วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

L-DK (2014)

L-DK (2014) มัดหัวใจเจ้าชายเย็นชา
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance

      ต้องเรียกว่าเจ้าพ่อหนังรัก live action ของญี่ปุ่นเขาเลยคนนี้  เท่าที่ได้ดูช่วงนี้ก็เรื่องที่สี่ที่ห้าของ ยามาเคน (เคนโตะ ยามาซากิ) แล้ว  เล่นวนไปวนมาคาแรคเตอร์ซ้ำบ้างเปลี่ยนบ้าง เห็นจะเป็นใน Orange นั่นแหละที่ดูพลิกมาเล่นดราม่าหนักหน่วงหน่อย  เพราะต้องเป็นคนที่อยู่ในช่วงภาวะซึมเศร้า ส่วนบทบาทในเรื่องนี้ก็ตามชื่อไทยเลย แสดงเป็นหนุ่มหล่อมาดนิ่งที่ป็อบปูล่าในโรงเรียน ต้องมาฟาดฟันกับสาวแก่นเซี้ยวที่ไม่ชอบขี้หน้ากันในตอนแรก

      โมเอะ ตัดสินใจสารภาพรักกับ ชูเซย์ (หนุ่มหล่อสุดฮอตประจำโรงเรียนแต่คำตอบที่ได้มากลับเป็นคำปฏิเสธ  ทำให้เพื่อนซี้อย่าง อาโออิ (ตัดสินใจเป็นไงเป็นกันไปเผชิญหน้ากับ ชูเซย์ ที่ทำให้เพื่อนของเธอต้องเสียใจ  แต่กลายเป็นว่า อาโออิ เล่นแรงไปหน่อยจนทำให้ ชูเซย์ ได้รับบาดเจ็บต้องลำบากพาเขาไปส่งที่บ้าน  และกลายเป็นเรื่องโป๊ะแตกเมื่อทั้งสองคนเช่าห้องพักตรงข้ามกันนี่เอง

      แต่ความซวยของ อาโออิ ยังไม่หมดไปเมื่อต้องรับเอา ชูเซย์ เข้ามาพักห้องเดียวกับเธออย่างไม่เต็มใจ เมื่อเธอดันไปทำห้องพักของ ชูเซย์ พังพินาศซ้ำเข้าไปอีก  เธอก็เลยต้องคอยมารับมือกับเรื่องราววุ่นๆสุดป่วนของ ชูเซย์ ทั้งยังต้องคอยปิดบังโรงเรียนและ โมเอะ เพื่อนซี้ที่ตกหลุมรักผู้ชายที่ตอนนี้นอนอยู่ห้องเดียวกันกับเธอ

      Live action จากมังงะของ Ayu Watanabe ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ของหนังเรื่องนี้  เอาจริงๆหนังเหมือนหัวกุดหางด้วนนะ  คือหลายๆอย่างมันดูไม่มีที่มาที่ไป บทสรุปก็รวบๆจบลงง่ายๆ ทิ้งปมอะไรหลายๆอย่างของตัวละครไปซะเฉยๆ  แต่ถ้ามองภาพรวมของหนังแล้วก็ยังถือว่าสนุกแล้วก็ตอบโจทย์คอหนังรัก โรแมนติก คอมเมดี้ ได้อยู่พอสมควร

      เริ่มจากที่บอกว่าหัวกุดกันก่อน การพัฒนาความสัมพันธ์ของ อาโออิและชูเซย์ ค่อนข้างดีนะค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับ แต่ช่วงที่มันดูขาดหายไปก็คือจู่ๆทำไม ชูเซย์ ถึงมาสนใจ อาโออิ นี่แหละหนังไม่ได้ปูมาก่อนว่าประทับใจอะไร แอบมองแอบชอบอยู่ หรือมาแทรกเฉลยเอาในตอนท้ายก็ไม่มี  เหมือนอยู่ดีๆก็สนใจแล้วก็หาทางแกล้งหาทางเข้าไปอยู่ใกล้ชิดซะเฉยๆ

      ส่วนที่ว่าหางด้วนก็เพราะ ชูเซย์ มาปมความหลังกับ ซัทสึกิ (แฟนเก่าที่เอาเรื่องในอดีตมากดดันให้ ชูเซย์ ไม่สามารถคบกับใครได้อีก ซึ่งหนังก็เหมือนเคลียร์ปมนี้แบบง่ายๆ ทั้งที่ ชูเซย์ ต้องทนรู้สึกผิดอยู่ตัวคนเดียวมาตั้งนาน บทพี่ชายออกหน้าเคลียร์แทนให้ก็ลงตัวจบกันแยกย้ายแบบง่ายๆได้เลย

      อันนี้ว่ากันด้วย live action นี้ล้วนๆนะ เพราะไม่รู้ว่าฉบับมังงะเป็นยังไง ที่ดูจะเป็นจุดที่ขัดใจหลักๆคงแค่สองเรื่องนี้แหละ มาว่ากันที่แง่ดีกันบ้าง คงเป็นช่วงที่เป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองตัวละคร หนังทำได้ดีเลยนะ  เราสัมผัสได้ว่าจากการที่ตอนแรกไม่ถูกกัน  แต่พอได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันแล้วได้เห็นตัวตนของอีกฝ่าย ทัศนคติก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีได้ แล้วมันไม่ใช่ว่าเปลี่ยนไปแบบปุ๊บปั๊บแต่ค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ 

      ช่วงครึ่งแรกของหนังก็มีมุกตลกมาให้เราขำอยู่เรื่อยๆ จนถึงช่วง อาโออิ ตัดผมสั้นแล้วนั่นแหละที่ความฮาก็หายไปพร้อมกับผมด้วย เหลือไว้แค่ความ ดราม่า กับความ โรแมนซ์ในช่วงท้าย

      แต่ที่สะดุดก็คือเหมือนทั้งสองคนจะเริ่มกลายเป็นเด็กที่อยู่อาศัยกันแบบสามีภรรยากันแล้วในช่วงนึง ที่อาโออิ ก็พยายามทำตัวเป็นแม่บ้าน ชูเซย์ ก็ออกไปทำงานพิเศษนอกบ้านหารายได้ ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเนื้อหาต้องการเอาใจเซอร์วิส แฟนตาซี ของสาวๆที่จินตนาการการใช่ชีวิตคู่กับแฟนในวัยเรียนหรือเปล่านะ ดูค่อนข้างจงใจพอสมควร 

      เอาจริงก็ไม่รู้ว่าที่นู่นเขามีเรื่องแบบ นักเรียน นักศึกษาเป็นแฟนกันเช่าห้องอยู่ร่วมกันหรือเปล่านะ แต่ถ้าบ้านเรานี่ไม่แปลกเพราะมีให้เห็นกันอยู่

      สรุปแล้ว LDK อาจจะไม่ถึงกับเป็น Live Action จากมังงะที่ลงตัวมากนัก แต่โดยรวมของหนังเองก็ยังตอบโจทย์ความบันเทิงคอหนังโรแมนติก คอมเมดี้ ได้ พอจะมีความฟินประมาณนึง

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...