Dream (2008)

Dream (2008) ฝันสยองสองหัวใจ
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Fantasy #Mystery 

      "ในดำมีขาวในขาวมีดำ ในชั่วมีดีในดีมีชั่ว" หลายคนคงเคยได้ยินหลัก หยิน หยาง นี้ ไม่มีใครทำชั่วไปตลอดและไม่มีใครทำดีได้ตลอด ความสุขความทุกข์ ก็เหมือนกัน ไม่มีใครที่จะมีความสุขหรือความทุกข์ไปตลอด ทุกสิ่งมันเกิดเป็นของคู่กันเมื่อมีแสงสว่างก็ย่อมต้องมีเงา

      จีน (Joe Odagiri) ชายหนุ่มที่กำลังขับรถสะกดรอยตามใครบางคนอยู่ กลับเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางจนทำให้มีคนเสียชีวิต แต่แทนที่เขาจะหยุดให้ความช่วยเหลือกลับพยายามขับรถต่อไป  จนเกือบชนชายอีกคนหนึ่ง  ซึ่งในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวสะดุ้งตื่นขึ้นมา…อ้าว  ความฝันที่เกิดขึ้นมันชั่งเหมือนจริงจนทำให้เขาเกิดความสงสัย  เลยตัดสินใจขับรถออกมาเพื่อดูว่าเหตุการณ์ต่างๆมันเกิดขึ้นจริงตามความฝันหรือเปล่า 

      และแล้วมันก็เกิดขึ้นตามความฝันของเขา เพียงแต่คนที่เป็นคนขับรถคันนั้นกลับกลายเป็นหญิงสาวที่ชื่อ ลีรัน (Na-yeong Lee) แน่นอนว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเธอปฏิเสธกับตำรวจว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเพราะเธอนอนหลับอยู่ที่บ้าน และ จีน เองก็ยืนยันว่าเขาเองที่เป็นคนขับรถจนเกิดอุบัติเหตุไม่ใช่เธอ แม้ตำรวจจะมีภาพถ่ายมายืนยันก็เถอะ  สุดท้ายแล้ว จีน ยอมที่จะเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น แม้ตำรวจจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องราวที่เขาเล่าให้ฟังก็เถอะ

      เมื่อทั้ง จีนและลีรัน ได้พบกันและรู้เรื่องราวความเชื่อมโยงของกันและกันผ่านความฝันของ จีน เมื่อฝ่ายชายฝันอะไร ลีรัน ก็จะออกไปทำในสิ่งเดียวกับที่ฝ่ายชายฝัน ซึ่งเมื่อความฝันที่เกิดขึ้นคือความต้องการของ จีน ที่อยากจะได้พบกับคนรักเก่าที่ทิ้งเขาไป ส่วนฝ่ายหญิงกลับเกลียดคนรักเก่าเข้ากระดูกดำและไม่อยากจะเจอหน้ากันอีก กลายเป็นว่า จีน ฝันถึงสิ่งที่จะทำให้เขามีความสุข แต่มันทำให้ ลีรัน ยิ่งเจ็บปวดเมื่อเธอต้องทำในสิ่งที่เธอขยะแขยงที่สุด จีนและลีรัน จึงต้องพยายามทำทุกทางที่จะไม่ให้ความฝันบ้าๆมันมาทำให้หัวใจของพวกเขาแตกสลาย แม้จะต้องแลกมากับความเจ็บปวดทางกายแค่ไหนก็ตาม

***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ***
**
      หนังสะท้อนมุมมองของชีวิตคนเราว่าไม่มีใครจะมีแต่ความสุข  เมื่อมีความสุขย่อมมีความทุกข์ตามมาด้วยเสมอ เหมือนกับ จีนและลีรัน ที่เปรียบเสมือนคนๆเดียวกันจิตใจเชื่อมโยงเข้าหากัน เมื่อ จีน ฝันอะไรในสิ่งที่เขาต้องการอยากจะพบกับความสุข ลีรัน กลับกลายเป็นคนที่ต้องรับกับความทุกข์เมื่อเธอต้องละเมอทำสิ่งที่ไม่ต้องการ

      และเมื่อ จีน รู้ว่าความต้องการของตัวเองมันไปทำร้ายคนอื่นให้ไม่มีความสุข เขาก็ยอมที่จะเสียสละตัวเองใช้ร่างกายรองรับการทรมานต่างๆนาๆเพื่อไม่ให้ตัวเองนอนหลับ และเมื่อ ลีรัน เห็นถึงความพยายามของ จีน มันก็ทำให้ทั้งสองคนตกหลุมรักกันและเยียวยาความเจ็บปวดทั้งหมดได้สำเร็จ ถึงแม้ในที่สุดมันจะสายไปแล้วก็เถอะ

      หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังรักเต็มตัวอีกเรื่องนึงของ Kim Ki Duk ละมั้ง (อีกเรื่องก็น่าจะ 3 iron) มันมีทั้ง ความรัก ความสุข ความทุกข์ การหึงหวง ความแค้น เพียงแต่หนังเองแทบไม่มีความโรแมนติกเลยก็เท่านั้นเอง หากจะเทียบกับเรื่องอื่นๆของลุง คิมคีดุ๊ก แล้วเรื่องนี้ดูจะเบาดูสบายๆที่สุดแล้วล่ะมั้ง

      และที่ดีหน่อยก็ตรงเราไม่ต้องเห็นสัตว์ถูกนำมาทรมานในเรื่อง 555 แต่กับการสร้างความเจ็บปวดให้กับคนแล้วยังมีอยู่เช่นเดิม แม้จะดูเบาลงมาหน่อยก็เถอะ...มีแค่การเอาเข็มมุดจิ้มหัว เอาลิ่มแกะสลักกรีดหัว เอาค้อนทุบตีนทุบขาตัวเอง ทั้งหมดที่ทำก็เพียงเพื่อไม่ให้ตัวเองนอนหลับก็เท่านั้น (เอาจริงตอนดูมีงงเหมือนกันนะ ทำไมไม่แบ่งเวลากันนอน นอนกลางวันคนนึงนอนกลางคืนคนนึงก็สิ้นเรื่อง 555)

      สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งนอกจาก สีขาวและสีดำ ที่ถูกในมาใช้ในหนังเรื่องนี้ก็ยังมี ผีเสื้อ อีกด้วย ด้านหนึ่งก็เปรียบกับความรัก ที่ความรักมันก็เปรียบเสมือน"ผีเสื้อที่ยิ่งเราไขว่คว้า...มันก็จะบินหนีไปเรื่อยๆ หากเราหยุดนิ่งมันก็จะบินมาหาเราเอง"

      ด้านหนึ่งก็เป็นความเชื่อของคนทางเอเชียตะวันออกอย่างการที่ ผีเสื้อ เป็นสื่อแทนดวงวิญญาณหรือตัวแทนของคนตาย ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นการตีความหมายเฉลยจุดจบของตัวละครบางตัวที่หนังน่าจะใช้ภาพของผีเสื้อสื่อออกมาแทนที่ภาพเหตุการณ์จริงขอตัวละคร

      สรุปแล้ว Dream (2008) ฝันสยองสองหัวใจ น่าจะเป็นหนังที่ดูจะซอฟต์ลงกว่าเรื่องอื่นๆที่สุดละ แม้จะยังมีความเจ็บปวดความรุนแรงให้เห็นอยู่ในหนังก็ตาม แต่มันก็ยังพอมี ความโรแมนติก อยู่ลึกๆในที่ไหนสักแห่งในหนังเรื่องนี้

#MovieReview #รีวิวหนัง