหรือเรื่องราวของข่าวลือของเขาที่พูดต่อกันมา จนไม่รู้ว่าคนเล่าใส่สีตีไข่ลงไปอีกเท่าไหร่

      อาจจะไม่ถึงกับว่าต้องไปทำความรู้จักเรียนรู้กันทุกคนบนโลกเพราะมันคงเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่เราก็ควรเผื่อใจไว้สักนิดว่า เขาอาจจะไม่ได้ ดี หรือ เลว อย่างที่เราคิด หรือคิดอยากจะให้เป็น เสมอไป

      สรุปแล้ว So I Married an Anti-fan เป็นหนัง โรแมนติก คอมเมดี้ ที่ สนุกระดับนึงนะ ดูได้เพลิน แฟนคลับ ปาร์ค #EXO น่าจะฟิน กับเรื่องราวได้ไม่ เพราะหนังเองก็ทำได้ตามมาตรฐานนะ สนุก ฮา มีสอดแทรกสาระเบาๆ ไม่ได้มีช่วงน่าเบื่ออะไร

#MovieReviwe #รีวิวหนัง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...