วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Children (2011)

Children (2011) ปริศนา เด็กไร้เงา
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Crime
      หนังอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างจากคดีดัง (Frog Boys) ของประเทศเกาหลี  เมื่อ 26 มีนาคม 1991 เด็กชาย 5 คนหายตัวไปหลังจากขึ้นไปจับกบและวิ่งเล่นบนภูเขา วารยอง (Waryong) ซึ่งเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นวันเดียวกันกับที่มีการเลือกตั้งท้องถิ่น หลังจากที่พ่อแม่ของเด็กเข้าแจ้งความจนกลายเป็นข่าวดัง 

      สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วประเทศ ถึงขั้นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาช่วยค้นหามากมาย  พ่อแม่ของพวกเด็กๆต้องออกจากงานหยุดทำมาหากิน   เพื่อออกมาตามหาลูกๆของพวกเขา แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถค้นพบเด็กๆที่หายไปได้


      คังจีซู ()โปรดิวเซอร์ข่าวสถานีโทรทัศน์จากโซลถูกย้ายมายัง แดกู เมืองเล็ก ๆ ชนบทที่ไม่ค่อยจะมีข่าวอะไรน่าสนใจนักนอกจาก คดีการหายตัวไปของเด็ก 5 คน ขณะขึ้นไปเล่นบนภูเขาโทอัค แล้วหายตัวไป ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มีการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ไม่ว่าจะใช้กำลังตำรวจอาสาสมัครค้นหาเท่าไหร่ก็ยังไม่เจอแม้แต่เงาของพวกเด็ก ๆ 

      จนเจ้าหน้าที่เริ่มจะถอดใจหลังเหตุการณ์ผ่านมานานถึงสี่ปีแล้วในตอนนี้ แต่ด้วยความที่ คังจีซู โดนย้ายมาเพราะตัวเองทำความผิดไว้ที่โซล จึงมีไอเดียในการพาตัวเองกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยทฤษฎีของศาสตราจารย์ ฮวาง (
ที่ในอดีตเขาเคยเสนอแนวคิดนี้ของตัวเอง แต่กลับไม่มีใครเชื่อสักคน ทั้งสองคนก็เลยร่วมมือกันรวบรวมข้อมูล ที่มาประมวลผลกับแนวคิดของ ฮวาง ซึ่งสุดท้ายแล้วมันกลับบ่งชี้มาที่ครอบครัวของ จองโฮ หนึ่งในเหยื่อที่หายไปว่าอาจจะมีส่วนกับเรื่องที่เกิดขึ้น
*
**🤐
เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน(เยอะพอสมควร)


      หลังจากนั้นอีก 11 ปีเด็กๆทั้ง 5 คนก็ถูกพบจนได้บนภูเขา วารยอง ที่ค้นหากันมาก่อนหน้านี้มากกว่า 500 ครั้งที่ไม่เคยเห็นแม้แต่เงา แต่การพบครั้งนี้ทั้งหมดก็ได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งสาเหตุของการเสียชีวิตก็ถูกระบุว่าเป็นการฆาตกรรม แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีหลักฐานที่สามารถสาวถึงตัวใครได้ จนในปี 2006 คดีก็ได้หมดอายุความลง

      ก่อนจะได้ดูก็คิดเหมือนกันนะว่าเรื่องนี้คือหนังที่สร้างจากเรื่องจริง แล้วจะสามารถตีความแบบไหนได้อีก หรือว่าจะสร้างแบบเป็นเส้นตรงตามข้อมูลของคดีในอดีต แต่พอได้ดูจนจบเรื่องแล้วค่อนข้างชอบกับเรื่องที่หนังตีความ แม้จะดูใจร้ายกับครอบครัวเหยื่อไปสักหน่อยก็เถอะ

      ปรกติแล้วเวลาเราดูหนังสืบสวนเชื่อว่าหลาย ๆ คน คงคอยมองหาคนร้ายตัวจริงกันแน่ ๆ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็ใส่เข้ามาด้วยนะ แม้จะไม่มีผลกับเนื้อเรื่องหลักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่หนังก็เหมือนตีแซกหน้าตัวละคร(อาจจะรวมถึงคนดูด้วย😑) คังจีซูและฮวาง ทั้งที่ตัว ฮวาง เป็นถึงอาจารย์มีความรู้สอนคนอื่นได้มากมาย 

      แต่กลับไม่สามารถสอนตัวเองได้ในเรื่องเดียวกันกับที่สอนคนอื่น รวมทั้ง คังจีซู สองตัวละครนี้เห็นแก่ตัวและมองหาแค่สิ่งที่ตนเองอยากเห็นเท่านั้น ทั้งที่ความเชื่อของตัวเองมีข้อโต้แย้งมากมายแต่กลับไม่เคยสนใจ

      พ่อแม่และครอบครัวของเด็ก ๆ ที่หายไปเอาจริง ๆ แล้ว พอเราได้ดูจนถึงตอนจบ ทั้งหมดก็ไม่ต่างจาก คังจีซูและฮวาง เช่นเดียวกัน ด้วยความที่อยากรักษาความหวังและต้องการให้เจ้าหน้าที่ยังสนใจคดีนี้อยู่ ก็เลือกที่จะปกปิดข้อมูลบางอย่างจนมันได้ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

      สำหรับตำรวจในหนังเรื่องนี้แล้วถึงแม้จะมีผู้ต้องสงสัยอยู่ในใจ แต่ถ้าหากปราศจากหลักฐานแล้วยังไงก็คงไม่สามารถนำตัวใครมาลงโทษได้เหมือนกับที่นักสืบพัค ให้ภาพสเกตและข้อมูลคนร้ายกับ คังจีซู ไปสืบหาเอาเองว่าชายคนนั้นใช่คนร้ายจริงหรือไม่

      พอได้ดูหนังเรื่องนี้จน...จบประโยคของ ฮวาง ที่พูดสอนนักเรียนในฉากแรกที่ คังจีซูพบกับเขา ก็ผุดเข้ามาในหัวผม “ที่น่ากลัวก็คือ พอคนรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องหลอกลวง พวกเขากลับเชื่อว่าศรัทธาทำให้พวกเขาแคล้วคลาด แทนที่พวกเขาจะเชื่อว่าตัวเองถูกหลอกเข้าให้แล้ว แต่พวกเขาไม่ยอมรับว่าถูกหลอก เพราะกลัวว่าศรัทธาจะแตกสลายไป”

      คนแรกที่นำเสนอทฤษฎี ความไม่กลมกลืนของความคิด (Cognitive dissonance) นี้ก็คือ ลีออน เฟสติงเกอร์ (นักจิตวิทยาสังคมชาวอเมริกกกา)

      พูดง่าย ๆ ว่าทั้ง คังจีซูและฮวาง ก็เลือกจะเชื่อเพียงสิ่งที่ตนเองต้องการมองเห็นและปิดกั้นความจริงด้านอื่น ที่มันจะทำลายความเชื่อของตัวเองที่มีต่อคดีนี้ รวมทั้ง พ่อแม่ของจองโฮ ที่เลือกจะปกปิดข้อมูลบางอย่างเพียง เพื่อรักษาความหวังในการตามหาเด็ก ๆ ที่หายไป 

       รวมทั้งจะเป็นการดีกว่าหากยังหาเด็ก ๆ ไม่พบ เพื่อที่จะยังมีความหวังลึก ๆ ว่าเด็กทั้ง 5 คนจะยังมีชีวิตอยู่ ยังดีกว่าพบแล้วผลลัพธ์ที่ได้คือร่างไร้วิญญาณของลูกตัวเอง

      สรุปแล้ว Children (2011) ปริศนา เด็กไร้เงา เป็นหนังที่มากกว่าการเอาคดีดังในอดีตมาสร้างเป็นหนัง แต่ยังตีความต่อยอดแนวความคิดของคนที่เกี่ยวข้องในหนังออกมาได้ดีอีกด้วย แม้ในมุมหนึ่งมันอาจจะดูสรุปเอาเองและใจร้ายกับคนที่เกี่ยวข้องอยู่พอสมควร

ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Children (2011)


#MovieReview #รีวิวหนัง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...